30 ธ.ค. 2024 เวลา 10:46 • กีฬา

คุยกับสุภโชค "เราต้องได้แชมป์อาเซียนซ้ำๆ จนเหมือนเป็นเรื่องปกติ"

"ในเรื่องฟุตบอล ปี 2024 ถือว่าโหดที่สุด ตั้งแต่ผมเล่นอาชีพมาเลยครับ"
นี่คือความในใจของ เช็ค-สุภโชค สารชาติ ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติไทย ที่ยอมรับว่า ตลอดปีนี้ มีแต่เรื่องให้กลุ้มใจแบบไม่มีเบรก
กับคอนซาโดเล่ ซัปโปโร สุภโชคไม่สามารถช่วยทีมอยู่รอดได้ในลีกสูงสุด ร่วงตกชั้นอย่างน่าเจ็บปวด ขณะที่กับทีมชาติไทย ก็ไม่สามารถช่วยทีม ผ่านเข้ารอบ 18 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลกได้ โดยขาดไปแค่ 1 ลูกเท่านั้นจริงๆ
ผมกับเช็ค มีโอกาสนั่งคุยกันแบบ one on one ก่อนที่เขาจะเข้าแคมป์เก็บตัวลุยศึก AFF และเขาได้บอกความรู้สึกหลายอย่างออกมา ที่ผมคิดว่าน่าสนใจมากๆ อยากเล่าให้ฟังนะครับ
ในเจลีก ฤดูกาล 2024 ต้นสังกัดของสุภโชค - คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ต้องตกชั้นจาก J1 ไปอยู่ J2 ด้วยการจบรองบ๊วย มีแต้มห่างจากโซนปลอดภัย 4 คะแนน
สุภโชคเล่าว่า "หลังจบเกมสุดท้ายในเจลีก ที่เราชนะคาชิว่า เรย์โซล ประธานสโมสรพูดออกไมค์ ขอโทษแฟนบอลที่เราไม่สามารถอยู่รอดต่อไปได้"
"บรรยากาศวันนั้น เต็มไปด้วยความเสียใจ คือแม้เราจะรู้ล่วงหน้ากันแล้วว่า แต้มเราคงไม่พอที่จะอยู่รอด แต่พอตกชั้นแบบเป็นทางการ มันก็เศร้าอยู่ดี ผมเองก็ไม่เคยเจอประสบการณ์ตกชั้นมาก่อนเลย นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต"
"ตอนที่ สถานการณ์คอนเฟิร์มว่าเราตกชั้นแน่ๆ แล้ว เวลาเดินไปไหนมาไหนในเมือง ถ้าเจอแฟนบอล บรรดานักเตะ ก็จะกล่าวคำขอโทษตลอด ผมรู้สึกว่า ความผิดพลาดครั้งนี้ มันคือความรับผิดชอบของเรา"
หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้คอนซาโดเล่ ซัปโปโรต้องตกชั้น ก็เพราะพลังเกมรุกลดลง ซีซั่นที่แล้ว ยิงได้ 56 ลูกในเจลีก แต่ในซีซั่นนี้ ยิงได้ 43 ลูก ประตูหายไปจากเดิมถึง 13 ลูก
และสาเหตุที่พลังเกมบุกลดลง เกี่ยวข้องโดยตรง กับการที่สุภโชค ได้รับบาดเจ็บต่อเนื่อง และได้ลงสนามน้อยมาก
ในฤดูกาลนี้ ทั้งซีซั่น เช็คได้เล่น 21 นัดเท่านั้น แบ่งเป็น เจลีก 19 นัด และ บอลถ้วย 2 นัด คือมันเห็นผลชัดมากในสนาม พอไม่มีเช็คปั๊บ คอนซาโดเล่ก็เจาะทีมอื่นได้ยากลำบากมาก
ช่วงต้นฤดูกาล สุภโชค ที่ยังไม่เจ็บ ทำผลงานได้ไม่เลว ยิง 1 แอสซิสต์ 4 แต่ปัญหาเกิดขึ้น หลังจากเขาได้รับบาดเจ็บที่แฮมสตริง ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ที่ไทย ชนะ สิงคโปร์ 3-1 ที่ราชมังฯ ในเดือนมิถุนายน 2024
เช็คเล่าว่า "ช่วงครึ่งปีหลัง ของปี 2023 กับ ต้นปี 2024 ที่ต้องลงแข่งเอเชียนคัพ ความบาดเจ็บ มันค่อยๆ สั่งสมในร่างกายของผม เพราะเราต้องเล่นเกมที่เข้มข้นมาตลอด"
"แรกๆ มีอาการกล้ามเนื้อตึงบ้าง แต่ก็ไม่รุนแรงอะไร พัก 1-2 สัปดาห์ก็หาย แต่มาในเกมกับสิงคโปร์ คราวนี้ผมเจออาการหนักเลย คุณหมอบอกว่าผมเจ็บที่แฮมสตริงขาซ้าย และต้องพักยาวขั้นต่ำ 2 เดือน"
"ตอนนั้น เรารู้สึกดาวน์มาก เพราะทีมชาติไทยก็เพิ่งตกรอบบอลโลก แล้วเรายังลงเล่นกับสโมสรไม่ได้อีก ทุกอย่างมันแย่หมดเลย"
ด้วยอาการที่แฮมสตริง เช็คลงเล่นไม่ได้ 9 เกมในเจลีก และผลงานของทีมในช่วงนั้น ที่ไร้เช็ค คือ ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 6 จมอยู่อันดับ 20 ของตาราง
1
มิถุนายน กรกฎาคม ถึง สิงหาคม เช็คตั้งใจทำกายภาพบำบัดเต็มที่ และในที่สุด วันที่ 16 สิงหาคม 2024 เขาก็หายกลับมา พร้อมลงเล่นในเกมที่ 27 ของฤดูกาล เจอกับซากัน โทสุ
ทันทีที่ได้ลง เช็คระเบิดฟอร์มร้อนแรง ยิง 1 แอสซิสต์ 1 ช่วยให้ทีมชนะไป 5-2
จากนั้นคอนซาโดเล่ ก็ชนะอีกสองเกมติดต่อกัน รวมเป็นชนะ 3 เกมรวด ขยับอันดับจาก 20 ขึ้นมาอยู่ 19 มีความหวังเล็กๆ ที่จะรอดตกชั้น
แม้จะอยู่โซนสีแดง แต่ถ้าคุณเดินหน้าชนะรัวๆ แบบนี้ ทุกอย่างก็เป็นไปได้
หลังจากเช็ค ลงเล่นไป 35 วัน (5 แมตช์) เขาก็เจออาการบาดเจ็บอีกครั้ง ที่บริเวณแฮมสตริงขาขวา ต้องพักไป 3 สัปดาห์ จากนั้นพอจะหายกลับมา เตรียมพร้อมลงเล่น ก็มาเจ็บอีกที่น่อง
ในครั้งหลังนี่เอง ที่เช็ครู้สึกน้อยใจในโชคชะตา ว่าทำไมเขาโชคร้ายได้ขนาดนั้น "ตอนนั้น ผมซ้อมเสร็จ เราก็วิ่งจ๊อกกิ้งเพื่อคูลดาวน์ อยู่ดีๆ มันก็เจ็บน่องขึ้นมา มันเป็นอาการบาดเจ็บที่แบบว่า ซวยมากอ่ะพี่ คือเชี่ยไรวะ แค่วิ่งจ๊อกกิ้งคูลดาวน์เฉยๆ มันเจ็บเฉยเลย ไม่มีสาเหตุ ไม่ได้โดนปะทะ ไม่ได้อะไรเลย มันทำให้ผมดาวน์ไปหมดเลย"
สุดท้ายสุภโชค จึงไม่สามารถลงเล่นได้ ใน 4 เกมที่เหลือของฤดูกาล นัดที่ 35 36 37 และ 38 ก่อนที่สุดท้ายคอนซาโดเล่ จะร่วงตกชั้นไป
"ผมคิดว่า ถ้าผมอยู่ ได้ช่วยทีมเต็มที่ตลอดทั้งฤดูกาล ยังไงเราก็ไม่ตก มันเสียดาย เพราะเราจะช่วยทีมได้อยู่แล้ว อีกแค่นิดเดียวเอง ก็มาเจ็บซ้ำอีกในช่วงสำคัญแบบนี้ ไม่รู้ผมไปทำกรรมอะไรไว้"
สรุปแล้วทั้ง ฤดูกาล เช็คได้ลงเล่น 21 นัด ลงสนามน้อยที่สุดในชีวิต และ ยิงได้ 2 ลูก ยิงได้น้อยที่สุดในชีวิตเช่นเดียวกัน
นี่เป็นฤดูกาลที่ไม่ดีของเขาเลย อาการบาดเจ็บที่รุมเร้า ส่งผลโดยตรงกับสโมสร และเช็คก็หวังว่า ปีหน้าจะไม่ต้องมาเจ็บแบบนี้อีก
ผมถามสุภโชคต่อว่า แล้วสถานการณ์ปีหน้าจะเอาอย่างไรต่อ จะยังอยู่คอนซาโดเล่ ซัปโปโรต่อไปไหม เช็คตอบว่า "ตอนนี้ เอเยนต์จะเอาข้อเสนอมาให้พิจารณาครับ อาจเป็น J1 หรือ J2 คือถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากอยู่ญี่ปุ่นต่อ คือเราอยากสู้ไปให้สุดที่ต่างแดนครับ"
แน่นอนว่า นักเตะระดับสุภโชค มีข้อเสนอดีๆ ในไทยเข้ามาตลอด แต่เขายืนยันว่า แพสชั่นยังอยู่ในเจลีก แต่คงต้องใช้เวลาตัดสินใจว่าจะอยู่คอนซาโดเล่ต่อ หรือ จะย้ายไปทีมอื่น
1
ตอนนี้เช็คเล่นอยู่ที่ญี่ปุ่นมา 2 ปีครึ่งแล้ว ผมถามว่า อะไรที่เขารู้สึกประทับใจในวงการฟุตบอลญี่ปุ่นบ้าง เช็คตอบว่า "ที่ญี่ปุ่น เยาวชนทุกคนจะเล่นจริงจังมาก คือต้องเข้าใจก่อนว่า บุคลากรในฟุตบอลญี่ปุ่นเขามีเยอะ ทุกคนที่ได้โอกาสมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ เขาก็อยากได้โอกาสลงสนาม เขาก็ต้องเต็มที่สุดๆ ไม่มีเด็กคนไหน จะมาซ้อมเบาๆ หรือทำตัวไม่จริงจัง"
"เด็กญี่ปุ่น มีความกระหายอยากเป็นนักเตะอาชีพ หลายคนอยากไปต่างประเทศ ดังนั้นพวกเขาเอาจริงมากๆ เพราะถ้ามีโอกาสแล้วไม่คว้าไว้ โอกาสก็อาจจะเป็นของคนอื่น"
นี่เป็น mindset ของเด็กญี่ปุ่น ที่เด็กไทยเองก็สามารถเรียนรู้ได้ คือ ถ้าฝันไกล ก็ต้องซ้อมให้หนัก ทำให้จริงจัง เตรียมพร้อมอยู่เสมอ ที่จะคว้าโอกาสทอง ที่ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่
1
เรื่องของสโมสร เช็คอาจจะเฮิร์ทอยู่ ที่ต้องตกชั้น แต่สุดท้ายคนเราก็ต้องมูฟออนกันไป และตัดสินใจให้ดีว่า ในฤดูกาลหน้า จะเลือกไปอยู่ทีมอะไร
ถ้าอยู่คอนซาโดเล่ต่อไป จะมีความยากขึ้นอีก เพราะ "ล่ามทิ" ทิวาพล สังขพันธ์ อำลาสโมสรไปแล้วด้วย ดังนั้นอาจต้องหาล่ามคนใหม่มาช่วยเรื่องในสนาม
เกี่ยวกับสโมสรพักไว้ก่อน เพราะในเวลานี้คือโปรแกรมทีมชาติ กับศึก AFF โดยสุภโชค มีรายชื่อเป็น 1 ใน 26 คนสุดท้ายมาลงแข่งด้วย กับภารกิจช่วยทีมชาติไทยคว้าแชมป์สมัยที่ 8
ผมสงสัยมาก ว่าทำไมสุภโชคถึงตัดสินใจมาเล่นด้วย เพราะสภาพร่างกายของเขาก็ยังไม่หายเต็มร้อย ในเจลีก 4 เกมสุดท้ายก็ไม่ได้ลงเล่น ว่ากันตามตรง น่าจะใช้ช่วงนี้ ในการพักฟื้นร่างกายให้หายสมบูรณ์ก่อนจะดีกว่าหรือเปล่า? เจลีกเริ่มปั๊บ จะได้พร้อมทันที
แต่สุภโชค อธิบายว่า เขาอยากติดทีมชุดนี้ จาก 2 เหตุผล ข้อแรกคือ เขาเว้นระยะกับทีมชาติชุดใหญ่นานเกินไปแล้ว
นับตั้งแต่ เกมที่ไทยเจอสิงคโปร์ ในเดือนมิถุนายน จากนั้น เราลงแข่งขันฟีฟ่าเดย์ อีก 5 นัด ได้แก่ เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, ซีเรีย, เลบานอน และ ลาว โดยทุกนัดที่กล่าวมา สุภโชค ไม่สามารถร่วมทีมได้ เพราะมีอาการบาดเจ็บตลอด
ในช่วง 5 นัดดังกล่าว ในฟีฟ่าเดย์ 3 รอบ ทีมชาติไทย เริ่มเข้าสู่ยุคใหม่ มีนักเตะเจนใหม่ๆ หลายคนถูกเรียกตัวมาเสริมทีม เช่น โจนาธาร เข็มดี, เบน เดวิส, พาตริก กุสตาฟ์สสัน, วิลเลียม ไวเดอเฌอ, เสกสรรค์ ราตรี ฯลฯ
สุภโชคยอมรับว่า เขาไม่อยากทิ้งช่วงจากทีมชาตินานเกินไป อยากตามจังหวะของเด็กๆ ในทีมให้ทัน รวมถึงอยากอยู่ในแคมป์ เพื่อช่วยซัพพอร์ททุกคนในทีมอีกด้วย
เป้าหมายจริงๆ ของสุภโชคคือ เอเชียนคัพ รอบคัดเลือก เดือนมีนาคม ที่ไทยจะเจอกับศรีลังกาในเกมแรกสุด แมตช์นั้นเขาต้องการลงตัวจริงให้ได้ ดังนั้นจำเป็นต้องติดทีมชาติก่อน เพื่อสร้างความคุ้นเคยเอาไว้ จึงตอบตกลงมาร่วม AFF ด้วย
"คือผมไม่ได้เล่นให้ทีมชาติหลายนัดแล้ว ผมเริ่มคิดถึงการลงเล่นในสีเสื้อทีมชาติไทยแล้วครับ ทุกครั้งที่ผมได้ลงกับทีมชาติ พูดตรงๆ คือผมมีความสุข อยากเล่นต่อหน้าแฟนบอลเราด้วย"
ส่วนเหตุผลอีกข้อ ที่สุภโชคต้องการติดทีมชาติคือ อยากได้แชมป์ร่วมกับ น้องชาย แบงค์-ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา
เช็คอธิบายว่า "ผมยังไม่เคยได้แชมป์กับน้องเลย ทั้งๆ ที่เราติดทีมชาติด้วยกันมาตลอด ผมเคยได้แชมป์ ใน AFF 2020 ที่สิงคโปร์ แต่ตอนนั้นแบงค์ไม่ได้ติดทีมไปด้วย ครั้งนี้เลยรู้สึกว่า อยากจะชูถ้วยพร้อมกันครับ"
สำหรับอาการเจ็บกล้ามเนื้อของสุภโชคนั้น ดีขึ้นมากแล้ว แต่ในรอบแบ่งกลุ่ม AFF ทั้ง 4 นัด เขาไม่มีโอกาสลงสนามแม้แต่นาทีเดียว โดยมาซาทาดะ อิชิอิ ตั้งใจจะเก็บเอาไว้เป็นไม้ตาย ตั้งแต่รอบน็อกเอาต์เป็นต้นไป
เรื่องอาการบาดเจ็บของสุภโชคนั้น อิชิอิ ทราบดี ว่าเจ็บแค่ไหน ต้องพักเท่าไหร่ แต่เขาต้องการเอาสุภโชคติดทีม เป็น 1 ใน 26 คนไปด้วยอยู่ดี เพราะในรอบลึกๆ สามารถเป็นโจ๊กเกอร์ตัดสินเกมได้
เช็คเล่าเรื่องนี้ว่า "โค้ชอิชิอิ โทรไปถามกับสโมสรครับ ว่าผมพร้อมแค่ไหน ร่างกายไหวหรือเปล่า เขามีข้อมูลอยู่แล้วครับ"
คืออิชิอิไม่ใช่เลือกไปสุ่มๆ ตามชื่อเสียงของนักกีฬา แต่เขาเช็คมาดีแล้ว ว่าร่างกายของเช็คจะไหวตอนไหน และเมื่อคำนวณแล้ว มองว่าหายรอบน็อกเอาต์ทัน ก็เลยใส่ชื่อติดทีมมาด้วย
ใน 26 นักเตะที่ถูกเรียกมาใน AFF ครั้งนี้ สุภโชค (26 ปี) มีอายุมากที่สุดลำดับที่ 13 ของทีม โดยมีนักเตะอีกครึ่งทีมที่อายุน้อยกว่าเขา
จากเดิมสุภโชค ดูจะเป็นน้องเล็กในสายตาพี่ๆ แต่ในวันนี้ เขาคือผู้เล่นที่มีความอาวุโสมากกว่าหลายๆ คน และเป็นนักเตะที่ถูก Respect อย่างมาก ในฐานะคนที่ไปค้าแข้งในเจลีกมาแล้ว
เช็คอธิบายว่า "ในทีม AFF ชุดนี้ การขาดหายไปของรุ่นพี่ที่เราคุ้นเคย อาจทำให้จังหวะมันเปลี่ยนไปบ้าง แต่ผมดีใจนะครับที่ได้เห็นนักเตะหน้าใหม่หลายๆ คน คือเด็กหนุ่มๆ คนใหม่ๆ ก็ยิ่งมีความกระหายอยากจะเล่น อยากพิสูจน์ตัวเองว่าเขาคู่ควรจะติดทีมชาติ"
4 เกมแรกของรอบแบ่งกลุ่มใน AFF ไทยชนะรวด 100% แต่ สุภโชค ยังไม่ได้เล่นเลย อย่างไรก็ตาม เรื่องนอกสนาม เขาเองก็พยายามช่วยเหลือทีมอยู่เรื่อยๆ เช่นไปคุยกับนักเตะในทีม ให้คำแนะนำว่า เล่นจังหวะนี้ดีกว่า เป็นที่ปรึกษา จากมุมมองของคนที่นั่งดูบนอัฒจันทร์
หรือ อย่างเกมที่เจอกับสิงคโปร์ มีประเด็นที่ โฟแบร์-อนันต์ ยอดสังวาลย์ไม่กล้าเล่น ไม่กล้าเลี้ยง เพราะโดนวิจารณ์หนักในโลกออนไลน์ ก็เป็นเช็ค ที่ให้กำลังใจน้อง บอกว่า "มึงเล่นไปเลย กล้าเลี้ยง กล้าส่งเยอะๆ อยู่ในลีกมึงกล้าทำ แล้วทำไมกับทีมชาติต้องไม่กล้าล่ะ" สุดท้ายเกมนั้น อนันต์ทำแอสซิสต์ได้สวยๆ 2 ลูก
ทีมชาติไทย กำลังจะเจอกับฟิลิปปินส์ ในรอบรองชนะเลิศ และถ้าชนะได้ เราจะเจอกับเวียดนาม หรือ สิงคโปร์ในรอบชิงชนะเลิศ
ถ้าไทยเก็บได้หมดทุกทีม เราจะคว้าแชมป์ AFF เป็นสมัยที่ 8
ผมถามเช็คว่า "เป้าหมายของเช็คที่พูดมาตลอด คือฟุตบอลโลก หรือ เอเชียนคัพ แล้วกับ AFF ที่เขาเคยเป็นแชมป์มาแล้ว ยังมีคุณค่าอยู่แค่ไหน"
เช็คตอบว่า "ผมเข้าใจความรู้สึกของหลายคนที่มองว่า AFF มันไม่สำคัญมาก เพราะเป็นโปรแกรมนอกฟีฟ่าเดย์"
"แต่ในมุมของนักเตะ ผมอยากได้แชมป์นะครับ คิดเสมอว่าเป็นทัวร์นาเมนต์ที่เราต้องเก็บให้ได้ เพื่อแสดงว่าเราเป็นเบอร์หนึ่งในอาเซียน"
"ทุกทีมที่มันเจอเรา มันอยากชนะเราอยู่แล้ว พี่สังเกตไหม ว่าพอเจอไทย เหมือนแต่ละทีมจะเล่นจริงจังมากๆ ใส่เต็มร้อยยิ่งกว่าเจอทีมอื่น ดังนั้นเราต้องทำให้เห็นว่า เราตัวใหญ่กว่ามัน เราต้องไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้น"
"ถ้าเราจะผ่านเลเวลอาเซียนได้ เราต้องได้แชมป์ AFF ทุกครั้ง หรืออย่างแย่สุดก็ต้องเข้าชิง เราต้องชนะให้ได้จนเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะใช้ทีมชุดไหนก็ตาม และถ้าเราทำได้ เราจะมีความมั่นใจมากขึ้น และก้าวไปในระดับเอเชียได้เอง"
ในการคุยกันครั้งนี้ เราสนทนากันสั้นๆ ประมาณ 50 นาทีครับ ขอบคุณสุภโชคมากๆ ที่มาอัพเดทชีวิตกันนะครับผม
อวยพรให้เขา ได้เจอกับเรื่องราวดีๆ ต่อจากนี้ ทั้งกับสโมสร และ กับทีมชาติครับ
แล้วก็หวังว่า จะไม่ต้องเจออาการบาดเจ็บอีกเลยตลอดปีหน้าครับผม
ก่อนจะลากัน คำถามสุดท้าย ที่ผมถามเช็คคือ ในช่วง 2 ปีมานี้ เช็คไม่ได้อยู่เคาน์ดาวน์ กับที่บ้านเลยนะ เพราะปีที่แล้วก็ไปเล่นเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติญี่ปุ่นที่โตเกียว ส่วนปีนี้ถ้าเข้าชิงก็ต้องบินไปเวียดนามอีก
ในช่วงวันที่ 31 ธันวาคม ในขณะที่ผู้คนเคาน์ดาวน์นับถอยหลังขึ้นปีใหม่ หรือ อาจจะไปสวดมนต์ข้ามปี แต่สุภโชคจะต้องรีบนอนให้เร็วที่สุด เพื่อฟื้นฟูร่างกายทันที เนื่องจากนัดชิง AFF จะเตะวันที่ 2 มกราคม
เช็คหยุดคิด แล้วตอบว่า "ชีวิตผมไม่ได้เคาน์ดาวน์กับที่บ้านหลายปีแล้วครับ คือถ้าแบบไปเที่ยวกันทั้งบ้าน พ่อแม่พี่น้องแบบครบเลยนะ ผมว่าน่าจะ 5 ปีได้แล้ว"
"แต่เมื่อเราเลือกจะเป็นนักฟุตบอลแล้ว มันก็ต้องเสียสละครับ และสำหรับผมถ้าเป็นภารกิจเพื่อทีมชาติไทยแบบนี้ ต่อให้ไม่ได้เคาน์ดาวน์ หรือไม่ได้อยู่ร่วมกับครอบครัวในวันปีใหม่ ผมก็ยอมครับ"
โฆษณา