28 ธ.ค. 2024 เวลา 11:44 • หุ้น & เศรษฐกิจ

EP 53 เศรษฐกิจและตลาดปี 2024: ทำไมศิลปะหรูถึงซบเซา ขณะที่หุ้น PopMart พุ่ง 350 %

ในปี 2024 ตลาดศิลปะหรู (Fine Art) ประสบกับความซบเซาอย่างเห็นได้ชัด แม้เศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัว แต่กลุ่มผู้บริโภคระดับไฮเอนด์กลับลดการใช้จ่ายในสินทรัพย์หรูหรา เนื่องจากความไม่แน่นอนในสินทรัพย์การลงทุนแบบดั้งเดิม เช่น อสังหาริมทรัพย์และพันธบัตร จากรายงาน Art Market Report 2024 ของ Art Basel และ UBS ระบุว่ามูลค่าการซื้อขายศิลปะทั่วโลกลดลง 7% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ในทางกลับกัน หุ้นของ PopMart เติบโตขึ้นถึง 350% ซึ่งสะท้อนถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นในกลุ่ม Gen Z และ Millennials ที่มุ่งเน้นสินค้าความบันเทิงราคาย่อมเยา การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของตลาดอีคอมเมิร์ซและวัฒนธรรมแฟนด้อมที่มีอิทธิพลต่อการบริโภค ดังนั้น การลงทุนในศิลปะหรูอาจเผชิญกับความท้าทาย ขณะที่สินค้าความบันเทิงและไลฟ์สไตล์กลับได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่
มูลค่าตลาดตลาดศิลปะหรู (Fine Art) ปี 2024
ตามรายงาน Art Basel and UBS Global Art Market Report 2024 มูลค่าการซื้อขายศิลปะทั่วโลกในปี 2023 อยู่ที่ประมาณ 65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 7% คิดเป็นมูลค่าเท่ากับ 4.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่หายไปจากตลาด
The Art Basel and UBS Global Art Market Report 2024
สำหรับประเทศที่มีมูลค่าการซื้อขายศิลปะสูงสุด 3 อันดับแรก คือ:
  • 1.
    สหรัฐอเมริกา: มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 42% ของยอดขายทั่วโลก
  • 2.
    จีน: มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 19% ของยอดขายทั่วโลก
  • 3.
    สหราชอาณาจักร: มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 17% ของยอดขายทั่วโลก
เมื่อรวมกันแล้ว ประเทศทั้งสามนี้คิดเป็นประมาณ 78% ของมูลค่าตลาดศิลปะทั่วโลกในปี 2023 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของตลาดศิลปะในภูมิภาคเหล่านี้และการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการใช้จ่ายของนักสะสมในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในตลาดศิลปะหรู (Fine Art)
การลดลงของมูลค่าการซื้อขายศิลปะหรู (Fine Art) ในปี 2024 ประมาณ 7% มีสาเหตุหลักจากหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในตลาดศิลปะ ดังนี้:
  • 1.
    การลดการใช้จ่ายของนักสะสมระดับสูง: นักสะสมลดการใช้จ่ายในงานศิลปะระดับท็อปลง โดยเฉลี่ยลดลงถึง 32% ซึ่งส่งผลให้ยอดขายโดยรวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
  • 2.
    การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการซื้อของนักสะสม: นักสะสมรุ่นใหม่ เช่น Gen Z และ Millennials มีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อผลงานที่มีราคาต่ำกว่าและเข้าถึงได้ง่าย
  • 3.
    แนวโน้มการขายมากกว่าการซื้อ: รายงานระบุว่ามีผู้วางแผนจะขายงานศิลปะเพิ่มขึ้นเป็น 55% ขณะที่ผู้ที่วางแผนจะซื้อกลับลดลงเหลือ 43% ซึ่งหมายความว่าตลาดกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากการขายที่สูงขึ้น
มูลค่าตลาดของ Art Toys หรือ Figures ปี 2024
ในปี 2024 ตลาด Art Toys หรือ Figures ทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 8,517.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2023 และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 10,938.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ประมาณ 4.26% ต่อปี
PopMart มีการเติบโตที่น่าประทับใจในตลาด Figures โดยมียอดขายในประเทศจีนเพิ่มขึ้น 31.5% คิดเป็นรายได้ประมาณ 15,364 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 259.6% คิดเป็นรายได้ประมาณ 6,476 ล้านบาท โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้า Blind Box ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก การเติบโตของ PopMart ในปี 2024 ส่งผลให้ราคาหุ้นPopMart ขยายตัวถึง 350%
สัดส่วนรายได้ของ PopMart ในตลาดต่างประเทศแบ่งตามภูมิภาค
ในปี 2024 สัดส่วนรายได้ของ PopMart ในตลาดต่างประเทศแบ่งตามภูมิภาคมีดังนี้:
  • เอเชียตะวันออกเฉียงใต้: มีสัดส่วนประมาณ 41.1% ของยอดขายต่างประเทศ โดยมียอดขายประมาณ 560 ล้านหยวน เติบโตขึ้นกว่า 478.3% จากปีที่แล้ว
  • เอเชียตะวันออก (รวมฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน): มีสัดส่วนประมาณ 35.4% ของยอดขายต่างประเทศ โดยมียอดขายประมาณ 480 ล้านหยวน เติบโตขึ้นกว่า 153.7%
  • อเมริกาเหนือ: มีสัดส่วนประมาณ 13.2% ของยอดขายต่างประเทศ โดยมียอดขายประมาณ 180 ล้านหยวน เติบโตขึ้นเกือบ 377.7%
  • ยุโรปและตลาดอื่นๆ: มีสัดส่วนประมาณ 10.3% ของยอดขายต่างประเทศ โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 140 ล้านหยวน เติบโตขึ้นกว่า 158.8%
การเติบโตที่แข็งแกร่งในตลาดต่างประเทศ ชี้ให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ PopMart ในกลุ่มผู้บริโภคทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z และ Millennials ที่สนใจในสินค้าความบันเทิงที่มีเอกลักษณ์และราคาย่อมเยา
บทสรุป
การลดลงของมูลค่าการซื้อขายศิลปะหรู (Fine Art) ในปี 2024 ลดลง เมื่อเชื่อมโยงกับ PopMart ซึ่งเติบโตขึ้นถึง 350% ในปีนี้ ตลาดของสะสมที่มีราคาย่อมเยากลับได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหาความบันเทิงและสินค้าที่สะท้อนตัวตน การเติบโตนี้ชี้ให้เห็นถึงความต้องการในสินค้าที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและตอบสนองต่อความสนใจของผู้บริโภค Gen Z และ Millennials ขณะที่ตลาดศิลปะหรูกลับเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
Econ Insight: คำศัพท์เศรษฐศาสตร์
High-End Consumer Spending (การใช้จ่ายของผู้บริโภคระดับไฮเอนด์)
หมายถึง การใช้จ่ายของผู้บริโภคกลุ่มที่มีรายได้สูงในสินค้าหรูหรา เช่น ศิลปะ อัญมณี และรถยนต์ระดับพรีเมียม การลดลงของการใช้จ่ายในกลุ่มนี้ในปี 2024 สะท้อนความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการลงทุน
Fandom Culture (วัฒนธรรมแฟนด้อม)
วัฒนธรรมที่ผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งมีความหลงใหลและสนับสนุนแบรนด์หรือสินค้าใดสินค้าหนึ่งอย่างแข็งขัน เช่น กลุ่มแฟนคลับของ PopMart ที่นิยมซื้อ Blind Box ซึ่งเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้ความคาดเดาไม่ได้เพื่อสร้างแรงจูงใจ
Blind Box Economy (เศรษฐกิจกล่องสุ่ม)
แนวคิดทางการตลาดที่ขายสินค้าในกล่องปิดสนิท ผู้บริโภคจะไม่รู้ว่าภายในมีอะไร จนกว่าจะเปิดออก วิธีนี้สร้างความตื่นเต้นและกระตุ้นยอดขาย โดยเฉพาะในตลาดของสะสม
Art Market Liquidity (สภาพคล่องของตลาดศิลปะ)
ความสามารถในการซื้อขายผลงานศิลปะได้อย่างรวดเร็วโดยไม่สูญเสียมูลค่า สภาพคล่องที่ต่ำในปี 2024 ทำให้นักลงทุนจำนวนมากเลือกที่จะขายแทนการซื้อ ซึ่งส่งผลลบต่อตลาดศิลปะหรู
โฆษณา