1 ม.ค. เวลา 17:22 • ดนตรี เพลง

"ทำไม To Pimp A Butterfly ถึงเป็นอัลบั้ม Hip-Hop ที่ดีหรือยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล"

***มี Spoil เนื้อหาในอัลบั้ม แนะนำให้ไปฟังอัลบั้มก่อน ถ้ายังไม่เคยฟังมาก่อน***
แปลบทความจาก Reddit จาก User 9yr_old_lake ใน r/Kendrick Lamar
(ขอโทษสำหรับกรณีถ้ามีข้อผิดพลาดของข้อมูล ผมพิมพ์ในโทรศัพท์และผมคัดลอกจากในคอม ถ้าคุณอยากจะแย้งข้อมูลอะไร ได้โปรดให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ด้วย)
To Pimp A Butterfly โดย Kendrick Lamar คืออัลบั้ม Hip-Hop ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล และมันมาจากสาเหตุหลายประการ ทั้งเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่มีเนื้อเพลงคมคายที่สุด และเป็นอัลบั้มที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการเมืองมากที่สุดในแนวดนตรีประเภทนี้ และยังเป็นผลงานชิ้นโบแดงทางดนตรีที่ได้รับอิทธิพลจากแนวดนตรี Jazz และ Funk และท้ายสุดกับการเขียนที่มีวาทศิลป์ พร้อมกับการกำกับการเล่ามโนภาพที่ดำเนินไปตลอดทั้งอัลบั้ม
มีอัลบั้ม Hip-Hop ที่มหัศจรรย์ปล่อยออกมาเป็นร้อยๆ ผลงาน ที่สามารถขึ้นสู่อันดับแรกๆ ได้อย่างง่ายดาย แต่สำหรับผม To Pimp A Butterfly มันกลับบดบังรัศมีอัลบั้มทั้งหมด
To Pimp A Butterfly มีการเล่าเนื้อหาที่ตรงประเด็น Lamar พูดเกี่ยวกับประเด็นทางสังคมและการเมืองในอัลบั้ม ปกอัลบั้มนี้ครอบคลุมทุกอย่าง จากการเหยียด สู่ความรุนแรงระหว่างแกงค์ ถึงการดูถูกตำรวจ
อัลบั้มนี้มีความเกี่ยวข้องทางการเมืองมาก จนถึงขั้นถูกพูดถึงใน Fox News ในกรณีที่มีท่อนที่สื่อถึงการต่อต้านตำรวจ "และเราเกลียดพวกตำรวจ เขาอยากฆ่าพวกเราบนท้องถนนอย่างแน่นอน" ในเพลง "Alright" ส่วนของข่าวนี้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะนักข่าวได้กล่าวอ้าง Lamar ว่า เขาเป็นคนทำลายชาว African-American มากกว่าการเหยียดผิวในปีที่ผ่านมาเสียอีก ถึงแม้ท่อนนี้อาจจะดูเรียบง่าย แต่สามารถบอกบริบทของเพลงได้อย่างสมเหตุสมผล และตรงใจมากกว่าที่คาดไว้
เมื่อดูรายชื่อเพลง อัลบั้มนี้ประกอบไปด้วยกรอบของหัวข้อและประเด็นความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งช่วงเวลาที่กระแทกกระทั้นอย่างหนักในเพลง "u" ที่เกี่ยวกับการเกลียดตัวเอง และเนื้อหาที่รุนแรงที่นำไปสู่เพลงที่มีก้าวร้าวมากขึ้นอย่าง "The Blacker The Berry" ที่ในท่อนคอรัสได้อุปมาสังคมคนผิวดำว่าเหมือนดั่งผลไม้ที่เติบโตจากต้นไม้แห่งความกดขี่
อัลบั้มได้อธิบายหัวข้อที่คนต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะเข้าใจ
ความซับซ้อนของเนื้อเพลงในอัลบั้มนี้ เป็นหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผู้คนมีแรงจูงใจในการกลับมาฟังอัลบั้มนี้อีกครั้ง
9yr_old_lake
เนื้อเพลงในอัลบั้มนี้อาจจะอยู่ในระดับที่สูง แต่อัลบั้มนี้ก็ไม่ไกลจากคำว่าผลงานชั้นเยี่ยม พร้อมรายชื่อศิลปินร่วมอย่างตำนานที่มีความสามารถและทรงอิทธิพลในแนว Funk อย่าง George Clinton และนักร้องหลักจากวง Isley Brothers อย่าง Ronald Isley และดูเหมือน To Pimp A Butterfly จะประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ศิลปินร่วมไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนแบกอัลบั้มนี้ เพราะในทุกๆส่วนของอัลบั้มนี้ ได้ถูกวางแผนและสร้างขึ้นมาอย่างชำนาญโดยคนเล่าเนื้อเพลงอย่าง Kendrick Lamar
การผสมผสานของ Jazz และ Funk รวมกับ Hip-Hop สามารถสร้างชั้นทางดนตรี ที่เข้ากับการถ่ายทอดอารมณ์ที่หลากหลาย จากการมีความสุขและการมีความหวังของ "Alright" สู่ความจมดิ่งในบ่อแห่งความสิ้นหวังอันมืดหม่นของ "u"
ในอัลบั้มมีทั้งเนื้อเพลงที่คมคายและมีการใช้ Samples จากเพลงวง Jazz ยุค 90 ตอนต้น ที่ฟังนุ่มนวล เช่น Digable Planets, A Tribe Called Quest และ Samples แนว Dirty Funk จากศิลปินแนว G-Funk ยุค 90 เช่น Snoop Dogg, Dr.Dre และ Warren G
หลังจากนั้น Lamar ได้ใส่ความเป็นตัวเองในอัลบั้ม จึงทำให้ผู้ฟังได้รู้สึกถึงความอัศจรรย์ของการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์ Hip-Hop กับปัจจุบัน นี่คืออัลบั้มที่สวยงาม พร้อมกับดนตรีที่คุ้นเคย แต่ยังฟังดูมีเอกลักษณ์อย่างแท้จริง
ผู้ฟังอาจพึงพอใจในเรื่องขององค์ประกอบทางดนตรีที่ซับซ้อนที่อัลบั้มนี้ต้องการจะนำเสนอ แต่ส่วนที่น่าประทับใจมากที่สุดคือ กรอบความคิดในการเขียนที่คมคาย กรอบความคิดของอัลบั้มนี้วนเวียนอยู่กับการสร้างบทกวี บทกวีถูกสร้างภายในเพลงในอัลบั้ม และบทกวีแต่ละท่อนก็สอดคล้องกับเนื้อหาของเพลง
ในตอนจบของแต่ละเพลง เราจะได้ยินท่อนเดิมๆซ้ำๆ ว่า "I remember you was conflicted" วลีนี้เป็นจุดเริ่มต้นของบทกวี และบทกวีจะเป็นตัวดำเนินการเดินทางภายในอัลบั้ม
โดยบทกวีกล่าวว่า
I remember you was conflicted
(ผมจำได้ว่าคุณรู้สึกขัดแย้งในตัวเอง)
Misusing your influence
(ใช้อิทธิพลของตัวเองในทางที่ผิด)
Sometimes I did the same
(บางทีผมก็ทำเหมือนกัน)
Abusing my power, full of resentment
(ใช้อำนาจในทางที่ผิด เต็มไปด้วยความคับแค้นใจ)
Resentment that turned into a deep depression
(แล้วความคับแค้นใจเปลี่ยนเป็นความหดหู่ที่ล้ำลึก)
Found myself screaming in the hotel room
(จนพบตัวเองกรีดร้องในโรงแรม)
I didn't wanna self destruct
(ผมไม่ได้อยากจะทำร้ายตัวเอง)
The evils of Lucy was all around me
(แต่สิ่งชั่วร้ายของ Lucifer มันอยู่รอบๆตัวผม)
So I went running for answers
(ผมเลยเลือกที่จะวิ่งหาคำตอบ)
Until I came home
(จนผมได้กลับบ้าน)
But that didn't stop survivor's guilt
(แต่นั่นก็ไม่ได้ยุติความผิดของผู้อยู่รอด)
Going back and forth trying to convince myself the stripes I earned
(คิดอยู่เรื่อยๆ พยายามจะคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองได้รับ)
Or maybe how A-1 my foundation was
(หรืออาจเป็นเพราะรากฐานของตัวเอง)
But while my loved ones was fighting the Continuous war back in the city
(แต่ในขณะที่คนที่ผมรักกำลังต่อสู้กับสงครามความเป็นอยู่อย่างต่อเนื่องในบ้านเกิด)
I was entering a new one
(ผมกลับกำลังเข้าสู่สงครามใหม่)
A war that was based on apartheid and discrimination
(สงครามที่มีสาเหตุมาจากการแบ่งแยกสีผิวและการเลือกปฏิบัติ)
Made me wanna go back to the city and tell the homies what I learned
(มันทำให้ผมอยากกลับไปที่เมืองและบอกเพื่อนๆของผมเกี่ยวกับสิ่งที่ผมได้เรียนรู้)
The word was respect
(คำพูดที่เต็มไปด้วยความเคารพ)
Just because you wore a different gang color than mine's
(เพียงเพราะคุณใส่สีแกงค์ที่แตกต่างจากผม)
Doesn't mean I can't respect you as a black man
(ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่สามารถเคารพคุณได้ในฐานะคนผิวดำ)
Forgetting all the pain and hurt we caused each other in these streets
(ลืมความเจ็บปวดและบาดแผลที่เราสร้างร่วมกันในท้องถนน)
If I respect you, we unify and stop the enemy from killing us
(ถ้าผมนับถือคุณ เราจะรวมกันเป็นหนึ่งและหยุดศัตรูที่พยายามจะฆ่าพวกเรา)
But I don't know, I'm no mortal man, maybe I'm just another ni**a
(แต่ไม่รู้สิ ผมไม่ใช่มนุษย์ที่จะอยู่ชั่วนิรันดร์ ผมอาจจะเป็นแค่ไอ้มืดคนนึง)
บทกวีนี้สวยงามแบบบริสุทธิ์ และสนับสนุนอัลบั้มนี้อย่างมาก บทกวีและกรอบความคิดส่วนใหญ่ ถูกวางไว้สำหรับความรุนแรงของคนผิวดำที่เกิดขึ้นจากการกดขี่ของพวกคนผิวขาว และได้วาดภาพของความยากลำบากที่แท้จริงของเด็กผิวดำที่เติบโตภายในประเทศอเมริกา
คอนเซ็ปต์อาจเป็นส่วนที่น่าประทับใจที่สุดของอัลบั้ม แต่ในส่วนตอนจบของอัลบั้มคือส่วนที่สำคัญ เมื่อฟัง To Pimp A Butterfly จบ ผู้ฟังจะได้รับรู้หรือเข้าใจ 3 อย่าง
  • 1.
    บทกวีที่เปรียบถึงคนผิวดำเหมือนดักแด้ ซึ่งอธิบายถึงชื่อของอัลบั้ม
  • 2.
    ในเพลง Mortal Man อย่างที่เห็นข้างบน และบวกกับการสัมภาษณ์ในช่วงหลังของเพลง นี่คือส่วนที่สำคัญ เพราะเป็นการดัดแปลงการสัมภาษณ์ของศิลปินแร็พที่ล่วงลับไปแล้วอย่าง Tupac Shakur นี่คือสัมภาษณ์เก่าของ Tupac ที่ Lamar ได้เขียนคำถามใหม่ ที่สอดคล้องกับคำตอบของ Shakur ในบทสัมภาษณ์นั้น
  • 3.
    ใจความของอัลบั้มเอง การสัมภาษณ์นี้ได้ผูกปมเข้าด้วยกัน เกี่ยวกับสาระสำคัญและหัวข้อที่ได้สื่อสารภายในอัลบั้มอย่างสวยงาม
หัวข้อเหล่านี้สนับสนุนให้อัลบั้มนี้กลายเป็นอัลบั้มที่สมบูรณ์แบบอย่างน่าเหลือเชื่อ และนี่คือหนึ่งในหลายเหตุผลที่ว่า
"ทำไม To Pimp A Butterfly คืออัลบั้ม Hip-Hop ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล"
credit :
end credit :
สวัสดีปีใหม่ทุกคนนะครับ ปีใหม่แล้ว ผมก็หวังว่าผมจะมาเขียนบทความเรื่อยๆนะครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขตลอดปีครับ ร่ำรวยๆ ไม่มีปัญหาทางสุขภาพใดๆ คิดอะไรขอให้สมความปรารถนาครับ hnyๆ
translate & write : net
somethingtorapabout, peace out
โฆษณา