บทความ Blockdit ตอน เข้าลิฟต์ลืมกดปุ่ม
คุณเดินเข้าไปในลิฟต์ คุณไถสมาร์ทโฟนเล่น ผ่านไปหลายนาที คุณรู้สึกว่าลิพต์ยังพาคุณไปไม่ถึงชั้นที่คุณจะไป
คุณมองดูปุ่มลิพต์ คุณยังไม่ได้กดปุ่มไหนเลย
นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับคนไม่น้อย เมื่อสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
บางคนเดินไปที่ห้องครัว แต่จำไม่ได้ว่าจะไปเอาอะไร
บางคนออกจากบ้าน ทิ้งกุญแจคาไว้ที่ประตู
บางคนขับรถไปจุดนัดหมาย รู้ว่าจะต้องขับไปทางไหน แต่ได้สติอีกทีเมื่อไปผิดทางเรียบร้อยแล้ว
คนเดินข้ามถนนจำนวนมากถูกรถชนส่วนหนึ่งก็เพราะใจลอย เท้าพาเดินไปทางหนึ่ง ความคิดพาไปอีกทางหนึ่ง
มนุษย์เรามีสมองที่สามารถจดจ่อได้ทีละอย่าง ต่างจากในนิยาย
ก๊วยเจ๋ง ในเรื่อง มังกรหยก มีความสามารถพิเศษ แยกความคิดออกเป็นส่วนส่วนเอกเทศได้
เขาใช้มือซ้ายฝึกวิชาการต่อสู้หนึ่ง มือขวาฝึกอีกวิชาหนึ่ง เมื่อต่อสู้กับคนอื่น ก็เท่ากับสองรุมหนึ่ง
นี่เป็นนิยาย ในความจริงเราแยกความคิดเป็นสองอย่างก๊วยเจ๋งไม่ได้ การดูหนังและเล่นมือถือแสดงว่าจิตไม่อยู่กับปัจจุบัน
ความคิดยังจดจ่อกับเรื่องอื่น
เป็นเรื่องปกติแล้วที่เวลาไปดูหนัง จะพบผู้ชมที่ยังเล่นกับโทรศัพท์มือถือเป็นระยะ ส่องไฟวาบในความมืดรบกวนคนอื่น
เราไม่สามารถดูหนังไป อ่านข้อความในมือถือไป โดยเข้าใจทั้งสองกิจกรรมได้พร้อมกัน
ปัจจุบันคือเวลาที่อยู่ใกล้เราที่สุด แต่สำหรับบางคนกลับอยู่ห่างไกลที่สุด เรียกว่าจิตไม่อยู่กับปัจจุบัน
นอน แต่ยังกลุ้มใจเรื่องวันพรุ่งนี้
กินข้าว แต่ไม่รู้รส เพราะคิดเรื่องอื่น เรื่องอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น
ความสุขไม่ได้เกิดจากการแสวงหา บรรลุเป้า แต่คือการยินดีกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่มีอยู่ตรงหน้า ในปัจจุบัน
รู้ตัวว่าดื่มชา ก็ดื่มชา ไม่คิดเรื่องที่ยังมาไม่ถึง
คนเรากินได้ทีละคำ ขณะเคี้ยวเราไม่พูด เพราะมันทำให้ทั้งการกินและการเคี้ยวไม่สมบูรณ์ ไม่รู้ว่าตนเองอยู่จุดไหน ทำอะไร
หากเราเข้าใจว่าสมองของเราทำงานได้ทีละเรื่อง เราก็ต้องมีสติรู้ทันว่า ในแต่ละชั่วขณะ เรากำลังทำอะไร
นี่เองทำให้การฝึกเจริญสติเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง
การเจริญสติไม่ใช่เรื่องศาสนา มันเป็นเรื่องการพัฒาสมองและจิต
การเจริญสติคือการตามทันความคิดในสมองตลอดเวลา
ไม่เพียงมันช่วยให้เราเดินข้ามถนนอย่างปลอดภัย มันยังช่วยให้เราข้ามถนนแห่งความรู้สึกร้ายๆ ทั้งหลายได้ เช่น ความกลัว ความโกรธ ความเศร้า
การเจริญสติเป็นการฝึกจิตให้แข็งแรง ตามทันความกลัว ความเศร้าหมอง ความรู้สึกด้านลบที่กำลังจะเกิดได้ แล้วพิจารณามันจนมันหายไป
และเมื่อมันทำให้ทำให้เกิดความกลัว ก็เฝ้าดูความกลัวนั้น ไม่ห้ามมัน ปล่อยให้มันเกิด และดับไป นี่รวมความคิดลบทุกชนิด
ขณะที่เกิดความรู้สึกกลัวหรือเศร้า หากเรามีสติตามมันทัน เราจะเฝ้ามองความรู้สึกร้ายๆ นั้นเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปต่อหน้าต่อตาเรา
เพราะทุกอารมณ์จะผ่านไปจริงๆ เสมอ ข้อแตกต่างคือเรามีสติรับรู้มันหรือไม่ ถ้ามีก็ไม่ฟูมฟาย ถ้าไม่มีสติรับรู้ ก็จะรู้สึกว่าปัญหามันใหญ่มาก
ด้วยวิธีนี้เราจะชินกับความรู้สึกลบต่างๆ เพราะมันจะไม่มีผลต่อเราจนทำให้นอนไม่หลับ หงุดหงิด เศร้าหมอง ไม่มีความสุข
และในชีวิตนี้จะไม่มีวันที่เข้าลิฟต์แล้วลืมกดปุ่ม
- 49
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
