2 ม.ค. เวลา 10:45 • ข่าวรอบโลก

หนุ่มไต้หวันดัดหลังแก๊งมิจฉาชีพ หลอกเอาเงิน 7 แสนบาทคืนสำเร็จ

คุณพ่อรายหนึ่งในไต้หวันถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกเอาเงินไปกว่า 700,000 บาท ลูกชายจึงวางแผนหลอกแก๊งมิจฉาชีพ สุดท้ายได้เงินทั้งหมดคืน
เรื่องราวของผู้ที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกด้วยสารพัดกลวิธีไม่ได้เปิดขึ้นแค่ในประเทศไทย แต่ระบาดไปทั่วทั้งโลก หลายคนสูญเสียเงินที่เก็บหอมรอมริบมาไปแบบไม่มีวันได้คืน บางเคสรู้สึกแย่จนถึงขั้นจบชีวิตตัวเอง โดยมีน้อยครั้งมากที่จะสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้
นั่นทำให้เหยื่อบางคนเลือกใช้วิธี “หนามยอกเอาหนามบ่ง” ด้วยการหลอกลวงแก๊งมิจฉาชีพกลับ และเอาเงินของตัวเองคืนมา
แก๊งมิจฉาชีพระบาดหนักในหลายประเทศในปัจจุบัน
หนึ่งในผู้ที่ทำสำเร็จคือหนุ่มชาวไต้หวันรายหนึ่งซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งได้ออกมาเปิดเผยเรื่องการเอาคืนแก๊งมิจฉาชีพของตนกับสำนักข่าว Taiwan EBC News
หนุ่มไต้หวันรายนี้เล่าว่า เรื่องเกิดจากพ่อของเขา ซึ่งมาจากเขตหนานโถว ทางตอนกลางของไต้หวัน ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงให้ลงทุนออนไลน์
มิจฉาชีพได้ติดต่อพ่อของเขาผ่านช่องทางออนไลน์ โดยแอบอ้างตัวเป็นผู้หญิงและพูดจาเอาอกเอาใจประจบประแจงตลอดเวลา จนพ่อของเขาถูกโน้มน้าวให้ลงทุนเป็นเงิน 700,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 728,000 บาท) และยังโน้มน้าวให้พ่อของเขาติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จักในโทรศัพท์อีกด้วย
“กลุ่มมิจฉาชีพเรียกพ่อของฉันว่า ‘พ่อ’ และถามอยู่เรื่อย ๆ ว่า ‘เป็นยังไงบ้าง กินข้าวเย็นหรือยัง นอนหลับสบายดีไหม’ พวกเขาถามถึงสุขภาพของพ่ออยู่ตลอดเพื่อให้เกิดความไว้วางใจ” ลูกชายบอก
แอปฯ ระบุว่า เงินลงทุนทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 1.35 ล้านบาท) โดยบอกว่าเป็นกำไรมากกว่า 600,000 ดอลลาร์ไต้หวันจากเงินลงทุนตอนแรก 700,000 ดอลลาร์ไต้หวัน
เมื่อพ่อต้องการถอนส่วนที่เป็นกำไรของตนออกมา แก๊งมิจฉาชีพก็ยืนกรานว่า “คุณต้องมีเงินถึงจำนวนหนึ่งก่อนจึงจะถอนได้”
ลูกชายเริ่มสงสัยหลังจากที่พ่อบ่นเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น “หลังจากพ่อของผมเล่าถึงประสบการณ์เลวร้ายของเขา ผมกลับบ้านและเริ่มดูวิดีโอต่อต้านการหลอกลวงบนยูทูบ แล้วไปเจอคลิปหนึ่งบอกว่า ‘คุณต้องมีเหยื่อที่ใหญ่กว่าที่คุณเสียไป จึงจะมีโอกาสเอาเงินของคุณคืนมา’”
ลูกชายจึงคิดแผนการอันแยบยลเพื่อช่วยเอาเงินของพ่อคืนมา “ด้วยแรงบันดาลใจจากคลิปนั้น ผมจึงตัดสินใจใช้กลยุทธ์เดียวกันนี้โดยใช้โทรศัพท์ของพ่อเพื่อติดต่อกับแก๊งมิจฉาชีพอีกครั้ง”
เขาบอกกับมิจฉาชีพว่า เพื่อนของเขา 2 คนประทับใจในผลกำไรที่พ่อของเขาได้มา และเต็มใจที่จะลงทุน 500,000 ดอลลาร์ไต้หวันและ 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวันตามลำดับ
ด้วยความโลภ มิจฉาชีพตกหลุมพราง การสนทนาดำเนินไปอย่างราบรื่น ลูกชายจึงเริ่มแผนการขั้นที่ 2 โดยแสดงความต้องการเงินอย่างเร่งด่วนโดยอ้างเรื่องปัญหาครอบครัว และขอถอนเงิน 700,000 ดอลลาร์ไต้หวันจากกำไรที่อ้างว่าได้รับ
ในตอนแรก มิจฉาชีพลังเล แต่ลูกชายก็ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการโน้มน้าวพวกเขา โดยเล่นบทบาท 3 บทบาทซึ่งรวมถึงนักลงทุน 2 คนที่เขาอุปโลกน์ขึ้นมา และสอบถามรายละเอียดการลงทุนอย่างจริงจัง รวมถึงให้ความมั่นใจว่าจะลงทุนจริง ๆ แต่ขอเงิน 700,000 ดอลลาร์ไต้หวันนี้ก่อน
ในที่สุด เมื่อมองเห็นโอกาสอันดีที่จะได้เงินก้อนโต กลุ่มมิจฉาชีพจึงตกลงคืนเงิน 700,000 ดอลลาร์ไต้หวันให้กับเหยื่อ เนื่องจากหวังว่าจะได้เงินก้อนใหญ่ขึ้น
นั่นทำให้ลูกชายได้เงิน 700,000 ดอลลาร์ไต้หวันคืนมาให้พ่อของเขาอย่างสวยงาม
ทั้งนี้ แม้จะคืนเงิน 700,000 ดอลลาร์ไต้หวันให้กับเหยื่อแล้วก็ตาม กลุ่มมิจฉาชีพก็ยังคงดำเนินแผนการต่อไป โดยอ้างว่าตอนนี้แอปฯ ดังกล่าวมีกำไร 2.35 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 2.44 ล้านบาท) แต่ต้องเสียภาษี 5-10% จึงจะถอนเงินได้
อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ ผู้เป็นพ่อไม่หลงเชื่ออีกแล้ว
ความเฉลียวฉลาดของลูกชายได้รับคำชมอย่างกว้างขวางโดยชาวเน็ต ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่งบอกว่า “นี่คือการทำงานต่อต้านการฉ้อโกงอย่างแท้จริง”
ในขณะที่อีกรายหนึ่งกล่าวเสริมว่า “ตอนนี้ถึงคราวของกลุ่มมิจฉาชีพที่จะต้องโทรเรียกตำรวจบ้างแล้ว”
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/news/239748
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา