4 ม.ค. เวลา 04:00 • ความคิดเห็น

ท่าทางจะเกรียมกันหมด

ก่อนปีใหม่ผมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ มีการนำเสนอแนวทางต่างๆที่ซีอีโอแต่ละท่านให้ความเห็นไว้ค่อนข้างกว้างขวางและน่าสนใจ
ถือเงินสดไว้ในมือ ปรับแผนการลงทุน
ดูจะเป็นคำแนะนำที่แปร่งๆเมื่อเทียบกับกูรูหลายท่านช่วงก่อนที่ว่าเงินสดคือภาระ ไม่จำเป็นต้องถือครองมากเกินไป
อ่านจบยังเฉยๆอยู่
ครั้นเปิดดูโทรทัศน์ช่วงเช้านั่งฟังกูรูท่านหนึ่งวิเคราะห์เรื่องเงินๆทองๆกับการลงทุน
กูรูหนุ่มใหญ่ท่านนี้ให้ความเห็นสรุปได้ว่าปีหน้าภาพรวมทั่วโลกน่าจะเผาจริงตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป ดังนั้นพยายามเคลียร์ทุกอย่างในมือให้สะอาดแล้วถือเงินสดให้มากที่สุด
อ่านกับฟังแล้ว เฮ้ย! นี่มันอะไรกันล่ะเนี่ย?
ผมนึกว่าผมบ้าบอเรื่องถือเงินสดอยู่คนเดียวซะอีก
...
กูรูท่านนี้ยังบอกอีกว่าในบ้านเราครึ่งปีแรกยังพอไหว เรื่องส่งออกกับท่องเที่ยวยังพอไปได้ แต่ครึ่งปีหลังมีความผันผวนในทุกๆเซ็คเตอร์ สถานการณ์อาจจะหรือน่าจะแย่ลงไปกว่านี้เยอะ ขอให้ทุกคนตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท ตัดรายจ่ายอะไรได้ให้ตัด เก็บเงินไว้ดีๆ
ส่วนเรื่องการลงทุน ทุกอย่างไม่มีความแน่นอน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาไปในทางขาลง
ส่วนเรื่องภูมิรัฐศาสตร์กับสงครามต่างๆถ้าปิดเกมได้ ทองกับบิทคอยน์น่าจะลงมากกว่า ย้ำครับว่าถ้าปิดเกมได้
กูรูท่านนี้เน้นย้ำและแนะนำว่ากอดเงินสดไว้ครับ
...
ไหนใครที่ไหนว่าเงินสดคือภาระ?
เงินสดคือภาระ
ครับ มันจะเป็นภาระเมื่อลงทุนไม่ถูกส่วนหรือเก็บไว้อย่างเดียวเพราะตัวเงินเองมูลค่าจะลดลงตามหลักการทั่วไป(แต่ไม่น่าใช่สำหรับผม ผมชอบเงินสด มันทันใจดี)
ผมถือว่าCash is King, all the timeด้วย
ไม่งั้นทำไมคุณวอร์เรน บัฟเฟตต์ถึงขายหุ้นในมือออกมาแล้วถือครองเงินสดล่ะ
กูรูแต่ละท่านก็แนะเรื่องถือเงินสดไว้ให้มาก รอการลงทุนที่น่าจะเกิดขึ้นในช่วงถัดไป หรือรอเลือกช็อปของถูกกันได้เลย
มันน่าจะมีอะไรทะแม่งๆอยู่
แต่เอาเถอะ
ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ขอให้ทุกท่านตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาทเถิด
สาธุ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา