1 ม.ค. เวลา 16:39 • หนังสือ

Wrapped 2024’s favorite books ✨📚

ยังมาทันกับคอนเทนต์ My favorite 2024 ก่อนเริ่มปีใหม่กัน กับหนังสือทั้งหมดที่เราอ่านไปในปีในปีที่แล้ว มีเล่มไหนเป็นเล่มโปรดแห่งปีกันบ้าง เผื่อใครกำลังอยากถูกป้ายยา ปีหน้าแพลนอ่านเล่มไหนดี มาลองดูลิสต์ของเรากันได้เลยฮะ
💬 มาเริ่มจากกลุ่ม Fiction กัน
1. The Housemaid: เฮาส์เมด - Freida McFadden
2. The Last House on Needless Street: บ้านหลอนสุดท้ายที่ปลายถนน - Catriona Ward
3. The Da Vinci Code: รหัสลับดาวินชี - Dan Brown
4. Angels&Demons: เทวากับซาตาน - Dan Brown
5. YOU GHOST ME EVERY SADTURDAY NIGHT - ธนชาติ ศิริภัทราชัย
6. The Night Shift: ร้านนี้เปิดให้ตายหลัง 4 ทุ่ม - Alex Finlay 
7. The Chalk Man: ปริศนาฆาตกรรมมนุษย์ชอล์ก - C.J. Tudor
นี่เป็นรายชื่อ Fiction ที่อ่านมาทั้งหมดในปี 2024 ซึ่งถือว่าอ่านไปน้อยมากจริงๆ (ยิ่งเทียบกับจำนวนที่ซื้อไปดอง ฮ่า🤣) เลยมาเรียงลำดับ My favorite กันได้ประมาณนี้
ดูๆ ไป แนวฆาตกรรมสืบสวนก็ยังมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ดูจะเป็นปีนิยายฝั่งตะวันตกมาแรงสุดๆ และหนึ่งในเล่มที่ป้ายยากันอย่างหนักหน่วงใน Social และป้ายยาเราได้สำเร็จซะด้วยก็ต้องยกให้เรื่อง ‘The Housemaid’ อ่านง่าย เข้าใจง่าย แต่ลุ้นระทึกเหมือนดูหนังเรื่องหนึ่งเลย นี่ยังรอเล่มอื่นๆ ในซีรีย์ชุดนี้นะ ตัวเอกของเรื่องอย่างสาว Millie ยังมีอะไรให้เล่นแน่นอน
ส่วนเรื่องที่ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่พออ่านจบชั้นอยากให้แกเป็นเล่มโปรดแห่งปีเลยคือเรื่อง ‘The Last House on Needless Street’ ขอมอบรางวัลหนังสือสปอยยากแห่งปีด้วย ป้ายยาคนไปอ่านต่อไม่สำเร็จซักที และยังต้องใช้สมาธิในการอ่านระดับหนึ่งเลย แต่เพราะเป็นหนังสือที่เล่นกับจิตใจเราสุดๆ บอกเลยอ่านไปซักพักนี่อินจัดเลย เล่มนี้จะเป็นเล่มที่จดจำไปอีกนาน
ปีนี้ยังได้มาอ่านเล่มที่อยากอ่านมานานอย่างหนังสือชุด Dan Brown ที่โด่งดังทั้งสองเล่มอย่าง ’The Da Vinci Code’ และ ‘Angels&Demons’ เป็นเรื่องที่ตอนเด็กอยากอ่านมาก แต่อ่านยากเกินจนยอมแพ้ไปก่อน โตมาพอได้อ่านแล้วรู้สึกดีใจจริงๆ ที่มีโอาสได้อ่านทั้งสองเล่มนี้
และเล่มนี้ มายังไง ฮ่า เป็นหนังสือฝีมือคนไทยที่ให้เป็นเล่มโปรดแห่งปีเลย ‘YOU GHOST ME EVERY SADTURDAY NIGHT’ หลังจากเป็น fc ตามงานพี่เบนซ์มานาน แต่แนวที่พี่เขียนเป็นเรื่องสั้นนี่เราอ่านเป็นครั้งแรก แล้วสนุกเกินคาดไปมาก อ่านไปแทบจะกลั้นขรรมไม่ได้ หัวเราะคนเดียวเหมือนคนบ้า บวกความตลกร้ายของพี่เบนซ์ที่ใส่มาจัดเต็ม เป็นเรื่องผีที่เหมาะกับคนกลัวผีสุดๆ
จบท้ายด้วยเล่มที่เข้าเล่มโปรดแห่งปีมาได้อย่างฉิวเฉียดอย่าง ‘The night shift’ และ ‘The Chalk Man’ ซึ่งยังเป็นแนวสืบสวนฆาตกรรมเหมือนเดิม เอาไว้อ่านแบบเบาๆ คั่นเวลาได้ เรื่องอาจจะอ่านยากไปนิดนึง แต่อิมแพคของเรื่องหลังอ่านจบยังตราตรึงอยู่ในใจทั้งสองเรื่อง
ถัดมาคือกลุ่ม Non-fiction
มีคนบอกว่าบางครั้งเราก็เลือกหนังสือ Non-fiction จากความสนใจ ไม่ก็จากปัญหาที่ประสบอยู่ และนี่คือเล่มโปรดแห่งปี 2024 ของเรา
1. Hidden Potential: เมื่อคนธรรมดาจะคว้าสิ่งที่ยิ่งใหญ่ - Adam Grant
2. Be Useful: จงทำตัวให้มีประโยชน์ - Arnold Schwarzenegger
3. 100 Ways to Improve Your Writing: 100 วิธีเขียนอังกฤษอย่างมีชั้นเชิงและทรงพลัง - Gary Provost
4. Eat That Frog!: กินกบตัวนั้นซะ - Brian Tracy
ถ้าเราบอกว่าเราอ่าน Hidden Potential วนไปสองรอบคุณจะเชื่อมั้ย มันเป็นแบบนั้นเลย รอบแรกคืออินไปกับความเชื่อใหม่ที่หนังสือพยายามบอกว่าเราทุกคนมีศักยภาพแฝง และสามารถงัดมันออกมาได้ และอ่านรอบที่สองคือหลังจากเปิดใจแล้วว่ามันทำได้ แล้วมันทำยังไงนะ? Adam Grant นี่เราชอบเขามาตั้งแต่เล่ม THINK AGAIN เป็นคนที่มองอะไรที่ธรรมดาๆ ให้มันกลายเป็นไม่ธรรมดาได้ยังไงไม่รู้ แต่บอกเลยว่าเป็นเล่มที่เปิดมุมมองเราหลายอย่าง และยกให้เป็นเล่มโปรดแห่งปีไปเลย
และถ้าบอกว่าเราอ่านหนังสือแนวพัฒนาตนเอง แต่สามารถขำกับมุกร้ายๆ ของคนเขียนได้ตลอดทั้งเล่ม เล่มนั้นมันมีอยู่จริงทุกคน และอ่านรวดเดียวจบด้วยซ้ำ นั่นคือ ‘Be useful’ ของป๋า Arnold นี่ก็โดนป้ายยามาอีกทีจากความตลกร้ายของแกนี่แหละ แต่เห็นแบบนี้ หนังสือก็ให้แง่คิดที่น่าสนใจไว้หลายเรื่อง ตามประสบการณ์ที่คุณ Arnold เค้าเจอมาเองกับตัว จึงเป็นเล่มโปรดแห่งปีที่อยากแนะนำให้ทุกคนอ่านจริงๆ ให้ความรู้สึกเหมือนมีลุงเกรี้ยวกราดเบาๆ มาเล่านู่นนี่ให้ฟัง ฮ่า!
ต่อมาคือหนังสือเล่มเล็กๆ เป็นเล่มที่หากหมดไฟในการเขียน ต้องได้หยิบมาเปิด ถึงขั้นวางไว้บนหัวนอนเลย ’100 Ways to Improve Your Writing’ อ่านง่ายสุดๆ ตามสไตล์นักเขียนที่การันตีเรื่องชั้นเขียนเพื่อให้ทุกคนเข้าใจ ชั้นจะไม่เวิ่นเวอร์ และเทคนิคที่เล่ามาทั้งหมดนี้ คุณเอาไปปรับใช้ได้ เพราะทักษะการเขียน เป็นสิ่งที่พัฒนาได้ (คนเขียนบอก)
ถึงแม้หนังสือจะเป็นเล่มที่ถูกพิมพ์มานานแล้ว และนำมาตีพิมพ์ซ้ำเป็นฉบับใหม่ แต่ใครที่อ่านจะรู้เลยว่า เทคนิคต่างๆ ในเล่มนี้ เป็นเหมือนเทคนิคอมตะ ที่นำไปใช้ได้เสมอไม่ว่าจะอีกกี่ปีก็ตาม
สุดท้ายแล้ว กับเล่มที่เหมาะกับเรามากในปีนี้ น่าจะทำให้เป้าหมายการอ่านของเราเพิ่มขึ้นนะ เป็นเล่มอมตะที่ควรได้อ่านซักครั้งในชีวิต ‘Eat That Frog! กินกบตัวนั้นซะ’ โดนป้ายยามาตั้งแต่สมัยเรียน แต่สงสัยตอนนั้นชีวิตจะยังไม่เป็นปัญหาเท่ากับตอนนี้ รึเปล่า สุดท้ายเราเลยได้หยิบมาอ่านเพราะประโยคนำของเรื่องที่เหมือนมีคนเอาสันมืดมาทุบเรียกสติเอาซักที
‘คุณไม่เคยมีเวลาพอที่จะทำทุกสิ่งที่คุณต้องทำ คุณอาจมีงาน และภาระหน้าที่มากมายจนล้นมือ อีเมลนับไม่ถ้วน โครงการอีกล้านแปด รวมไปถึงกองหนังสือและนิตรยสารที่คุณตั้งใจจะอ่านในสักวัน...ทันทีที่ว่าง แต่ความจริงก็คือ ไม่มีวันนั้นหรอกครับ คุณไม่มีเวลาทำทุกอย่างให้เสร็จ คุณไม่มีวันเหลือเวลาให้กับอีเมล หนังสือ นิตยสาร หรือกิจกรรมยามว่างที่คุณเฝ้าฝันถึง’
เป็นอะไรที่จะหยิบมาอ่านเรียกสติตัวเอาเป็นพักๆ ว่าชีวิตไม่สามารถทำได้ทุกอย่างจริงๆ นะแก ดังนั้นจงทำเรื่องสำคัญก่อน แล้วหนังสือเล่มนี้ก็จะให้แง่คิดดีๆ ว่าอะไรคือเรื่องสำคัญนั้นนั่นเอง
จบไปแล้วกับหนังสือโปรดของข้าพเจ้า ใครชอบเล่มเหมือนกันหรือมีเล่มโปรดอื่นป้ายยากันได้นะคะ
ถ้าใครติดตามจะรู้ได้เลยว่ากองดองของเรา มันสูงเกินเพดานห้องไปแล้ว ฮ่า อัตราการซื้อและอัตราการอ่านไม่สัมพัทธ์กันอย่างถึงที่สุด ความสามารถในการแบ่งเวลาของเราก็ทำให้ได้อ่านไปได้ไม่กี่เล่มเท่านั้นเอง🤣 เป็นความเจ็บปวด จนต้องไปหาซื้อหนังสือมาอ่านเพื่อหาทางแก้ปัญหา (ซึ่งก็แบ่งเวลาอ่านไม่ได้อีกเหมือนเดิม ฮา ล้อเล่น!) แต่พอได้มาทำคอนเทน์ Wrapped 2024 ก็ทำให้รู้ว่าที่จริง ‘หนังสือ’ ยังเป็นสิ่งที่เรารักและมีความสุขเสมอเลย ไม่แน่ในปีนี้เราอาจแบ่งเวลาเพื่อเค้าได้มากขึ้นก็ได้นะ
ถือว่ามาเริ่มปี 2025 ไปด้วยการส่งกำลังใจให้กับทุกคนค่ะ แม้เราจะมีสิ่งทำให้ว้อกแว้กมากมายเต็มไปหมด แต่ในปีนี้พวกเราจะต้องได้อ่านหนังสือกันมากขึ้นแน่นอน กับทุกเล่มที่เราอยากอ่านเลยค่ะ ✨
โฆษณา