28 ธ.ค. 2024 เวลา 03:47 • หุ้น & เศรษฐกิจ

วิเคราะห์บริษัทที่ขายของผ่าน Distributor ต่างประเทศ... อย่าดูงบระยะสั้น

.
ทำไม ? เพราะมันทำให้ดูดีง่ายมากครับ แถมเป็นการทำแบบถูกกฎหมายด้วย
.
1️⃣ ถ้าทำธุรกิจกันมานาน บริษัทสามารถขอให้ Distributor สั่งของเพิ่มได้ง่ายมาก บางครั้งก็ขอกันเฉยๆ นี่แหละครับ เพราะอาจจะมีผลประโยชน์ด้านอื่นที่เกี่ยวข้องกัน... อย่าลืมนะครับ หุ้นหลายตัว PE 25-30 เท่า การที่เจ้าของยอมเสียอะไรบางอย่าง เพื่อเก็บกำไรไว้ในบริษัท บางครั้งก็คุ้มค่า (ในมุมของเจ้าของ)
.
2️⃣ ถ้าต้องการเสนออะไรให้ Distributor เพื่อแลกเปลี่ยนกับการสั่งที่มากขึ้น อันนี้ก็ไม่ยากครับ แค่ตกลงเพิ่ม Credit term ให้ยาวขึ้น จะกลายเป็นข้อเสนอที่ Win-Win ทันที... Distributor ไม่ได้เสียอะไร ได้ของไปเพิ่ม แต่ยังไม่ต้องจ่ายเงิน เรื่องพวกนี้เราจะไม่เห็นในงบการเงินนะครับ เพราะ credit term ของบริษัทพวกนี้ปกติก็ 3 เดือนอยู่แล้ว จะให้เพิ่มเป็น 4-5 เดือน ตัวเลขก็ไม่ได้ขยับมาก และกว่าจะเห็นในงบกระแสเงินสดก็ต้องรอผ่านไป 3-4 เดือน
.
3️⃣ อัดของให้ Distributor ได้เต็มที่ แค่เซ็นสัญญาว่า ถ้ามีของเหลือ บริษัทต้นทางจะรับผิดชอบ เรื่องนี้ทำให้ Distributor ไม่กลัวการสั่งที่เกินพอดี เพราะเค้าไม่ได้เสียหายอะไร ถ้าขายไม่ออก สุดท้ายก็แค่ต้องส่งคืน... ซึ่งเรื่องนี้น่ากลัวครับ เป็นเหมือนระเบิดที่ผู้ถือหุ้นจะไม่มีทางรู้เลย จนกว่ามันจะระเบิดออกมา กลายเป็นอยู่ดีๆ ยอดขายก็หายวับไปเลย แถมต้องตั้งสำรองค่าเสียหาย เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับหลายบริษัทในอดีต
.
1
4️⃣ Distributor ที่อยู่ในตลาดมานาน สามารถขอให้ Retailer (ร้านค้า) สั่งของไปตุนได้ หรือแปลง่ายๆ ก็คือ ของขายจากบริษัทต้นทางที่ไทย ไปเป็นสต๊อคสินค้าในร้านปลายทาง บริษัทต้นทางจะได้ยอดขายแล้วทั้งๆ ที่ของยังไม่ได้ขายให้ผู้บริโภคเลย ซึ่งเรื่องทั้งหมดนี้ไม่มีแสดงบนงบการเงินของทั้งบริษัทและ Distributor ครับ
.
5️⃣ สุดท้าย บางทีขายไม่ออก แต่อยากได้ยอด ก็หันไปขายให้กับ "Export distributor" ช่องทางนี้ คนทั่วไปอาจจะงงว่า มันคืออะไร ? ในหลายประเทศจะมี Distributor ประเภทนี้อยู่ ที่รับซื้อทุกอย่าง ขอแค่ได้ข้อเสนอที่ดี พวกเค้าจะหาช่องทางขายต่อไปได้เอง (อารมแบบเทาๆ)
.
หลายครั้ง ช่องทางที่พวกเค้าขายจะไม่ได้เป็นผลดีกับบริษัทในระยะยาว อาจจะวนมากินตลาดของ Distributor หลัก หรือ อาจจะไปอยู่ในร้านขายของลดราคา ซึ่งสุดท้ายทำลายแบรนด์... คุณเคยไปต่างประเทศ แล้วเดินตามร้านขายของแบรนด์ลดราคา แล้วเจอของใช้ราคาถูกกว่าในห้างเกือบครึ่งมั้ยครับ ? นั่นแหละครับ มันผ่านมาทาง สิ่งที่เรียกว่า Export Distributor
.
.
.
สุดท้าย ขอย้ำนิดนึงนะครับ ผมไม่ได้บอกว่าบริษัทพวกนี้ลงทุนไม่ได้ ผมแค่อยากบอกว่า "อย่าดูงบระยะสั้น" เพราะมันปั้นกันง่าย อย่างน้อยๆ ต้องดูงบ 5-6 ไตรมาสต์ครับ เพราะถ้ามันยาวมาก การปั้นยอดจะทำได้ลำบาก ถ้าสินค้าไม่ได้เป็นที่ต้องการของตลาดจริงๆ
.
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณนะครับ #Salarymanติดปีก
โฆษณา