30 ธ.ค. 2024 เวลา 03:59 • ประวัติศาสตร์

GS-EP3–ป่าลึกลับคำชะโนด และตำนานผีจ้างหนัง

ปี พ.ศ. 2532 ได้มีบุคคลลึกลับว่าจ้างบริษัทหนังเร่ไปฉายหนังกลางแปลงที่สถานที่แห่งหนึ่งในป่าคำชะโนด ซึ่งเกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้นมากมายที่ยังคงอธิบายไม่ได้จนถึงปัจจุบัน
คำชะโนดหรือป่าคำชะโนด คือพื้นที่ที่เป็นเกาะลอยน้ำเกิดจากการทับถมและผสานตัวของซากวัชพืชน้ำเป็นระยะเวลานาน มีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 3 ตำบล คือตำบลวังทอง, ตำบลบ้านม่วง และตำบลบ้านจันทร์ อ.บ้านดุง อุดรธานี ที่ชื่อคำชะโนดเนื่องมาจากมีต้นชะโนดขึ้นเต็มไปหมด พอถึงหน้าฝนพื้นที่รอบๆน้ำท่วมทุกปี แต่ที่นี่น้ำมักจะไม่ค่อยท่วมเลย เชื่อว่าเพราะมีพญานาคและสิ่งลี้ลับคอยปกปักรักษา
ชาวบ้านมักพบร่องรอยคล้ายงูขนาดใหญ่ที่เชื่อกันว่าเป็นรอยพญานาค นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของวัดชื่อดังของคอหวย อย่างวัดศิริสุทโธ หรือ วัดป่าคำชะโนด
เหตุการณ์ผีจ้างหนังที่โด่งดังเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2532 นายธงชัย แสงชัย เจ้าของบริษัทหนังเร่ “แจ่มจันทร์ภาพยนตร์” ได้เล่าว่า ทางบริษัทได้ถูกว่าจ้างจากบุคคลลึกลับเป็นจำนวน 4,000 บาท พร้อมวางมัดจำ 500 บาท ให้ไปฉายหนังกลางแปลงที่งานวัดที่หมู่บ้านวังทอง บริเวณป่าคำชะโนด ซึ่งห่างจากตัวเมืองอุดรธานีประมาณ 100 กม.
โดยมีข้อแม้อยู่ 3 ข้อ คือ 1.ต้องฉายจบแค่ตี 4 ของวันใหม่เท่านั้น 2.ทีมงานต้องเก็บข้าวของและออกจากหมู่บ้านก่อนฟ้าสาง และข้อ 3.ที่ถือว่าประหลาดที่สุดคือระหว่างเดินทางออกจากหมู่บ้าน ห้ามหันหลังกลับมามองเด็ดขาด
ทีมงาน 5 ชีวิต เดินทางโดยรถบรรทุก 6 ล้อมีหลังคาตั้งแต่ช่วงบ่ายพอถึงป่าคำชะโนดก็เป็นเวลาช่วงค่ำพอดี แต่ที่น่าแปลกคือทีมงานบอกว่าขับรถไปตามทางที่ผู้ว่าจ้างบอกตลอดเส้นทาง แต่ไม่พบหมู่บ้านหรือคนเลย จนเริ่มเอะใจว่ากำลังหลงทางหรือไม่
ระหว่างที่กำลังลังเลว่าจะเดินหน้าต่อหรือจะวกรถกลับนั่นเองก็ปรากฏหญิงสาวชุดดำ 2 คน อาสาจะเป็นคนนำทางไปยังจุดฉายหนัง ทีมงานหนังกลางแปลงเลยโล่งอกที่มาไม่ผิดทางและได้รับหญิงสาวทั้งสองขึ้นรถ แต่ก็แอบเอะใจเล็กน้อยว่าหญิงสาวทั้งสองเดินทางมาได้อย่างไรกลางป่ามืด ๆ แบบนี้ ยานพาหนะอะไรก็ไม่ได้มีติดตัวมาเลย
พอรถไปถึงหมู่บ้านบริเวณที่จัดงานวัดก็พบว่าไม่มีเครื่องเสียง ไม่มีมหรสพหรือการละเล่นอะไรก่อนหน้านี้เลย ลองนึกดูนะครับงานวัดปกติทั่วไปสมัยก่อนอย่างน้อยก่อนฉายหนังกลางแปลงหรือฉายหนังกลางแปลงก็ควรจะมีเสียงตามสาย มีร้องรำทำเพลง มีการแสดงลิเกหมอลำอะไรทำนองนี้ก่อน แต่นี่ไม่มีเลย และสิ่งที่แปลกกว่านั้นคือทีมงานหนังกลางแปลงสังเกตเห็นว่าทุกคนที่นี่จะใส่แค่ชุดขาวกับดำเท่านั้น โดยผู้ชายใส่สีขาว ผู้หญิงใส่สีดำไม่เว้นแต่กระทั่งเด็ก และทุกคนต้องทาหน้าสีขาวเหมือนกันหมด
21.00 น. เมื่อหนังเริ่มฉายผู้คนจะทยอยมานั่งดูเรื่อยๆ แต่การนั่งจะเป็นการนั่งแยกชายหญิงชัดเจน ไม่นั่งปะปนกัน ระหว่างหนังฉายไม่พบว่ามีร้านค้าขายของ หรือแม้แต่พ่อค้าแม่ขายหาบสินค้ามาขายเลยแม้แต่คนเดียว ผิดจากงานวัดทั่วไป
ทีมงานยังเล่าให้ฟังในภายหลังอีกว่าหนังที่นำไปฉายในคืนนั้นมีทั้งสิ้น 4 เรื่อง หนึ่งในนั้นคือเรื่องบ้านผีปอบ พบว่ามีผู้ชมนั่งชมกันนิ่งๆตลอดเวลาที่ฉายทุกเรื่อง ไม่มีการเดินไปเดินมา แม้ทีมงานคนพากย์จะยิงมุกสักเท่าไหร่ ไม่มีคนหัวเราะเลยสักคน ระหว่างฉายเจ้าภาพได้นำข้าวต้มมาแจกให้ทีมงานฉายหนังกิน ภายนอกดูเหมือนข้ามต้มซีด ๆ ชิ้นเนื้อเล็ก ๆ แต่เมื่อรับประทานพบว่าเป็นข้าวต้มที่อร่อยที่สุดที่เคยกินกันมา
จำข้อแม้ 3 ข้อของผู้ว่าจ้างได้ไหมครับ ข้อแรกที่ต้องฉายให้เสร็จก่อนตี 4 พอถึงตี 4 ก็มีคนมาเคาะประตูข้างรถให้เงินค่าจ้างส่วนที่เหลืออีก 3,500 บาท พร้อมกำชับให้ออกไปก่อนสว่างไม่งั้นจะออกยาก คนฉายเลยหยุดเครื่องฉายเปิดไฟสปอตไลต์ไปที่หน้าจอ ผู้คนที่เคยนั่งดูกันเนืองแน่นก่อนนี้ปรากฏว่าหายไปหมดแล้วไม่เหลือแม้แต่คนเดียว
ทีมงานก็เร่งเก็บของแล้วออกจากหมู่บ้านก่อนฟ้าสางตามข้อแม้ข้อที่ 2 ท่านผู้ฟังจำข้อตกลงข้อที่ 3 ได้ไหมครับ ว่าห้ามทีมงานหันกลับไปมองเด็ดขาด แต่ปรากฏว่ามีทีมงานคนหนึ่งเผลอหันกลับไปมองระหว่างรถกำลังเคลื่อนออกปรากฏว่าที่ที่เคยกลางจอฉายหนังบริเวณนั้นกลายเป็นป่าทึบไปแล้ว ไม่สามารถจัดฉายหนังให้คนมานั่งดูได้ แม้แต่ที่ที่จะแขวนจอหนังยังไม่มี
เมื่อมาถึงร้านค้าแห่งหนึ่งในตอนเช้าได้แวะเข้าไปซื้อของ คนขายเลยถามว่าไปฉายไหนที่ไหนมาทำไมมาเช้าจัง เจ้าหน้าที่เลยตอบว่าเลยไปจากที่นี่ 3-4 กม. เอง แต่คนขายกลับตอบว่าจะไปฉายได้ไง ตรงนั้นเป็นดงผีดงชะโนด เมื่อลูกน้องกลับถึงบริษัท ได้เอาเงินค่าฉายหนังไปให้เถ้าแก้และขอลาออกทันที
หลังจากเหตุการณ์ฉายหนังครั้งนี้ทางบริษัทธงชัยได้กลับมาคุยกันถึงเรื่องราวแปลกๆที่พวกเขาได้พบเจอในคืนนั้น ทำให้ทางบริษัทอดใจสงสัยไม่ได้ ไปตามสืบตามชื่อของผู้ว่าจ้างในตอนแรกว่าเขาเป็นใครกันแน่ และก็พบว่าบุคคลที่ว่าจ้าง ชื่อสกุลนี้ มีตัวตนอยู่จริง แต่เมื่อไปถามเจ้าตัว เจ้าตัวกลับบอกว่าไม่เคยว่าจ้างใครไปฉายหนังแต่อย่างใด สร้างความงุนงงให้กับทีมงานเป็นอย่างมาก
ต่อมาได้มีการเดินทางกลับไปวัดแห่งนั้นอีกครั้งเพื่อสอบถามกับเจ้าอาวาส แต่ทว่าเจ้าอาวาสได้ออกมายืนยันว่าวันนั้นไม่ได้มีการจัดงานวัดอย่างแน่นอน แต่ในคืนเดียวกันก็มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นเหมือนกัน กล่าวคือในป่าคำชะโนดอยู่ๆจะมีเสียงซู่ๆเหมือนมีพายุเข้า ทั้งๆที่วันนั้นไม่มีลมเลย บริเวณนั้นเท้าเหยียบยังจมเลย รถ 6 ล้อไม่มีทางที่จะเข้าไปได้
#คำชะโนด #ผีจ้างหนัง #ที่นี่มีเรื่องเล่า
โฆษณา