เหงียนง้างรอ! รอบชิงในฝัน เกมแรกที่ “ช้างศึก” ตกเป็นรอง
ก่อนการแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 รอบชิงชนะเลิศ ทีมชาติไทยถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ของรายการ ในฐานะทีมแชมป์เก่า 2 สมัยติดต่อกัน และทีมที่มีสถิติคว้าแชมป์ในรายการนี้สูงที่สุด
ทีมชาติไทย - 7 สมัย
ปี 1996, 2000, 2002, 2014, 2016, 2020, 2022
ทีมชาติเวียดนาม - 2 สมัย
ปี 2008, 2018
ทีมชาติสิงคโปร์ - 4 สมัย
ปี 1998, 2004, 2007, 2012
ทีมชาติมาเลเซีย - 1 สมัย
ปี 2010
ถึงอย่างไรเมื่อมีการเปิดเผยรายชื่อนักเตะออกมา แกนหลักที่เคยพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ใน 2 ครั้งหลังสุด กลับมีการเปลี่ยนแปลงถ่ายเลือดใหม่ยกชุดทั้ง ธีรศิลป์ แดงดา 36 ปี , ธีราทร บุญมาทัน 34 ปี , สารัช อยู่เย็น 32 ปี , ชนาธิป สรงกระสินธ์ อายุ 30 ปี , ธนบูรณ์ เกษารัตน์ อายุ 30 ปี และ ฯลฯ
โดยแทนที่ด้วยบรรดาแข้งหน้าใหม่ ประกอบไปด้วย โจนาธาร เข็มดี อายุ 22 ปี , นิโคลัส มิเคลสัน อายุ 25 ปี , วีระเทพ ป้อมพันธุ์ อายุ 28 ปี , วิลเลี่ยม ไวเดอร์เฌอ อายุ 23 ปี , วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ อายุ 27 ปี , สุภโชค สารชาติ อายุ 26 ปี , เบน เดวิส อายุ 24 ปี , เสกสรรค์ ราตรี อายุ 21 ปี , อนันต์ ยอดสังวาลย์ อายุ 23 ปี , ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา อายุ 22 ปี , ธีรศักดิ์ เผยพิมาย อายุ 22 ปี , พาตริก กุสตาฟส์สัน อายุ 23 ปี และ ฯลฯ
นั่นทำให้ อินโดนีเซีย, มาเลเซีย รวมถึง เวียดนาม ถูกยกมาพูดถึงว่าจะสามารถสอดแทรกในการแย่งแชมป์ครั้งนี้ ทว่าในรอบแบ่งกลุ่มทัพช้างศึกโชว์ผลงานยอดเยี่ยมในทุกนัด
ชนะ ติมอร์ 10-0
ชนะ มาเลเซีย 1-0
ชนะ สิงคโปร์ 4-2
ชนะ กัมพูชา 3-2
ยิง 17 เสีย 4 แชมป์กลุ่ม แต่การเจอ ฟิลิปปินส์ ในรอบล่าสุด ไทย เจอปัญหาใหญ่และเกือบจะเอาตัวไม่รอดในการผ่านเข้ามาป้องกันแชมป์ ต้องออกแรงเหนื่อย 120 นาทีในเกมในนัดที่ 2 เท่ากับว่าเราเป็นรอง เวียดนาม คู่ชิงในฝันทุกเหลี่ยมมุม
สภาพทีม ตัวเจ็บเยอะ
พักน้อยกว่า เตะหลัง 1 วัน
นัดแรกต้องไปเยือนก่อน
นี่คือเกมแรกที่เราดูจะเป็นรองคู่แข่งในรายการนี้ แถมครั้งก่อนที่เราคว้าแชมป์ ก็เป็นเวียดนาม ที่สู้สูสีกันแบบสุดๆ ก่อนที่ ไทย จะเบียดซิวถ้วยไปครอง
รอบชิงชนะเลิศ 2022
เลกแรก : เวียดนาม 2-2 ไทย (สนามมีดิ่ง สเตเดียม, ฮานอย)
เลกสอง : ไทย 1-0 เวียดนาม (สนามธรรมศาสตร์, รังสิต)
ไทยคว้าแชมป์ด้วยสกอร์รวม 3-2
เกมนี้ถือว่าน่าสนใจ ในวันที่ถูกมองว่าเป็นรอง กับการไปเยือนนัดแรกและมีแฟนบอลเจ้าถิ่นรอต้อนรับแบบเต็มความจุของสนาม ไทยจะรวมใจสู้ได้ดีแค่ไหน เดี่ยวได้รู้กัน
เครดิตรูป : ช้างศึก , ฟุตบอลทีมชาติไทย
เพื่อนๆ สามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ https://www.ballthai.com/บทความบอลไทย
.
และติดตามเราได้ผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดียดังนี้
Website - ballthai.com
Instagram - instagram.com/ballthai_com
Tiktok - tiktok.com/@ballthai_com
ขอบคุณครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
