28 ธ.ค. 2024 เวลา 03:07 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

ความสุขคืออะไร : รีวิว summer strike

เหตุผลที่คนชอบดูหนังเกาหลีแนวฟีลกู้ด บางเรื่องได้แง่คิดและมุมมองมาปรับใช้กับชีวิตด้วยนะ ไม่ใช่ได้แต่ความเพลิดเพลินเพียงอย่างเดียว
อ้อยคราฟต์เป็นคนชอบทำโน่นทำนี่ ชีวิตติด to do list ถึงแม้เกษียณแล้วก็ยังติดนิสัยชอบการวางแผนจัดการเวลาเหมือนสมัยทำงาน
สิ่งที่อยากทำหลังเกษียณมีเยอะไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการปลูกกุหลาบ เปิดร้านหนังสือ เรียนวาดรูปทั้งสีน้ำ และวาดดิจิตอล ชีวิตตอนนี้ยุ่งวุ่นวายมากกว่าสมัยยังทำงานเสียอีก แต่ความเป็นจริง การทำหลายสิ่งหลายอย่างทำให้รู้สึกเครียดและชีวิตถูกกดดัน
แต่พอดูหนังเรื่องนี้ ทำให้เปลี่ยนมายเซ็ต คนเราไม่จำเป็นต้อง productive ตลอดเวลา โดยเฉพาะคนวัยเกษียณ ควรใชัชีวิตแบบสบาย ๆ ไม่ต้องเร่งรัดพัฒนาตัวเองเหมือนสมัยยังหนุ่มยังสาวอีกแล้ว
เรื่องราวของซีรีส์ summer strike ยอรึม นางเอก เธอเป็นสาวอายุ 28 เคยทำงานเป็นสาวออฟฟิศในเมืองหลวงกรุงโซล หลังแม่ตาย ครอบครัวเหลือเพียงพี่ชายคนเดียวซึ่งเป็นคนเห็นแก่ตัว เลยไม่สนิทกัน
ชีวิตเธอเคว้งคว้างในเมืองใหญ่ ใช้ชีวิตตัวคนเดียวไม่มีความสุข ถูกแฟนทิ้ง ในที่ทำงานก็ถูกหัวหน้าผู้ชายเอาเปรียบจนถึงขั้นคุกคามทางเพศ ทุกวันต้องเบียดเสียดผู้คนขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงาน เหนื่อยกับชีวิตซ้ำซากจำเจ
วันหนึ่งเธอไปทำงานสาย จึงโดนหัวหน้าต่อว่า ทำให้จู่ ๆ ยอรึมก็คิดว่างั้นลาออกจากงานดีกว่า เธอขายข้าวของทุกอย่างในห้องพัก แล้วแบกเป้ใบเดียวนั่งรถบัสไปเที่ยวเมืองอันกก เมืองชายทะเลที่มีวิวสวย เธอตัดสินใจจะใช้ชีวิตแบบไม่ทำอะไรเลยอยู่ที่เมืองนี้ โดยไม่มีการวางแผน ไม่มีเป้าหมาย
เหตุผลที่ยอรึมตัดสินใจอยู่เมืองนี้ เพราะเมืองนี้มีห้องสมุด เธอเป็นคนชอบอ่านหนังสือ
เธออาศัยอยู่ที่ตึกร้างคนเดียวเนื่องจากค่าเช่าถูก แต่ละวันจะไปหมกตัวอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องสมุด จนได้รู้จักกับพระเอกที่เป็นผู้ช่วยบรรณรักษ์
ในเมืองนี้เธอได้รู้จักผู้คนที่มีปัญหาชีวิตมากกกว่าเธอ เด็กสาวมัธยมปลายที่พ่อติดเหล้าครอบครัวแตกแยก พระเอกถึงแม้จะเป็นหนุ่มโสด แต่ก็มีปมปัญหาในวัยเด็ก พี่สาวถูกฆาตกรรมผู้ต้องสงสัยคือพ่อ ของเขา ต่อมาแม่ก็กินยาตาย พระเอกพูดน้อย เก็บตัว ไม่สามารถปรับตัวใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป ถึงแม้จะเรียนจบถึงขั้นปริญญาเอก
เมื่ออยู่เมืองนี้นานวันเข้า ยอรึมกลายเป็นพลังบวกให้ผู้คนโดยไม่รู้ตัว เพราะนิสัยเป็นคนไม่เรื่องมาก ยอมคนง่าย ไม่ดึงดัน ชอบช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน เธอเริ่มมีความผูกพันกับเมืองนี้
ตอนแรกเธอตั้งใจอยู่เมืองนี้แค่ชั่วคราว เหมือนหยุดซัมเมอร์เพื่อค้นหาตัวเอง แต่ในที่สุดเธอก็พบว่าที่นี่เหมาะสมกับเธอ
เธอเริ่มหางานทำ เป็นงานส่งอาหารให้ผู้สูงอายุตั้งแต่ตีสี่ครึ่งถึง 8 โมงครึ่ง วันละ 4 ชม. เธอชอบทำงานน้อย ๆ แต่ได้ค่าตอบแทนเป็นเวลา หลังจากนั้น “วันทั้งวันก็เป็นของฉัน”
เธอเอาเวลาที่เหลือแต่ละวันไปเข้าห้องสมุด อ่านหนังสือ คัดลอกหนังสือเล่มที่ชอบ ตอนเย็นวิ่งออกกำลังกายริมทะเลกับพระเอก
ตอนจบนางเอกถามตัวเองว่า“ความสุขของชีวิต คืออะไร”
เธอค้นนิยามความสุขจากพจนานุกรม บอกว่า “ความสุขคือความพึงพอใจในชีวิตกับความปลาบปลื้มที่รู้สึกถึงความอิ่มใจ และสภาวะทำนองนั้น”
เธอมองว่าคำนิยามนั้นยาวเกินไปเลยย่อให้สั้นอย่างนี้
“ความสุขคือ สภาวะที่ไม่ขาดอะไร”
เธอทบทวนชีวิตตัวเองในตอนนี้
“ฉันปั่นจักรยานตั้งแต่เช้าตรู่ได้ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นริมทะเลทุกวัน ลมเย็น ๆ ปะทะร่างกายจนหนำใจ อิ่มใจจัง แค่นี้เพียงพอแล้ว”
“เวลาตากผ้าฉันชอบเสียงพรึ่บพรึ่บของเสื้อผ้า และชอบกลิ่นสบู่ที่ติดมือ แค่นี้เพียงพอแล้ว”
“การได้ยืนอยู่หน้าชั้นหนังสือและชั่งใจว่าจะอ่านอะไรดีนั้นสนุกอยู่เสมอ ตื่นเต้นจัง เพียงแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว”
ยอรึมค้นพบว่า ความสุขคือ ความเพียงพอ ไม่รู้สึกขาดอะไร ชีวิตไม่ต้องจริงจัง ไม่ต้องมีเป้าหมายใหญ่โตมากดดันตัวเอง พอใจสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่รู้สึกชีวิตขาดแคลน
ตอนใช้ชีวิตอยู่เมืองหลวง นางเอกเบื่อหน่ายชีวิตตัวเอง แต่พอมาอยู่เมืองนี้ได้รู้ว่าคนอื่น ๆ มีปัญหาชีวิตเหมือนกัน เธอจึงเข้าใจคนอื่น จึงหยิบยื่นความช่วยเหลือ ผู้คนจึงเอาชีวิตเธอเป็นตัวอย่าง ชีวิตที่เรียบง่ายแต่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ดิ้นรนอะไรมากมาย ใช้ชีวิตทีละวันโดยไม่ต้องทะเยอทะยาน ทำงานหาเงินให้มาก ๆ
หนังเรื่องนี้สะท้อนทัศนคติการใช้ชีวิตของคนในสังคม คนเราเกิดมาไม่มีใครมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ส่วนใหญ่จะมีปัญหากันทุกคน ถ้าสู้ชีวิต ชีวิตก็จะสู้กลับ ยิ่งจะทำให้เหนื่อยมากขึ้น แต่ถ้าอยู่เฉย ๆ ยอมรับความจริง ใช้ชีวิตโดยไม่ต้องพยายามจนเกินไป ก็เพียงพอแล้ว แต่ใช่ว่านางเอกจะงอมืองอเท้า ไม่ยอมพัฒนาศักยภาพตัวเอง ในตอนเย็น เธอจะฝึกเขียนนิยายลงเว็บตูน เป็นงานอดิเรก
อ้อยคราฟต์ ใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว เลี้ยงหมา 2 ตัวเป็นเพื่อน ไม่มีเงินเก็บมากมาย จึงไม่ค่อยได้ไปท่องเที่ยวเหมือนเพื่อนวัยเกษียณคนอื่น ๆ แต่โชคดีที่เธอไม่มีหนี้ อยู่บ้านตัวเอง มีเงินยังชีพจากบำนาญ หลังดูซีรีส์เรื่องนี้ เธอคิดว่าเธอก็อยู่ในสภาวะที่ไม่ขาดแคลนเหมือนกัน
การได้จิบกาแฟร้อน ๆ กับนิวยอร์คชีสเค้กแสนอร่อยหลังตื่นนอนตอนเช้า ก็เพียงพอแล้ว
เธอชอบแต่งบ้านจัดสวน ทำอาหารกินเอง ตอนเช้าเธอจะนั่งริมหน้าต่างจิบกาแฟอ่านหนังสือมองดูสวนครัวข้างบ้าน
เดินลงไปดูต้นไม้ในสวน เห็นต้นแหย่แย้ที่แยกต้นชำไว้ 10 กว่าต้น ผ่านไปเกือบเดือนแล้ว ตอนนี้กำลังแตกใบใหม่ รู้สึกตื่นเต้น แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
หลังให้อาหารหมา เลดี้วัน(ลูกหมา)ก็จะมานั่งก้มหัว กระดิกหาง มองเราตาโตด้วยความขอบคุณ แค่นี้ก็อิ่มใจ รู้สึกเพียงพอแล้ว
ตอนนี้อ้อยคราฟต์เลิกตั้งเป้าหมายทำอะไรหลายอย่าง หันมาโฟกัสเรื่องง่าย ๆ ขอแค่กินอิ่ม(แต่ต้องอร่อยด้วย) นอนหลับ ทุกวันได้ออกกำลังกาย ตอนเย็นได้นอนดูซีรีส์สนุก ๆ แค่นี้ชีวิตก็มีความสุขเพียงพอแล้ว
ซีรีส์ Summer Strike เรื่องนี้ดราม่าไม่ขมหมือนเรื่องอื่น ๆ ดูแล้วผ่อนคลาย แต่ได้แง่คิดที่อาจนำมาปรับใช้กับชีวิตตัวเราเองให้มีความสุขขึ้นได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องพยายามเกินไป
#อ้อยคราฟต์ไดอารี่
โฆษณา