28 ธ.ค. 2024 เวลา 13:32 • ปรัชญา
ทุกครั้งที่พี่ไปเยี่ยมใครในโรงพยาบาล
หรือไปส่งผู้ป่วยระยะสุดท้ายเดินทางไกล
ด้วยความที่พี่เป็นนักสังเกตุปรากฏการณ์
ที่อยู่รอบข้างพี่พบว่าคนที่มาที่นี่แล้วมีรอยยิ้ม
คือคนที่มาต้อนรับชีวิตใหม่ที่เกิดมาเท่านั้น
และพี่ก็นั่งพิจารณาผู้คนที่อยู่ร่วมในกองทุกข์
แห่งนี้ว่าอยากให้เค้ารู้ความจริงแท้ในเรื่องที่เรารู้
เพื่อเค้าจะได้ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทและไม่หลง
เพลินในกองทุกข์แห่งนี้วันนี้มีเพื่อนๆในbd
inboxเข้ามาเพราะได้อ่านคำตอบของพี่
และอยากศึกษาในแนวทางภาษาสมมุติ
เราแลกเปลี่ยนกันจนเค้าเข้าใจเนื่องจากเค้า
คงสะสมปัญญามามากเค้าจึงได้เข้ามาอยู่ในนี้
เพื่อตามหาคนที่เข้ามาปลุกการตื่นรู้ของเค้า
และเป็นเกียรติในชีวิตที่พาคนตื่นรู้ได้ภายในสองชั่วโมง
ย้อนกลับมาที่คำถามของน้องวันก่อนพี่ไป
ทานเลี้ยงที่โรงแรมหรูทุกคนสนุกสนานแย่งกันคุย
ไม่มีใครฟังใครดนตรีบรรเลงเพลงเบาๆข้างในพี่
กลับเชื่อมต่อความสงบเย็นจากด้านในจนผู้ใหญ่เดินเข้ามาพูดกับพี่ว่า
คุณเป็นคนที่สงบมากแม้กระทั่งการเคลื่อนไหว
ยังเต็มไปด้วยความสงบพี่จึงเล่าถึงหลวงปู่ติชให้ท่านฟัง
แล้วหยิบหนังสือปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่เสมอให้ท่านไปอ่านวันนี้ท่านอ่านจนจบแล้วพูดกับพี่ว่าหลวงปู่ของพี่
ช่างเป็นต้นแบบให้พี่โดยแท้ภาษาของหลวงปู่ราวกับ
บทกวีที่งดงามที่เป็นแบบนี้เพราะหลวงปู่ได้เคลียร์
พื้นที่ของจิตให้ว่างและเชื่อมต่อกับอนันตจักรวาลได้
เรื่องเล่าที่ออกมาจากหลวงปู่จึงเป็นบทกวีที่สวยงาม
เหมือนเรื่องชาในถ้วยและก้อนเมฆพี่ใช้เวลาไปเข้าคอร์ส
กับหลวงปู่15วันเหมือนได้เข้าคอร์สการเป็นนักปราชญ์
พอกลับออกมาพี่ก็เห็นโลกในมิติที่เปลี่ยนไปเห็นทั้งมีและไม่มีในคราวเดียวกันเป็นมิติของปรุงแต่งและไม่ปรุงแต่ง
พร้อมๆกันส่วนใครที่อ่านสิ่งที่พี่สื่อสารได้อย่างเข้าใจนั่นเป็นเพราะจิตของคุณละเอียดประณีตมากกว่าเดิมแล้ว
กราบขอบคุณคำถามที่ดีที่นำมาสู่คำตอบที่น่าสนใจ
ขอบคุณการมีอยู่ของน้องขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ที่ให้กำเนิดน้องมาด้วยครับหลวงปู่เคยถามพี่ว่า
เห็นอะไรบ้างบนโต๊ะของหลวงปู่โต๊ะนั้นมีเพียงแจกัน
ดอกไม้แต่พี่รู้ว่าจะตอบแจกันและดอกไม้เท่านั้นก็คง
ไม่ใช่ศิษย์หลวงปู่พี่จึงตอบว่าเห็นแจกันเห็นดอกไม้
เห็นความว่างหลวงปู่ก็บอกว่าแล้วไม่เห็นน้ำเห็นดินเห็นแสงแดดเลยหรือพี่ซาโตริในทันทีที่หลวงปู่พูดจบ
1
โฆษณา