FBI ยืนยัน ตีนผีนิว ออลีนส์ได้แรงบันดาลใจจาก ISIS
ทำยอดผู้เสียชีวิตพุ่งถึง15ราย รับปีใหม่ที่สหรัฐ
กลายเป็นโศกนาฏกรรมรับปีใหม่ของทางฝั่งอเมริกาไปในทันที เมื่อมีชายคนหนึ่งขับรถกระบะพุ่งชนฝูงชนที่กำลังร่วมฉลองต้อนรับปีใหม่ในเมืองนิว ออลีนส์ ของรัฐลุยเซียนา ในช่วงตี 3 ของวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา หลังงานเคาท์ดาวน์ ผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วถึง 15 ราย บาดเจ็บอีกหลายสิบคน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ถนน Bourbon Street แหล่งท่องเที่ยวกลางคืนชื่อดังของเมืองนี้ ในขณะที่ผู้คนจำนวนมากกำลังแฮงค์เอาท์ ปาร์ตี้ปีใหม่กันอย่างสนุกสนาน ก็มีชายขับรถกระบะฟอร์ด สีขาว พุ่งเข้าชนผู้คนถามท้องถนนอย่างบ้าคลั่ง เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
ต่อมา ตำรวจอเมริกันก็ได้วิสามัญคนร้าย หลังจากที่ได้ยิงต่อสู้กันพักหนึ่ง ทราบชื่อภายหลัง คือ นาย Shamsud-Din Jabbar เป็นพลเมืองอเมริกันจากรัฐเท็กซัส วัย 42 ปี ได้เช่ารถกระบะคันดังกล่าว เพื่อมาก่อเหตุสังหารหมู่ด้วยการขับรถพุ่งชน นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ยิงต่อสู้ วัตถุระเบิด และธงที่มีตราสัญลักษณ์ของกลุ่มก่อการร้าย ISIS อยู่ในรถด้วย
ทาง FBI จึงฟันธงว่า นี่คือคดีก่อการร้าย โดยคนร้ายได้แรงบังดาลใจจากกลุ่ม ISIS และไม่เชื่อว่าเป็นการก่อการเพียงลำพังคนเดียว
แหล่งข่าวสหรัฐรายงานเพิ่มเติมว่า นาย Jabbar สวมเครื่องแบบทหารสหรัฐขณะก่อเหตุ เมื่อสืบค้นประวัติก็พบว่าเขาเคยเป็นทหารในกองทัพสหรัฐจริงๆ ในช่วงปี 2007-2015 ทำหน้าที่เป็นฝ่ายบุคคล และเจ้าหน้าที่ด้าน IT และเคยถูกส่งไปประจำการในอาฟกานิสถาน ก่อนที่จะปลดระวางเป็นทหารกองหนุนในปี 2020 ปัจจุบันเขาทำงานเป็นนายหน้าอสังหาฯ ในรัฐเท็กซัส
ด้านชีวิตส่วนตัว Jabbar เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามตั้งแต่เด็ก เคยแต่งงาน และมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน อดีตภรรยาของเขากล่าวว่า Jabbar เริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ จนเป็นเหตุให้หย่าร้าง ถึงขนาดที่อดีตภรรยาได้ขอคำสั่งศาลห้ามนาย Jabbar เข้าใกล้ลูกๆวัย 15 และ 20 ปี ของพวกเขามาแล้ว
แต่ตอนนี้ FBI ยังไม่พบหลักฐานการเชื่อมโยงระหว่าง Jabbar กับ กลุ่ม ISIS แต่สันนิษฐานว่า เขาน่าจะรู้จักสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย ขณะประจำการในอาฟกานิสถาน และกำลังสืบสวนว่า มีผู้ร่วมขบวนการกับนาย Jabbar วางแผนก่อเหตุครั้งนี้อีกหรือไม่
นับเป็นข่าวระทึกขวัญต้อนรับปีใหม่ในสหรัฐ ที่ทำให้เราต้องตระหนักว่า การโจมตีผู้คนด้วยรถยนต์ ได้กลายเป็นหนึ่งในโมเดลในการก่อการร้ายไปแล้ว นอกเหนือจากการใช้อาวุธปืนกราดยิง ระเบิดฆ่าตัวตาย หรือ ใช้มีดไล่แทง นับจากเหตุการณ์โจมตีโดยรถยนต์ครั้งล่าสุดที่ตลาด Christmas ในเมือง Magdeburg ของเยอรมัน
ซึ่งในสหรัฐ ก็เคยมีการก่อการร้ายด้วยรถยนต์มาแล้วหลายครั้ง อาทิ ในปี 2017 มีชาวมุสลิมหัวรุนแรงได้ ขับรถพุ่งชนขบวนจักรยานกลางเมืองแมนฮัตตันในนิวยอร์ค ในช่วงเทศกาลวันฮัลโลวีน ที่มีผู้เสียชีวิต 8 ราย รวมถึง ชายผิวขาวชาว Neo-Nazi ที่ขับรถพุ่งเข้าชนกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านชาวลัทธิขวาจัด White Supremacy ในเมือง Charlottesville รัฐเวอร์จิเนีย โดยความผิดในคดีก่อการร้ายในสหรัฐมีโทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปจนถึงตลอดชีวิต
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
- 26
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
