Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ศึกษาพระเครื่อง
•
ติดตาม
2 ม.ค. เวลา 10:48 • การศึกษา
วิธีดูงัั่ง โดย ชิน บารมี
ตัวอย่างของลักษณะพระงั่งโบราณถอดพิมพ์ (ของเก๊) เมื่อนำเอามาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานหลายๆองค์ ในพิมพ์ #พญางั่งเศียรโล้นนิ้วกระดก
เมื่อนำพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์ในรูป มาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐาน จะเห็นได้ชัดเลยว่า มีหลายๆจุดที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าพระงั่งองค์นี้เป็นงานเก๊ถอดพิมพ์ และเซาะพิมพ์มาในบางจุด ซึ่งในหลายๆจุดที่เห็นได้อย่างชัดเลยคือ
ปากเกิดจากการเซาะพิมพ์ เส้นใต้ปากถอดพิมพ์มาไม่ติด เลยทำให้เส้นในพิมพ์ตื้นเบลอ โดยถ้านำรูปของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์ มาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานของแท้ทั้งสามองค์จะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
นิ้วที่กระดก เส้นร่องประสานมือ เส้นข้อเท้าทั้งสองข้าง ของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์ เมื่อเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานของแท้ทั้งสามองค์ เห็นได้อย่างได้ชัดเจนเลยว่าเป็นงานเก๊ถอดพิมพ์ (ความคมชัดของพิมพ์มันฟ้องได้อย่างชัดเจน)
อย่างไรก็ตาม การแยกแยะเก๊-แท้ของสายพระงั่งโบราณ ต้องยึดในการดูที่พิมพ์เป็นหลักและเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ แล้วก็มาดูองค์ประกอบความเป็นธรรมชาติต่างๆร่วมด้วย ซึ่งจุดนี้แหละที่คนดูเป็นแยกแยะเก๊-แท้ได้อย่างแม่นยำ ต้องใช้เป็นองค์ประกอบในการแยกแยะเก๊-แท้ร่วมด้วยอย่างแน่นอน
ส่วนการดูเนื้อโลหะ ก็มีความสำคัญที่รองมาจากพิมพ์ เพราะธรรมชาติของโลหะ ทั้งสนิม รอยแต่งตะไบ รอยหล่อประกบ ฯลฯ ก็เป็นองค์ประกอบที่มาช่วยดูธรรมชาติของโลหะได้ด้วย ซึ่งโลหะพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานจะต้องดูแล้ว ซีด หมอง แห้ง เก่าดูเป็นธรรมชาติ ที่คนโบราณเขาเรียกว่าโลหะตายหรือโลหะหมดยาง โลหะต้องมีสีเหลืองอมเขียว ดูเป็นธรรมชาติบ่งบอกอายุและความเก่าได้อย่างชัดเจน
ตัวอย่างของลักษณะพระงั่งโบราณถอดพิมพ์ (ของเก๊) เมื่อนำเอามาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานหลายๆองค์ ในพิมพ์ #พญางั่งเศียรโล้นนิ้วกระดก
วงแขนขององค์พระทางด้านขวา ของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ จะเห็นได้ชัดเลยว่าขนาดของวงแขนและแขนแคบและเล็กกว่าเห็นได้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม การแยกแยะเก๊-แท้ของสายพระงั่งโบราณ ต้องยึดในการดูที่พิมพ์เป็นหลักและเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ แล้วก็มาดูองค์ประกอบความเป็นธรรมชาติต่างๆร่วมด้วย ซึ่งจุดนี้แหละที่คนดูเป็นแยกแยะเก๊-แท้ได้อย่างแม่นยำ ต้องใช้เป็นองค์ประกอบในการแยกแยะเก๊-แท้ร่วมด้วยอย่างแน่นอน
ส่วนการดูเนื้อโลหะ ก็มีความสำคัญที่รองมาจากพิมพ์ เพราะธรรมชาติของโลหะ ทั้งสนิม รอยแต่งตะไบ รอยหล่อประกบ ฯลฯ ก็เป็นองค์ประกอบที่มาช่วยดูธรรมชาติของโลหะได้ด้วย ซึ่งโลหะพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานจะต้องดูแล้ว ซีด หมอง แห้ง เก่าดูเป็นธรรมชาติ ที่คนโบราณเขาเรียกว่าโลหะตายหรือโลหะหมดยาง โลหะต้องมีสีเหลืองอมเขียว ดูเป็นธรรมชาติบ่งบอกอายุและความเก่าได้อย่างชัดเจน
ตัวอย่างของลักษณะพระงั่งโบราณถอดพิมพ์ (ของเก๊) เมื่อนำเอามาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานหลายๆองค์ ในพิมพ์ พญางั่งเศียรโล้นนิ้วกระดก
ปลายจมูกของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ ที่เห็นว่าเกิดจากการถอดพิมพ์มาเลย คือตรงจมูกของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ ซึ่งเส้นสันจมูกทั้งสองข้างถอดพิมพ์มาไม่ติด อีกทั้งร่องปีกจมูกทางด้านฝั่งขวาขององค์พระ ก็ถอดพิมพ์มาไม่ติดอีกด้วยเช่นกัน พอเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ ทั้งๆที่พระงั่งเก๊องค์นี้ ก็ใช้สึกธรรมชาติมาเหมือนๆกันกับพระงั่งโบราณเก่าของแท้มาตรฐานทั้งสามองค์
อย่างไรก็ตาม การแยกแยะเก๊-แท้ของสายพระงั่งโบราณ ต้องยึดในการดูที่พิมพ์เป็นหลักและเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ แล้วก็มาดูองค์ประกอบความเป็นธรรมชาติต่างๆร่วมด้วย ซึ่งจุดนี้แหละที่คนดูเป็นแยกแยะเก๊-แท้ได้อย่างแม่นยำ ต้องใช้เป็นองค์ประกอบในการแยกแยะเก๊-แท้ร่วมด้วยอย่างแน่นอน
ส่วนการดูเนื้อโลหะ ก็มีความสำคัญที่รองมาจากพิมพ์ เพราะธรรมชาติของโลหะ ทั้งสนิม รอยแต่งตะไบ รอยหล่อประกบ ฯลฯ ก็เป็นองค์ประกอบที่มาช่วยดูธรรมชาติของโลหะได้ด้วย ซึ่งโลหะพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานจะต้องดูแล้ว ซีด หมอง แห้ง เก่าดูเป็นธรรมชาติ ที่คนโบราณเขาเรียกว่าโลหะตายหรือโลหะหมดยาง โลหะต้องมีสีเหลืองอมเขียว ดูเป็นธรรมชาติบ่งบอกอายุและความเก่าได้อย่างชัดเจน
ตัวอย่างของลักษณะพระงั่งโบราณถอดพิมพ์ (ของเก๊) เมื่อนำเอามาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานหลายๆองค์ ในพิมพ์ พญางั่งเศียรโล้นนิ้วกระดก
หลุมร่องแขนทั้งสองด้าน ของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ จะเห็นได้ชัดเลยว่าตื่นเบลอ และดูไม่เป็นธรรมชาติในแบบฉบับพระหล่อโบราณของแท้มาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม การแยกแยะเก๊-แท้ของสายพระงั่งโบราณ ต้องยึดในการดูที่พิมพ์เป็นหลักและเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ แล้วก็มาดูองค์ประกอบความเป็นธรรมชาติต่างๆร่วมด้วย ซึ่งจุดนี้แหละที่คนดูเป็นแยกแยะเก๊-แท้ได้อย่างแม่นยำ ต้องใช้เป็นองค์ประกอบในการแยกแยะเก๊-แท้ร่วมด้วยอย่างแน่นอน
ส่วนการดูเนื้อโลหะ ก็มีความสำคัญที่รองมาจากพิมพ์ เพราะธรรมชาติของโลหะ ทั้งสนิม รอยแต่งตะไบ รอยหล่อประกบ ฯลฯ ก็เป็นองค์ประกอบที่มาช่วยดูธรรมชาติของโลหะได้ด้วย ซึ่งโลหะพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานจะต้องดูแล้ว ซีด หมอง แห้ง เก่าดูเป็นธรรมชาติ ที่คนโบราณเขาเรียกว่าโลหะตายหรือโลหะหมดยาง โลหะต้องมีสีเหลืองอมเขียว ดูเป็นธรรมชาติบ่งบอกอายุและความเก่าได้อย่างชัดเจน
แบ่งปันเกร็ดความรู้เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาและเก็บสะสมพระงั่งหล่อโบราณเก่าแท้ถึงยุค
กรุณาอ่านรายละเอียดให้ครบทุกบรรทัดด้วยนะครับ แล้วคุณทุกคนจะเข้าใจว่างั่งเก่าแท้เก่าโบราณกับงั่งเก๊งานฝีมือมันมีความแตกต่างกันเช่นไร
เล่นสายพระเครื่องหรือว่าเล่นเครื่องรางสายไหนก็ตามแต่คุณต้องดูพิมพ์เป็นหลัก ถ้าใครที่มันบอกไม่ต้องไปดูพิมพ์เป็นหลักแสดงว่ามันคนนั้นกำลังพาให้คุณ
ทั้งหลายหลงทาง
แต่เวลาจะจบและจ่ายตังค์ต้องดูเนื้อให้เป็นหลักเท่านั้นว่าเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ที่มีอายุเป็น100ปีนั้นมันเก่าถึงยุคจริงหรือเปล่า
ผมมีรูปตัวอย่างมาเปรียบเทียบให้ชมระหว่างงั่งแท้กับงั่งเก๊งานฝีมือ แค่รูปก็ยืนยันความเก๊ได้ 1,000,000% แล้ว คงไม่ต้องให้ผมพูดเรื่องความเก่าของเนื้อโลหะ
สัมฤทธิ์หล่อโบราณนะพูดเยอะเจ็บคอ
ขนาดงั่งเก๊กากดูง่ายขนาดนี้มันยังกล้าบอกว่าแท้
แล้วคุณทั้งหลายก็คิดเอาเองแล้วกันว่าพระงั่งพิมพ์หลักๆที่มัน ออกบัตรรับประกันเป็นงั่งแท้ให้กับคุณทุกคน มันไม่ได้แท้จริงๆอย่างที่มันออกบัตรรับประกันเป็นงั่งแท้แต่มันคืองั่งเก๊งานฝีมือต่างหาก ที่มันออกบัตรรับประกันเป็นงั่งแท้ ผมก็งงงงงั่งเก๊งานฝีมือเสือกออกบัตรรับประกันเป็นงั่งแท้ก็ได้หรือพวกคุณไม่แปลกใจกันบ้าง
หรือไงเนื้อใสแวววาวแวววับใสปิ๊งมันจะแท้ได้อย่างไร ผมแค่พูดให้คิด
1.เมื่อเป็นพระเนื้อโลหะผสมเนื้อโลหะอาจจะไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกันทั้งองค์พระเนื้อโลหะสัมฤทธิ์เก่าโบราณโลหะที่ถูกผสม
อาจจะไม่ได้มีวิธีการ
ชั่ง ตวง วัด
ที่เป็นมาตรฐานที่แน่นอน
แต่จะขึ้นอยู่กับจังหวัดของช่างแต่ละคนที่หยอดเนื้อโลหะต่างๆๆลงไปในเบ้าหลอมละลาย
ส่วนเรื่องอุณหภูมิความร้อนในการหล่อพระก็ไม่ได้มีการควบคุมอุณหภูมิเหมือนกับการใช้เครื่องจักรในยุคสมัยปัจจุบัน
จุดสำคัญในการพิจารณาพระงั่งเนื้อทองสัมฤทธิ์เก่าโบราณ
1.ความเก่าต้องมี
พระหล่อโบราณเก่าๆๆสีจะไม่สุกปลั่งเนื้อควรต้องเก่าโดยเฉพาะในร่องต่างต่างโลหะจะต้องมีความเหี่ยวกร่อนตามธรรมชาติเป็นจุดจุดแต่ถ้ากร่อนทั้งองค์ต้องระวังถูกนำไปกัดกรดมานะครับ
2.แร่แฝง
โลหะแต่ละชนิดจะมีอุณหภูมิหรือว่าจุดหลอมเหลวที่ไม่เท่ากันดังนั้นเราต้องดูแร่แฝงที่อาจจะยังละลายไม่หมดจะขึ้นเป็นลักษณะเสี้ยนเสี้ยนหรือสีผิวที่แตกต่างกันไปและต้องเกิดในเนื้อเท่านั้นนะครับไม่ใช่การทาสีทับถ้าทาสีถ้าโดนทินเนอร์หรือว่าน้ำยาล้างสีองค์พระจะกลายเป็นเนื้อเรียบเรียบเหลือเพียงแค่สีเดียวแต่ถ้าพระของท่านๆๆแท้ผมแนะนําอย่ารองนะครับเพราะว่าผิวพระจะเสียไปอีกนานหลายปีกว่าผิวพระจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
3.รอยตามด
หลังจากเทโลหะหลอมเหลวลงไปในเบ้าโลหะจะเข้าไปแทนที่หุ่นเทียนแล้วก็อากาศที่อยู่ด้านในช่างอาจจะมีการเขย่าเบ้าพิมพ์เพื่อไล่อากาศออกบ้างอากาศส่วนมากจะไหลออกจากทางรูชนวนที่เจาะไว้นะครับแต่ก็จะต้องมีอากาศบางส่วนที่ออกมาไม่ได้แล้วก็ติดอยู่ตามขอบเบ้าพิมพ์เป็นจุดเล็กเล็กจุดนี้ก็เป็นจุดสำคัญที่ควรจะใช้ดูนะครับเพราะว่าพระที่ใช้วิธีการสร้างแบบหล่อเหวี่ยงทำไม่ได้ครับ
4.คราบอ็อกไซด์และสนิม
พระงั่งเนื้อสัมฤทธิ์โลหะผสมมีอายุหลายร้อยปียังไงก็ต้องเกิดอ็อกไซด์และก็ขึ้นเป็นสนิมหลากสีแห้งแห้งนะครับแล้วก็สนิมโลหะแต่ละชนิดก็จะมี
ลักษณะที่แตกต่างกันไป
สีของสนิมเช่น
4.1สีแดง
4.2สีส้ม
4.3สีเหลือง
ขึ้นบนเนื้อโลหะปะปนกันไป
ส่วนสนิมทองคํานั้นทองคําเป็นโลหะที่มักจะไม่เกิดสนิมและไม่มีผลกับอ็อกไซด์ในอากาศหรือถ้าจะมีก็มีน้อยมากๆๆนะครับ
แต่ว่าทองคําที่ใช้ร่วมในการหล่อสร้างพระในสมัยก่อนไม่ใช่ทองคํา 100%นะครับถึงแม้ว่าในสมัยนี้ก็ตามทองคําที่เราใช้กันทั่วไปก็ยังไม่ใช่ทองคํา100 %อยู่ดีนะครับในแร่ทองคําก็จะมีแร่แฝงต่างๆๆมากบ้างน้อยบ้าง
เช่น
เหล็ก
ทองแดง
หรือว่าโรเดียมนะครับ
สนิมต้องเกิดขึ้นจากในเนื้อโลหะสัมฤทธิ์เท่านั้นนะครับและสนิมโลหะที่เราเห็นเกิดขึ้นเป็นแถบๆๆจริงๆๆแล้วเมื่อเราส่องดูเราจะเห็นสนิมเกิดขึ้นเป็นเม็ดเล็กเล็กขึ้นมาจากเนื้อโลหะดังนั้นการพิจารณาเนื้อสัมฤทธิ์ทองผสมหล่อโบราณเราต้องมองการ
เกิดอ็อกไซด์ของสนิมในเนื้อให้ดูเป็นธรรมชาตินะครับดูสนิมและก็ฝ้าสนิมที่ดูเป็นธรรมชาติสำหรับพระเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ทองผสมหรือว่าพระเนื้อทองเหลืองให้รองมองหาสนิมน้ำหมากจะเป็นสีแดงส้มเหมือนกับสีน้ำหมากแต่จะแห้งแห้งเป็นคราบเก่าตามอายุนะครับ
5.การดูรอยตะไบ
รอยตะไบเป็นส่วนสำคัญนะครับครูบาอาจารย์หลายๆๆท่านใช้รอยตะไบเป็นหนึ่งในจุดฟันธงของพระเก่าหล่อโบราณเลยนะครับธรรมชาติขององค์พระหล่อโบราณหรือว่าพระงั่งหล่อโบราณมักจะไม่เรียบร้อยแล้วก็มีโอกาสเกิดเนื้อเกินดังนั้นช่างจะใช้
เครื่องมือในการแต่งพิมพ์วิธีการพิจารณารอยแต่งพิมพ์หรือรอยแทงตะไบเก่าโบราณรอยตะไบเก่าจะดูเหี่ยวไม่คมแล้วก็มีสนิมเกิดขึ้นในร่องแต่ถ้าเป็นรอยตะไบใหม่มักจะเป็นรอยคมๆๆส่วนร่องตะไบตื้นรอยมักจะเรียบเป็นเนื้อเดียวกันกับองค์พระเหมือนมีรอยแต่ไม่มีร่องแบบที่เรียกว่าเนื้อกลับครับ
6.ดินขี้เบ้า
ตามขั้นตอนของการสร้างพระหล่อโบราณองค์พระมักจะมีคราบดินเบ้าติดอยู่หลังจากการหล่อพระเสร็จเรียบร้อยโดยเฉพาะตามซอกหรือในร่องต่างๆๆจุดนี้ต้องใช้ในการพิจารณาพระหล่อโบราณเก่าด้วยนะครับแล้วก็ดินขี้เบ้าแต่ละภูมิภาคก็จะมีสูตรและสีที่แตกต่างกันได้นะครับแต่ก็ไม่ควรจะเป็นสีขาวสว่างดูใหม่ใหม่นะครับ
7.ธรรมชาติสีผิวของพระงั่งหล่อโบราณ
พระเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ทองผสมเริ่มต้นจะมีสีเหลือง
เมื่อผ่านอายุสีจะค่อยค่อยเข้มและคล้ำขึ้นจนเป็นสีน้ำตาลอมแดงเมื่อมีอายุเป็น100ปี
พระหล่อโบราณเนื้อทองแดง
จะมีสีแดงสดเมื่อผ่านอายุสีจะซีดลงและด้านขึ้นจนกลายเป็นสีเหมือนมะขามเปียกเมื่อมีอายุเป็น100ปีขึ้นไป
สำหรับพระเนื้อทองเหลือง
จะเป็นสีเหลืองสดสว่าง
แล้วก็ค่อยค่อยซีดลงจนเป็นสีเหลืองอมเขียวเมื่อมีอายุเป็นร้อย100ปี
สรุปวิธีการพิเคราะห์พิจารณา
พระเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ทองผสมหล่อโบราณ
1.ผิวต้อง เหี่ยว กร่อน เก่า
และมีการเปลี่ยนแปลงของวรรณะหรือว่าสีนะครับ
2.แร่แฝง และ รอยตามด
ในเนื้อพระ
3.สนิมและอ็อกไซด์
สนิมหลากสีสนิมน้ำหมากและอ็อกไซด์ต้องผุดขึ้นมาจากองค์พระ
4.รอยตะไบเก่าร่องลึกมีสนิมร่องตื้นผิวกลับ
5.คราบดินเบ้าตามซอกเก่าเก่าแห้งแห้ง
ยังไงธรรมชาติเก่าโบราณก็ไม่หลอกเราแน่นอนครับ
อย่างไรก็ตามคุณก็ต้องมีพื้นฐานในการศึกษา
พระเครื่องสายรูปหล่อโบราณมาก่อน
สุดปัง Lovely time ยินดีด้วย
ตัวอย่างของลักษณะพระงั่งโบราณถอดพิมพ์ (ของเก๊) เมื่อนำเอามาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานหลายๆองค์ ในพิมพ์ #พญางั่งเศียรโล้นนิ้วกระดก
ภาพที่๑. ปลายจมูกของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ ที่เห็นว่าเกิดจากการถอดพิมพ์มาเลย คือตรงจมูกของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ ซึ่งเส้นสันจมูกทั้งสองข้างถอดพิมพ์มาไม่ติด อีกทั้งร่องปีกจมูกทางด้านฝั่งขวาขององค์พระ ก็ถอดพิมพ์มาไม่ติดอีกด้วยเช่นกัน พอเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ ทั้งๆที่พระงั่งเก๊องค์นี้ ก็ใช้สึกธรรมชาติมาเหมือนๆกันกับพระงั่งโบราณเก่าของแท้มาตรฐานทั้งสามองค์
ส่วนหูทางด้านซ้ายขององค์พระ เมื่อนำเอาพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์มาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ จะเห็นได้ชัดว่าขนาดเล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเกิดจากการถอดพิมพ์
ภาพที่๒. เมื่อนำพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์ในรูป มาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐาน จะเห็นได้ชัดเลยว่า มีหลายๆจุดที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าพระงั่งองค์นี้เป็นงานเก๊ถอดพิมพ์ และเซาะพิมพ์มาในบางจุด ซึ่งในหลายๆจุดที่เห็นได้อย่างชัดเลยคือ
ปากเกิดจากการเซาะพิมพ์ เส้นใต้ปากถอดพิมพ์มาไม่ติด เลยทำให้เส้นในพิมพ์ตื้นเบลอ โดยถ้านำรูปของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์ มาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานของแท้ทั้งสามองค์จะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
นิ้วที่กระดก เส้นร่องประสานมือ เส้นข้อเท้าทั้งสองข้าง ของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์ เมื่อเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานของแท้ทั้งสามองค์ เห็นได้อย่างได้ชัดเจนเลยว่าเป็นงานเก๊ถอดพิมพ์ (ความคมชัดของพิมพ์มันฟ้องได้อย่างชัดเจน)
ภาพที่๓. วงแขนขององค์พระทางด้านขวา ของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ จะเห็นได้ชัดเลยว่าขนาดของวงแขนและแขนแคบและเล็กกว่าเห็นได้อย่างชัดเจน
ภาพที่๔. หลุมร่องแขนทั้งสองด้าน ของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ จะเห็นได้ชัดเลยว่าตื่นเบลอ และดูไม่เป็นธรรมชาติในแบบฉบับพระหล่อโบราณของแท้มาตรฐาน
ภาพที่๕. ฐานสามเหลี่ยมด้านหน้าทั้งสองข้าง ของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ จะเห็นได้ชัดเลยว่าเส้นพิมพ์ไม่คมลึกเท่าของแท้ และไม่มีมิติในพิมพ์ตรงฐานสามเหลี่ยมทั้งสองด้าน ซึ่งดูแล้วขาดความเป็นธรรมชาติในพิมพ์ และขาดความนุ่นนวลของการหล่อ
ภาพที่๖. เศียรด้านหลัง ของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ จะเห็นได้ชัดเลยถึงความบิดเบี้ยวไม่ได้รูปทรงเหมือนของแท้
รอยเชื่อมหูไว้ห้อยใช้พกติดตัวด้านหลังขององค์พระ ของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ ตรงรอยเชื่อมหูหลังขององค์พระ และรอยปะเนื้อเกินที่เกิดจากการหล่อ ดูไม่เป็นธรรมชาติตามหลักของพระหล่อโบราณเก่าแท้
ภาพที่๗. ตำหนิในพิมพ์ที่เกิดจากความผิดพลาดในการแกะพิมพ์ ที่สร้างพิมพ์จากดินแกลบหรือดินขี้วัวในยุคสมัยนั้น ถ้านำพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ ตรงด้านหลังติ่งหูขององค์พระด้านซ้าย จะมีตำหนิในพิมพ์ดูเหมือนเงี้ยงหรือแง่ง แล้วแต่จะเรียก ซึ่งของ
พระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์ในโพสต์นี้ จะตื้นเบลอเหมือนแทบจะหล่อไม่ติด หรือของเก๊ถอดพิมพ์ในบางองค์ก็ไม่มีหรือไม่ติด ผิดกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ที่นำมาเปรียบเทียบมีตำหนิตรงตำแหน่งนี้ทุกองค์ไม่ว่าจะใช้สึกธรรมชาติมายังไงก็ตาม (พระงั่งโบราณเก่าแท้ในบางองค์ที่ไม่มีตำหนิในตำแหน่งนี้ ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะโดนแต่ผิวหรือขัดผิวมา)
ภาพที่๘. ฐานสามเหลี่ยมด้านหลังขององค์พระทั้งสองด้าน ของพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานในพิมพ์นี้ ก็หล่อมาค่อนข้างตื้นอยู่แล้ว (แต่ก็สามารถดูแยกแยะเก๊-แท้ได้ไม่ยาก คือเราต้องดูตรงร่องรอยการขัดผิว หรือแต่งผิวมาเป็นองค์ประกอบร่วมในการพิจารณาด้วย)
ซึ่งถ้าเอาพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ ก็ยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่าของเก๊มีขนาดเล็กกว่าของแท้นิดนึ่ง และฐานสามเหลี่ยมด้านหลังทั้งสองด้านขององค์พระ พระงั่งของเก๊ถ้าเปรียบเทียบกับพระงั่งของแท้จะตื้นและเบลอกว่า เหมือนแทบจะถอดพิมพ์มาไม่ติดเลย
ภาพที่๙. เส้นขอบฐานด้านหลังขององค์พระ ของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ จะเห็นได้ชัดเลยว่าของเก๊ที่เกิดจากการถอดพิมพ์ จะดูบิดเบี้ยวดูไม่เป็นธรรมชาติ ส่วนของแท้จะดูนูนเป็นสันได้สัดส่วนดูเป็นธรรมชาติ
ภาพที่๑๐. ขอบฐาน ของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ จะเห็นได้ชัดเลยว่าของเก๊ที่เกิดจากการถอดพิมพ์ขอบฐานพระจะดูหนาผิดรูป และไม่สม่ำเสมอได้สัดส่วน ซึ่งผิดธรรมชาติจากการหล่อ ของการหล่อขอบฐานในพระงั่งพิมพ์นี้ ส่วนของแท้สำหรับพิมพ์นี้ จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ขอบฐานขององค์พระ จะหล่อได้บางและสม่ำเสมอดูเป็นธรรมชาติไม่ขัดตา และที่สำคัญมากๆคือน้ำหนักเบา
ส่วนดินใต้ฐานพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ จะดูร่วนกว่าของแท้ และจะดูดินหลวมๆพอเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับของแท้ ซึ่งดูผิดธรรมชาติและไม่ได้อายุเหมือนของแท้
ส่วนดินใต้ฐานพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ จะดูมีความหนาแน่นนุ่มนวลดูเป็นธรรมชาติ และได้อายุ
อย่างไรก็ตาม การแยกแยะเก๊-แท้ของสายพระงั่งโบราณ ต้องยึดในการดูที่พิมพ์เป็นหลักและเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ แล้วก็มาดูองค์ประกอบความเป็นธรรมชาติต่างๆร่วมด้วย ซึ่งจุดนี้แหละที่คนดูเป็นแยกแยะเก๊-แท้ได้อย่างแม่นยำ ต้องใช้เป็นองค์ประกอบในการแยกแยะเก๊-แท้ร่วมด้วยอย่างแน่นอน
ส่วนการดูเนื้อโลหะ ก็มีความสำคัญที่รองมาจากพิมพ์ เพราะธรรมชาติของโลหะ ทั้งสนิม รอยแต่งตะไบ รอยหล่อประกบ ฯลฯ ก็เป็นองค์ประกอบที่มาช่วยดูธรรมชาติของโลหะได้ด้วย ซึ่งโลหะพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานจะต้องดูแล้ว ซีด หมอง แห้ง เก่าดูเป็นธรรมชาติ ที่คนโบราณเขาเรียกว่าโลหะตายหรือโลหะหมดยาง โลหะต้องมีสีเหลืองอมเขียว ดูเป็นธรรมชาติบ่งบอกอายุและความเก่าได้อย่างชัดเจน
ข้อมูลโดยโชคชัย คล้อยมูล
แบ่งปันเกร็ดความรู้เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาและเก็บสะสมพระงั่งหล่อโบราณเก่าแท้ถึงยุค
กรุณาอ่านรายละเอียดให้ครบทุกบรรทัดด้วยนะครับ แล้วคุณทุกคนจะเข้าใจว่างั่งเก่าแท้เก่าโบราณกับงั่งเก๊งานฝีมือมันมีความแตกต่างกันเช่นไร
เล่นสายพระเครื่องหรือว่าเล่นเครื่องรางสายไหนก็ตามแต่คุณต้องดูพิมพ์เป็นหลัก ถ้าใครที่มันบอกไม่ต้องไปดูพิมพ์เป็นหลักแสดงว่ามันคนนั้นกำลังพาให้คุณทั้งหลายหลงทาง
แต่เวลาจะจบและจ่ายตังค์ต้องดูเนื้อให้เป็นหลักเท่านั้นว่าเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ที่มีอายุเป็น100ปีนั้นมันเก่าถึงยุคจริงหรือเปล่า
ผมมีรูปตัวอย่างมาเปรียบเทียบให้ชมระหว่างงั่งแท้กับงั่งเก๊งานฝีมือ แค่รูปก็ยืนยัน
ความเก๊ได้ 1,000,000% แล้ว คงไม่ต้องให้ผมพูดเรื่องความเก่าของเนื้อโลหะสัมฤทธิ์หล่อโบราณนะพูดเยอะเจ็บคอ
ขนาดงั่งเก๊กากดูง่ายขนาดนี้มันยังกล้าบอกว่าแท้
แล้วคุณทั้งหลายก็คิดเอาเองแล้วกันว่าพระงั่งพิมพ์หลักๆที่มัน ออกบัตรรับประกันเป็นงั่งแท้ให้กับคุณทุกคน มันไม่ได้แท้จริงๆอย่างที่มันออกบัตรรับประกันเป็นงั่งแท้แต่มันคืองั่งเก๊งานฝีมือต่างหาก ที่มันออกบัตรรับประกันเป็นงั่งแท้ ผมก็งงงงงั่งเก๊
งานฝีมือเสือกออกบัตรรับประกันเป็นงั่งแท้ก็ได้หรือพวกคุณไม่แปลกใจกันบ้างหรือไงเนื้อใสแวววาวแวววับใสปิ๊งมันจะแท้ได้อย่างไร ผมแค่พูดให้คิด
1.เมื่อเป็นพระเนื้อโลหะผสมเนื้อโลหะอาจจะไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกันทั้งองค์พระเนื้อโลหะสัมฤทธิ์เก่าโบราณโลหะที่ถูกผสม
อาจจะไม่ได้มีวิธีการ
ชั่งตวงวัด
ที่เป็นมาตรฐานที่แน่นอน
แต่จะขึ้นอยู่กับจังหวัดของช่างแต่ละคนที่หยอดเนื้อโลหะต่างๆๆลงไปในเบ้าหลอมละลาย
ส่วนเรื่องอุณหภูมิความร้อนในการหล่อพระก็ไม่ได้มีการควบคุมอุณหภูมิเหมือนกับการใช้เครื่องจักรในยุคสมัยปัจจุบัน
จุดสำคัญในการพิจารณาพระงั่งเนื้อทองสัมฤทธิ์เก่าโบราณ
1.ความเก่าต้องมี
พระหล่อโบราณเก่าๆๆสีจะไม่สุกปลั่งเนื้อควรต้องเก่าโดยเฉพาะในร่องต่างต่างโลหะจะต้องมีความเหี่ยวกร่อนตามธรรมชาติเป็นจุดจุดแต่ถ้ากร่อนทั้งองค์ต้องระวังถูกนำไปกัดกรดมานะครับ
2.แร่แฝง
โลหะแต่ละชนิดจะมีอุณหภูมิหรือว่าจุดหลอมเหลวที่ไม่เท่ากันดังนั้นเราต้องดูแร่แฝงที่อาจจะยังละลายไม่หมดจะขึ้นเป็นลักษณะเสี้ยนเสี้ยนหรือสีผิวที่แตกต่างกันไปและต้องเกิดในเนื้อเท่านั้นนะครับไม่ใช่การทาสีทับถ้าทาสีถ้าโดนทินเนอร์หรือว่าน้ำยา
ล้างสีองค์พระจะกลายเป็นเนื้อเรียบเรียบเหลือเพียงแค่สีเดียวแต่ถ้าพระของท่านๆๆแท้ผมแนะนําอย่ารองนะครับเพราะว่าผิวพระจะเสียไปอีกนานหลายปีกว่าผิวพระจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
3.รอยตามด
หลังจากเทโลหะหลอมเหลวลงไปในเบ้าโลหะจะเข้าไปแทนที่หุ่นเทียนแล้วก็อากาศที่อยู่ด้านในช่างอาจจะมีการเขย่าเบ้าพิมพ์เพื่อไล่อากาศออกบ้างอากาศส่วนมากจะ
ไหลออกจากทางรูชนวนที่เจาะไว้นะครับแต่ก็จะต้องมีอากาศบางส่วนที่ออกมาไม่ได้แล้วก็ติดอยู่ตามขอบเบ้าพิมพ์เป็นจุดเล็กเล็กจุดนี้ก็เป็นจุดสำคัญที่ควรจะใช้ดูนะครับเพราะว่าพระที่ใช้วิธีการสร้างแบบหล่อเหวี่ยงทำไม่ได้ครับ
4.คราบอ็อกไซด์และสนิม
พระงั่งเนื้อสัมฤทธิ์โลหะผสมมีอายุหลายร้อยปียังไงก็ต้องเกิดอ็อกไซด์และก็ขึ้นเป็นสนิมหลากสีแห้งแห้งนะครับแล้วก็สนิมโลหะแต่ละชนิดก็จะมี
ลักษณะที่แตกต่างกันไป
สีของสนิมเช่น
4.1สีแดง
4.2สีส้ม
4.3สีเหลือง
ขึ้นบนเนื้อโลหะปะปนกันไป
ส่วนสนิมทองคํานั้นทองคําเป็นโลหะที่มักจะไม่เกิดสนิมและไม่มีผลกับอ็อกไซด์ในอากาศหรือถ้าจะมีก็มีน้อยมากๆๆนะครับ
แต่ว่าทองคําที่ใช้ร่วมในการหล่อสร้างพระในสมัยก่อนไม่ใช่ทองคํา100 %นะครับถึงแม้ว่าในสมัยนี้ก็ตามทองคําที่เราใช้กันทั่วไปก็ยังไม่ใช่ทองคํา100 %อยู่ดีนะครับในแร่ทองคําก็จะมีแร่แฝงต่างๆๆมากบ้างน้อยบ้าง
เช่น
เหล็ก
ทองแดง
หรือว่าโรเดียมนะครับ
สนิมต้องเกิดขึ้นจากในเนื้อโลหะสัมฤทธิ์เท่านั้นนะครับและสนิมโลหะที่เราเห็นเกิดขึ้นเป็นแถบๆๆจริงๆๆแล้วเมื่อเราส่องดูเราจะเห็นสนิมเกิดขึ้นเป็นเม็ดเล็กเล็กขึ้นมาจากเนื้อโลหะดังนั้นการพิจารณาเนื้อสัมฤทธิ์ทองผสมหล่อโบราณเราต้องมองการ
เกิดอ็อกไซด์ของสนิมในเนื้อให้ดูเป็นธรรมชาตินะครับดูสนิมและก็ฝ้าสนิมที่ดูเป็นธรรมชาติสำหรับพระเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ทองผสมหรือว่าพระเนื้อทองเหลืองให้รองมองหาสนิมน้ำหมากจะเป็นสีแดงส้มเหมือนกับสีน้ำหมากแต่จะแห้งแห้งเป็นคราบเก่าตามอายุนะครับ
5.การดูรอยตะไบ
รอยตะไบเป็นส่วนสำคัญนะครับครูบาอาจารย์หลายๆๆท่านใช้รอยตะไบเป็นหนึ่งในจุดฟันธงของพระเก่าหล่อโบราณเลยนะครับธรรมชาติขององค์พระหล่อโบราณหรือว่าพระงั่งหล่อโบราณมักจะไม่เรียบร้อยแล้วก็มีโอกาสเกิดเนื้อเกินดังนั้นช่างจะใช้
เครื่องมือในการแต่งพิมพ์วิธีการพิจารณารอยแต่งพิมพ์หรือรอยแทงตะไบเก่าโบราณรอยตะไบเก่าจะดูเหี่ยวไม่คมแล้วก็มีสนิมเกิดขึ้นในร่องแต่ถ้าเป็นรอยตะไบใหม่มักจะเป็นรอยคมๆๆส่วนร่องตะไบตื้นรอยมักจะเรียบเป็นเนื้อเดียวกันกับองค์พระเหมือนมีรอยแต่ไม่มีร่องแบบที่เรียกว่าเนื้อกลับครับ
6.ดินขี้เบ้า
ตามขั้นตอนของการสร้างพระหล่อโบราณองค์พระมักจะมีคราบดินเบ้าติดอยู่หลังจากการหล่อพระเสร็จเรียบร้อยโดยเฉพาะตามซอกหรือในร่องต่างๆๆจุดนี้ต้องใช้ในการพิจารณาพระหล่อโบราณเก่าด้วยนะครับแล้วก็ดินขี้เบ้าแต่ละภูมิภาคก็จะมีสูตรและสีที่แตกต่างกันได้นะครับแต่ก็ไม่ควรจะเป็นสีขาวสว่างดูใหม่ใหม่นะครับ
7.ธรรมชาติสีผิวของพระงั่งหล่อโบราณ
พระเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ทองผสมเริ่มต้นจะมีสีเหลือง
เมื่อผ่านอายุสีจะค่อยค่อยเข้มและคล้ำขึ้นจนเป็นสีน้ำตาลอมแดงเมื่อมีอายุเป็น100ปี
พระหล่อโบราณเนื้อทองแดง
จะมีสีแดงสดเมื่อผ่านอายุสีจะซีดลงและด้านขึ้นจนกลายเป็นสีเหมือนมะขามเปียกเมื่อมีอายุเป็น100ปีขึ้นไป
สำหรับพระเนื้อทองเหลือง
จะเป็นสีเหลืองสดสว่าง
แล้วก็ค่อยค่อยซีดลงจนเป็นสีเหลืองอมเขียวเมื่อมีอายุเป็นร้อย100ปี
สรุปวิธีการพิเคราะห์พิจารณา
พระเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ทองผสมหล่อโบราณ
1.ผิวต้อง เหี่ยว กร่อน เก่า
และมีการเปลี่ยนแปลงของวรรณะหรือว่าสีนะครับ
2.แร่แฝง และ รอยตามด
ในเนื้อพระ
3.สนิมและอ็อกไซด์
สนิมหลากสีสนิมน้ำหมากและอ็อกไซด์ต้องผุดขึ้นมาจากองค์พระ
4.รอยตะไบเก่าร่องลึกมีสนิมร่องตื้นผิวกลับ
5.คราบดินเบ้าตามซอกเก่าเก่าแห้งแห้ง
ยังไงธรรมชาติเก่าโบราณก็ไม่หลอกเราแน่นอนครับ
อย่างไรก็ตามคุณก็ต้องมีพื้นฐานในการศึกษา
พระเครื่องสายรูปหล่อโบราณมาก่อน
สุดปัง Lovely time ยินดีด้วย
ข้อมูลโดโชคชัย คล้อยมูล
แบ่งปันเกร็ดความรู้เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาและเก็บสะสมพระงั่งหล่อโบราณเก่าแท้ถึงยุค
กรุณาอ่านรายละเอียดให้ครบทุกบรรทัดนะครับ แล้วคุณทุกคนจะเข้าใจว่างั่งเก่าแท้เก่าโบราณกับงั่งเก๊งานฝีมือมันมีความแตกต่างกันเช่นไร
เล่นสายพระเครื่องหรือว่าเล่นเครื่องรางสายไหนก็ตามแต่คุณต้องดูพิมพ์เป็นหลัก ถ้าใครที่มันบอกไม่ต้องไปดูพิมพ์เป็นหลักแสดงว่ามันคนนั้นกำลังพาให้คุณทั้งหลายหลงทาง
แต่เวลาจะจบและจ่ายตังค์ต้องดูเนื้อให้เป็นหลักเท่านั้นว่าเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ที่มีอายุเป็น100ปีนั้นมันเก่าถึงยุคจริงหรือเปล่า
ผมมีรูปตัวอย่างมาเปรียบเทียบให้ชมระหว่างงั่งแท้กับงั่งเก๊งานฝีมือ แค่รูปก็ยืนยันความเก๊ได้ 1,000,000% แล้ว คงไม่ต้องให้ผมพูดเรื่องความเก่าของเนื้อโลหะสัมฤทธิ์หล่อโบราณนะพูดเยอะเจ็บคอ
ขนาดงั่งเก๊กากดูง่ายขนาดนี้มันยังกล้าบอกว่าแท้
แล้วคุณทั้งหลายก็คิดเอาเองแล้วกันว่าพระงั่งพิมพ์หลักๆที่มันขายรับประกันแท้ให้กับคุณทุกคนว่ามันจะแท้จริงจริงหรือ ผมแค่พูดให้คิด
1.เมื่อเป็นพระเนื้อโลหะผสมเนื้อโลหะอาจจะไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกันทั้งองค์พระเนื้อโลหะสัมฤทธิ์เก่าโบราณโลหะที่ถูกผสม
อาจจะไม่ได้มีวิธีการ
ชั่งตวงวัด
ที่เป็นมาตรฐานที่แน่นอน
แต่จะขึ้นอยู่กับจังหวัดของช่างแต่ละคนที่หยอดเนื้อโลหะต่างๆๆลงไปในเบ้าหลอมละลาย
ส่วนเรื่องอุณหภูมิความร้อนในการหล่อพระก็ไม่ได้มีการควบคุมอุณหภูมิเหมือนกับการใช้เครื่องจักรในยุคสมัยปัจจุบัน
จุดสำคัญในการพิจารณาพระงั่งเนื้อทองสัมฤทธิ์เก่าโบราณ
1.ความเก่าต้องมี
พระหล่อโบราณเก่าๆๆสีจะไม่สุกปลั่งเนื้อควรต้องเก่าโดยเฉพาะในร่องต่างต่างโลหะจะต้องมีความเหี่ยวกร่อนตามธรรมชาติเป็นจุดจุดแต่ถ้ากร่อนทั้งองค์ต้องระวังถูกนำไปกัดกรดมานะครับ
2.แร่แฝง
โลหะแต่ละชนิดจะมีอุณหภูมิหรือว่าจุดหลอมเหลวที่ไม่เท่ากันดังนั้นเราต้องดูแร่แฝงที่อาจจะยังละลายไม่หมดจะขึ้นเป็นลักษณะเสี้ยนเสี้ยนหรือสีผิวที่แตกต่างกันไปและต้องเกิดในเนื้อเท่านั้นนะครับไม่ใช่การทาสีทับถ้าทาสีถ้าโดนทินเนอร์หรือว่าน้ำยาล้างสีองค์พระจะกลายเป็นเนื้อเรียบเรียบเหลือเพียงแค่สีเดียวแต่ถ้าพระของท่านๆๆแท้ผมแนะนําอย่ารองนะครับเพราะว่าผิวพระจะเสียไปอีกนานหลายปีกว่าผิวพระจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
3.รอยตามด
หลังจากเทโลหะหลอมเหลวลงไปในเบ้าโลหะจะเข้าไปแทนที่หุ่นเทียนแล้วก็อากาศที่อยู่ด้านในช่างอาจจะมีการเขย่าเบ้าพิมพ์เพื่อไล่อากาศออกบ้างอากาศส่วนมากจะไหลออกจากทางรูชนวนที่เจาะไว้นะครับแต่ก็จะต้องมีอากาศบางส่วนที่ออกมาไม่ได้แล้วก็ติดอยู่ตามขอบเบ้าพิมพ์เป็นจุดเล็กเล็กจุดนี้ก็เป็นจุดสำคัญที่ควรจะใช้ดูนะครับเพราะว่าพระที่ใช้วิธีการสร้างแบบหล่อเหวี่ยงทำไม่ได้ครับ
4.คราบอ็อกไซด์และสนิม
พระงั่งเนื้อสัมฤทธิ์โลหะผสมมีอายุหลายร้อยปียังไงก็ต้องเกิดอ็อกไซด์และก็ขึ้นเป็นสนิมหลากสีแห้งแห้งนะครับแล้วก็สนิมโลหะแต่ละชนิดก็จะมี
ลักษณะที่แตกต่างกันไป
สีของสนิมเช่น
4.1สีแดง
4.2สีส้ม
4.3สีเหลือง
ขึ้นบนเนื้อโลหะปะปนกันไป
ส่วนสนิมทองคํานั้นทองคําเป็นโลหะที่มักจะไม่เกิดสนิมและไม่มีผลกับอ็อกไซด์ในอากาศหรือถ้าจะมีก็มีน้อยมากๆๆนะครับ
แต่ว่าทองคําที่ใช้ร่วมในการหล่อสร้างพระในสมัยก่อนไม่ใช่ทองคํา100%นะครับถึงแม้ว่าในสมัยนี้ก็ตามทองคําที่เราใช้กันทั่วไปก็ยังไม่ใช่ทองคํา100 %อยู่ดีนะครับในแร่ทองคําก็จะมีแร่แฝงต่างๆๆมากบ้างน้อยบ้าง
เช่น
เหล็ก
ทองแดง
หรือว่าโรเดียมนะครับ
สนิมต้องเกิดขึ้นจากในเนื้อโลหะสัมฤทธิ์เท่านั้นนะครับและสนิมโลหะที่เราเห็นเกิดขึ้นเป็นแถบๆๆจริงๆๆแล้วเมื่อเราส่องดูเราจะเห็นสนิมเกิดขึ้นเป็นเม็ดเล็กเล็กขึ้นมา
จากเนื้อโลหะดังนั้นการพิจารณาเนื้อสัมฤทธิ์ทองผสมหล่อโบราณเราต้องมองการเกิดอ็อกไซด์ของสนิมในเนื้อให้ดูเป็นธรรมชาตินะครับดูสนิมและก็ฝ้าสนิมที่ดูเป็นธรรมชาติสำหรับพระเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ทองผสมหรือว่าพระเนื้อทองเหลืองให้รองมองหาสนิมน้ำหมากจะเป็นสีแดงส้มเหมือนกับสีน้ำหมากแต่จะแห้งแห้งเป็นคราบเก่าตามอายุนะครับ
5.การดูรอยตะไบ
รอยตะไบเป็นส่วนสำคัญนะครับครูบาอาจารย์หลายๆๆท่านใช้รอยตะไบเป็นหนึ่งในจุดฟันธงของพระเก่าหล่อโบราณเลยนะครับธรรมชาติขององค์พระหล่อโบราณหรือว่าพระงั่งหล่อโบราณมักจะไม่เรียบร้อยแล้วก็มีโอกาสเกิดเนื้อเกินดังนั้นช่างจะใช้
เครื่องมือในการแต่งพิมพ์วิธีการพิจารณารอยแต่งพิมพ์หรือรอยแทงตะไบเก่าโบราณรอยตะไบเก่าจะดูเหี่ยวไม่คมแล้วก็มีสนิมเกิดขึ้นในร่องแต่ถ้าเป็นรอยตะไบใหม่มักจะเป็นรอยคมๆๆส่วนร่องตะไบตื้นรอยมักจะเรียบเป็นเนื้อเดียวกันกับองค์พระเหมือนมีรอยแต่ไม่มีร่องแบบที่เรียกว่าเนื้อกลับครับ
6.ดินขี้เบ้า
ตามขั้นตอนของการสร้างพระหล่อโบราณองค์พระมักจะมีคราบดินเบ้าติดอยู่หลังจากการหล่อพระเสร็จเรียบร้อยโดยเฉพาะตามซอกหรือในร่องต่างๆๆจุดนี้ต้องใช้ในการพิจารณาพระหล่อโบราณเก่าด้วยนะครับแล้วก็ดินขี้เบ้าแต่ละภูมิภาคก็จะมีสูตรและสีที่แตกต่างกันได้นะครับแต่ก็ไม่ควรจะเป็นสีขาวสว่างดูใหม่ใหม่นะครับ
7.ธรรมชาติสีผิวของพระงั่งหล่อโบราณ
พระเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ทองผสมเริ่มต้นจะมีสีเหลือง
เมื่อผ่านอายุสีจะค่อยค่อยเข้มและคล้ำขึ้นจนเป็นสีน้ำตาลอมแดงเมื่อมีอายุเป็น100ปี
พระหล่อโบราณเนื้อทองแดง
จะมีสีแดงสดเมื่อผ่านอายุสีจะซีดลงและด้านขึ้นจนกลายเป็นสีเหมือนมะขามเปียกเมื่อมีอายุเป็น100ปีขึ้นไป
สำหรับพระเนื้อทองเหลือง
จะเป็นสีเหลืองสดสว่าง
แล้วก็ค่อยค่อยซีดลงจนเป็นสีเหลืองอมเขียวเมื่อมีอายุเป็นร้อย100ปี
สรุปวิธีการพิเคราะห์พิจารณา
พระเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ทองผสมหล่อโบราณ
1.ผิวต้อง เหี่ยว กร่อน เก่า
และมีการเปลี่ยนแปลงของวรรณะหรือว่าสีนะครับ
2.แร่แฝง และรอยตามด
ในเนื้อพระ
3.สนิมและอ็อกไซด์
สนิมหลากสีสนิมน้ำหมากและอ็อกไซด์ต้องผุดขึ้นมาจากองค์พระ
4.รอยตะไบเก่าร่องลึกมีสนิมร่องตื้นผิวกลับ
5.คราบดินเบ้าตามซอกเก่าเก่าแห้งแห้ง
ยังไงธรรมชาติเก่าโบราณก็ไม่หลอกเราแน่นอนครับ
อย่างไรก็ตามคุณก็ต้องมีพื้นฐานในการศึกษา
พระเครื่องสายรูปหล่อโบราณมาก่อน
สุดปัง Lovely time ยินดีด้วย
ข้อมูลโดย โชคชัย คล้อยมูล
แบ่งปันเกร็ดความรู้เพื่อการศึกษาครับ
อ่านให้ครบทุกบรรทัดด้วยนะครับจะได้เข้าใจมากขึ้น
ลักษณะความเก่าของเนื้อที่อุดกริ่งใต้ฐานพระงั่งเขมรตาแดงพิมพ์หน้าลิง เนื้อสัมฤทธิ์ทองดอกบวบ
สีของทองแดงเก่าโบราณควรจะต้องมีลักษณะดังนี้
1.ผิวของเนื้อทองแดงเก่าโบราณ
เมื่อเริ่มต้นจะมีสีแดงสดและเมื่อผ่านอายุและกาลเวลาสีจะซีดลงและด้านขึ้น
2.เมื่อเนื้อทองแดงมีอายุเป็นร้อยปีสีผิวของ
เนื้อทองแดงจะออกสีเหมือนกับเนื้อมะขามเปียก
3.ธรรมชาติของเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ทองผสมเริ่มต้นจะมีสีเหลืองเมื่อผ่านอายุสีจะค่อยๆๆเข้มและคล้ำขึ้นจนเป็นสีน้ำตาลอมแดงเมื่อมีอายุเป็นร้อยปี
4.สำหรับพระเนื้อทองเหลืองจะเป็นสีเหลืองสดสว่างไสวแล้วก็ค่อยๆๆซีดลงจนเป็นสีเหลืองอมเขียวเมื่อมีอายุเป็นร้อยปี
5.การดูรอยตะไบ
รอยตะไบเป็นส่วนสำคัญนะครับครูบาอาจารย์หลายๆๆท่านใช้รอยตะไบเป็นหนึ่งในจุดฟันธงของพระเก่าหล่อโบราณเลยนะครับธรรมชาติขององค์พระหล่อโบราณหรือ
ว่าพระงั่งหล่อโบราณมักจะไม่เรียบร้อยแล้วก็มีโอกาสเกิดเนื้อเกินดังนั้นช่างจะใช้เครื่องมือในการแต่งพิมพ์วิธีการพิจารณารอยแต่งพิมพ์หรือรอยแทงตะไบเก่าโบราณรอยตะไบเก่าจะดูเหี่ยวไม่คมแล้วก็มีสนิมเกิดขึ้นในร่องแต่ถ้าเป็นรอยตะไบใหม่มักจะเป็นรอยคมๆๆส่วนร่องตะไบตื้นรอยมักจะเรียบเป็นเนื้อเดียวกันกับองค์พระเหมือนมีรอยแต่ไม่มีร่องแบบที่เรียกว่าเนื้อกลับครับ
ข้อมุลโดย โชคชัย คล้อยมูล
ความรู้รอบตัวเรื่องพระงั่ง
เรียนสมาชิกทุกท่านพระงั่งพิมพ์นี้เป็นงั่งเก๊ผิดพิมพ์นะครับ
งั่งเก๊ งั่งเก๊ งั่งเก๊
ใครที่มีพระงั่งเก๊พิมพ์นี้อยู่ในความครอบครองให้รู้ไว้เลยครับว่าพระงั่งเก๊พิมพ์นี้ไม่มีอยู่ในสารบบ
งั่งตนนี้ผมไปซื้อมาที่ท่าพระจันทร์เพื่อให้สมาชิกทุกท่านได้ศึกษาและเรียนรู้ว่าพระงั่งเก๊ผิดพิมพ์มีลักษณะเป็นแบบไหนผมซื้อมาหนึ่งตนในราคา 130 บาท
พระงั่งพิมพ์นี้มีการสร้าง 2 เนื้อด้วยกัน
1.เนื้อทองเหลืองขัดแต่งผิวและรมดำ
2.เนื้อชินตะกั่วแก่เงินหรือดีบุก
เรียนสมาชิกทุกท่านเวลาซื้อพระงั่งจากใครต่อใครก็ตามแต่สมาชิกทุกท่านก็ควรที่จะศึกษาหาความรู้หรือข้อมูลเรื่องพระงั่งองค์นั้นนั้นว่าพิมพ์ถูกต้องชัดเจนหรือเปล่าเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ของพระงั่งเก่าแห้งได้อายุหรือเปล่าไม่ใช่ซื้อพระงั่งเพราะฟังนิทานหรือ
ว่าเรื่องเล่าจากประสบการณ์เพราะว่าพระงั่งจะแท้หรือไม่แท้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการฟังนิทานจากเรื่องเล่าและประสบการณ์ของใครต่อใครก็ตามเพราะว่านิทานหรือว่าเรื่องเล่าใครจะพูดอะไรยังไงก็ได้
พระงั่งจะแท้ได้พิมพ์มันต้องถูกต้องและชัดเจนเท่านั้นครับ
และเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ต้องมีความเก่าเป็นธรรมชาติคือเก่าแห้งได้อายุเพราะว่าพระงั่งโบราณมีอายุเป็น 100 ปี ขึ้นไป เนื้อโลหะสัมฤทธิ์อายุเป็น 100 ปี มันต้องเก่าแห้งในเนื้อโลหะสัมฤทธิ์มันจะไม่มีความมันวาวให้เห็นพูดง่ายง่ายก็คือคนสมัยโบราณมักจะเรียกว่าเนื้อโลหะตายหรือว่าเนื้อโลหะหมดยางนั้นเองครับ
พิมพ์ถูกต้องชัดเจน เนื้อโลหะสัมฤทธิ์เก่าแห้งได้อายุ
องค์ประกอบการใช้งานตามกาลเวลาถูกต้องและชัดเจน ความสึกผิวดูเป็นธรรมชาติก็แท้แน่นอน
ผมในนามแอดมินและเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มพระงั่งไทย
ขอฝากไว้ให้คิดครับ
สุดปัง Lovely time ยินดีด้วย
โชคชัย คล้อยมูล
16 ธันวาคม 2024
แบ่งปันเกร็ดความรู้ครับ
กรุณาอ่านให้ครบทุกบรรทัดด้วยนะครับจะได้เกิดความเข้าใจ
ลักษณะการดูงั่งตามแบบฉบับของสายพระเครื่องสายรูปหล่อโบราณ
ลักษณะการตกแบบของงั่งหล่อโบราณ
เกิดจากดินในที่พอกหุ่นเทียนร้าว เวลาเทโลหะเข้าไปโลหะที่มีอุณหภูมิการหลอมเหลวที่สูงโลหะยังเป็นน้ำอยู่ น้ำโลหะจึงแทรกเข้าไปตามรอยดินในที่มีรอยร้าว จึงเกิดเป็นเส้นตามที่เห็นในลักษณะแบบนี้ ตามภาษาของสายพระเครื่องสายรูปหล่อโบราณเรียกว่าโลหะตกแบบ รอยตกแบบเก๊ก็มีนะครับสังเกตและพิจารณากันให้ดีด้วยของเก๊มันเกิดจากการจูงใจ และดูเป็นธรรมชาติ
โชคชัย คล้อยมูล
งั่งเขมรตาแดงหลังเรียบอุดกริ่ง
พระงั่งเขมรตาแดงหลังเรียบอุดกริ่ง พิมพ์นี้ส่วนใหญ่
ที่เจอะเจอจะเป็น
เนื้อสัมฤทธิ์ทองแดงเถื่อนเป็นหลัก
แต่ตนนี้ของผมเป็น
เนื้อสัมฤทธิ์ทองดอกบวบผิวกลับเรียกว่าเนื้อโลหะสัมฤทธิ์เก่าถึงยุคจริงๆๆครับ ของบางอย่างไม่ใช่ว่าเราไม่เคยเห็นก็ไม่ได้แสดงว่ามันไม่มีอยู่จริง มันก็เหมือนกับอากาศ
เราจับต้องและสัมผัสมันไม่ได้ด้วยมือเปล่าแต่เราก็รู้ว่าอากาศนั้นมีอยู่จริง
งั่งเขมรตาแดงหลังเรียบพิมพ์นี้บอกเลยครับว่าโคตะระหาโคตรยากและพบเจอตัวจริงๆๆได้น้อยมากๆๆครับ
บางคนที่เพิ่งเข้ามาเก็บสะสมพระงั่งมือใหม่ๆๆ
อาจจะไม่เคยเห็นหรือว่าไม่รู้จักเลย
และอีกอย่างที่พิเศษสุดๆๆในพระงั่งตนนี้มีรอยจารเก่าโบราณทั้งตนรอยจารเป็นระเบียบเรียบร้อยบงบอกถึง ครูบาอาจารย์ ที่ได้รับการถ่ายทอด การลงอักขระเลขยันต์ได้อย่างถูกต้อง และมีความชำนาญ โดยเฉพาะ
งั่งแท้แท้ไม่ได้หากันง่ายๆๆ อย่างที่ใครต่อใครๆๆ เข้าใจกัน
พุทธคุณเด่นในเรื่อง เมตตามหาเสน่ห์ลุ่มหลง ค้าขาย โชคลาภ คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย ปกป้องคุ้มครอง
เรียกว่าพุทธคุณครบเครื่องจริงๆๆ
แต่พุทธคุณจะโดดเด่นในเรื่องใดเป็นพิเศษนั้น
คุณลูกค้าคงต้องสัมผัสด้วยตัวของคุณเองเท่านั้นครับ
พระงั่งเขมรตาแดงหลังยันต์อุดกริ่ง พิมพ์หน้าลิง เนื้อสัมฤทธิ์ทองดอกบวบ
อายุการสร้างราว 80-100 ปี ขึ้นไป
โชคชัย คล้อยมูล ผมก็บอกอยู่เสมอว่าเล่นพระเครื่องหรือว่าเครื่องรางสายไหนก็ตามแต่รวมทั้งเครื่องรางสายงั่งก็เช่นกัน
ต้องดูพิมพ์ให้เป็นหลัก โดยเฉพาะพระงั่งคือสายรูปหล่อโบราณ มันก็ต้องดูพิมพ์ให้เป็นหลักเช่นกัน แต่จะหล่อออกมาแล้วจะหล่อสวยหรือไม่สวยมันก็อีกเรื่องนึง ถึงยังไงก็ตามมันก็ต้องดูพิมพ์ทรงโดยรวมให้เป็นหลักอยู่ดี ถึงพิมพ์ทรงดูแล้วมันจะถูกต้องชัดเจน ถูกขั้นตอนกรรมวิธีการสร้างชัดเจน แต่ดูแล้วเนื้อโลหะสัมฤทธิ์มันยังเก่าไม่ถึงยุคมันก็ไม่แท้อยู่ดี ผมถึงพูดอยู่เสมอว่าดูพิมพ์ทรงโดยรวมให้เป็นหลัก
แต่เวลาจะจบและจ่ายเงิน ต้องดูที่เนื้อโลหะสัมฤทธิ์ให้เป็นหลักว่าเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ที่มีอายุเป็น100ปีนั้นมันเก่าถึงยุคจริงหรือเปล่า
ส่วนเรื่องการสร้างนั้นจะมีกี่พิมพ์มันก็ไม่เกี่ยว ถ้าพิมพ์ทรงไม่ถูกต้องไม่ชัดเจน ค่านิยมการเล่นหาและเก็บสะสมนั้นมันก็น้อยตามลงไปอยู่ดี ถึงยังไงพระงั่งที่มีพิมพ์ทรงที่สวยงามค่านิยมการซื้อขายและเก็บสะสมมันก็ต้องมีมากกว่าอยู่แล้วมันเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าใครๆๆก็ชอบของสวยๆๆของงามๆๆ
โชคชัย คล้อยมูล
เรียนท่านสมาชิกทุกท่านนะครับวันนี้ผมจะมาแนะนําวิธีการศึกษาหรือวิธีการสังเกตงั่งผิวหิ้งคำว่าผิวหิ้งก็คืองั่งผิวเดิมๆๆที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการใช้งานหรือการโดนสัมผัสมาก่อนงั่งผิวหิ้งจะมีลักษณะของสีสนิมที่เกิดขึ้นอยู่ตามธรรมชาติตามองค์พระไม่เท่ากันสีของสนิมก็จะมีลักษณะหลากหลายเฉดสี เช่น สีแดงอมส้ม สีส้มอมน้ำตาล สี
ขาวเข้ม สีขาวขุ่น สีฟ้าอ่อน สีฟ้าเข้ม สีน้ำตาลอมแดง และ สีดำ และอีกหลากหลายเฉดสีที่ผมไม่ได้กล่าวถึง สาเหตุของการเกิดสนิมดังกล่าวตามองค์งั่งก็เพราะว่าแร่ธาตุที่เกาะติดตามองค์งั่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานหลาย 100 ปีจึงทำให้เกิดสนิมดังกล่าวลักษณะของเม็ดสีสนิมที่เกิดขึ้นตามองค์งั่งก็จะไม่เท่ากันมีเล็กบ้างใหญ่บ้างปะปนกันไปพูดง่ายๆก็คือลักษณะของเม็ดสีของสนิมไม่มีรูปแบบที่ตายตัว
โชคชัย คล้อยมูล
· 4 สิงหาคม 2024 ·
น้องใหม่แห่งวงการงั่งไทย ผึ้งได้มา สดๆร้อนร้อนเลยครับ
พญางั่งสะบัดหน้าพิมพ์ปากเป็ด หรือคนทั่วไปมักจะเรียกกันว่าพญางั่งสะบัดหน้าปากกระจับ
ราคาหลักแสน หาของแท้ตัวจริงๆไม่ง่ายนะครับ.
โชคชัย คล้อยมูล
· 13 มีนาคม 2024 ·
พระงั่งเวตาลพิมพ์จิ๋วมหาเสน่ห์
ซึ่งเป็นพระงั่งพิมพ์จิ๋วอีกพิมพ์ที่คนส่วนใหญ่และคนส่วนน้อยที่จะรู้จักซึ่งในยุคสมัยปัจจุหาของแท้แท้และตัวจริงได้ยากมากๆๆครับ
คำอธิบายเพิ่มเติม :
พ่องั่งเวตาลพิมพ์จิ๋ว ศิลปะไทใหญ่ล้านนา เเรงจริง พ่องั่งเวตาลพิมพ์จิ๋ว
มีทั้งเนื้อสัมฤทธิ์ทองดอกบวบ
เนื้อสัมฤทธิ์ทองแดงเถื่อน เนื้อชิน เนื้อเงิน
ส่วนเนื้อทองคำและเนื้อนาคยังไม่เคยเจอครับ
พ่องั่งเวตาล เจ้าเสน่ห์ พ่องั่งเวตาล
เชื่อกันว่ามีอิทฤทธิ์ทางเสน่ห์ลุ่มหลง สาวรัก
ชายหลง ใครมีไว้พกพาติดตัว บูชาติดบ้านความรัก
จะมีไม่ขาดสาย บางคนเลี้ยงบูชาแล้วดี ความรัก
มีไม่ขาดสาย เป็นที่รักใคร่แก่คนทั่วไป ไปไหนเป็นที่หมายปอง แก่คนที่พบเห็น อยากอยู่ใกล้ เป็นเสน่ห์นะหลงไหล
วิธีใช้ แขวนพ่องั่งเวตาลติดตัวไว้กับเอว พกพาติดตัวใส่กระเป๋า การบูชาอย่าเอาไว้ที่หิ้งพระ
อย่าไว้ร่วมกับเทพต่างๆ หรือที่สูงเท่ากันเด็ดขาด
มิเช่นนั้นพ่องั่งเวตาลจะเสื่อมฤทธิได้
พ่องั่งเวตาล เครื่องรางที่โดดเด่นทางด้านมหาเสน่ห์เมตตาแก่คนรอบตัว เป็นที่ถูกตาต้องใจแก่ผู้พบเห็น จนอยากเข้ามาคุย อยากอยู่ใกล้ หากมีคนรักอยู่แล้วก็จะเป็นที่สนใจกับคนรักเป็นพิเศษ เป็นเครื่องรางมหาเสน่ห์ยอดนิยมที่มีชื่อเสียง ประสบการณ์ด้านเสน่ห์เล่าขานกันมานาน สามารถบูชาได้ทั้งชายหญิง ไม่มีอันตรายใดๆเหมาะ
สำหรับคนที่ต้องการความรักที่ดีขึ้น หรือพกพาติดตัวช่วยคุ้มครองภัย ช่วยค้าขาย เจรจากับลูกค้าให้ชอบใจเข้าอุดหนุนบ่อยๆ ก็ดีเช่นกัน บอกได้เลยว่าพกพาของดีติดตัวก็จะมีแต่ความสุข ความเจริญในชีวิต หลายท่านที่ได้บูชาถึงจะรูปไม่หล่อ ไม่สวย ไม่รวย ก็ยังมีแฟนสวยๆหล่อได้แถมแฟนยังไม่ปล่อยให้ห่างไปไหนอีกด้วย อยากให้
พ่องั่งเวตาลแรงมากๆ ให้จุดธูป 1 ดอก ตั้งเซ่นเหล้าขาว 1 แก้ว +ของกิน กับข้าวทุกวันโกน
ชิน บารมี
ตัวอย่าง ซึ่งต้องขออนุญาตเจ้าของท่านปัจจุบันที่ครอบครองด้วยที่เปิดโอกาสให้ผมวิจารณ์ได้เต็มที่ (ทางเจ้าของปัจจุบันอุนุญาตเรียบร้อยแล้ว ซึ่งใจกว้าง
และยอมเสียสละเพื่อเป็นวิทยาทาน) พระงั่งตาแดงเก๊กากทั่วไปองค์นี้ เป็นแค่งานเก๊ที่มีอายุ ที่สำคัญเนื้อโลหะของพระงั่งองค์นี้ยังไม่ใช่เนื้อทองแดงเถื่อนอีกด้วย
เป็นแค่งานเนื้อทองผสม ทำผิวให้ดูเหมือนทองแดงเก่า โดยที่เห็นในรูปลักษณะสนิมสีน้ำตาลออกแดงเป็นปืด ดูไม่เป็นธรรมชาติของสนิมจริง ซึ่งลักษณะในภาพเกิดจากการแช่น้ำยาหมักผิวที่มีความเป็นกรดหรือด่าง ตามแต่ละสูตรของคนทำงานเก๊
บางสูตรก็เอาไปโยนตามแหล่งน้ำสกปรกและแหล่งน้ำคลำต่างๆที่มีสิ่งปฏิกูลเน่าเหม็น หรือบางสูตรก็เอาไปหมักตามที่ชื้นแฉะ เพื่อทำปฏิกิริยาเร่งให้เกิดสนิมบนผิวโลหะอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติของการเกิดสนิมที่แท้จริง (สนิมน้ำตาลแดงๆที่เป็นปืดๆแบบนี้ยังไม่ใช่สนิมน้ำหมากนะครับ เพราะสนิมน้ำหมากจริงๆ จะขึ้นคราบ เป็นจุด เป็นดวง ความหนาบางของสนิมต้องดูแล้วมี หนาบ้าง บางบ้าง ดูเป็นธรรมชาติของการเกิดสนิมแบบไม่จงใจหรือเร่งทำให้เกิดสนิมขึ้นมา ที่สำคัญ
ที่สุดอีกอย่างของสนิม ก็คือดูแล้วต้องผุดขึ้นหรือประทุขึ้นมาจากผิวโลหะ ไม่ใช่เกิดขึ้นมาแบบแค่เคลือบหรือแค่ฉาบมาเพียงแค่ผิวโลหะเท่านั้น)
ลักษณะของพิมพ์พระงั่งองค์นี้ดูแค่พิมพ์ ก็วางได้เลยเพราะหลุมตาที่ฝั่งก็ผิดลักษณะของพระงั่งทองแดงเถื่อนของแท้มาตรฐานแล้ว ร่องหยักเศียรก็ต้องเกิดจากการเก็บงานตะไบเก่า ที่มีสนิมขุมขึ้นตามร่องหยักเศียรและร่องของรอยตะไบ แต่ในรูปองค์นี้ร่องหยักเศียรเกิดจากการหล่อในแม่พิมพ์ไม่ได้เกิดจากร่องของรอยตะไบ
ส่วนฐานสามเหลี่ยมทั้งด้านหน้าและหลังก็เบลอและตื่นเขินมาก ผิดธรรมชาติการใช้งานที่ได้สัดส่วนของจุดสัมผัสผิวเรากับจุดสัมผัสผิวขององค์พระ ถ้าเทียบกับจุดสัมผัสผิวเรากับองค์พระในจุดอื่นๆ (จุดสัมผัสผิวหลายๆจุดก็ผิดธรรมชาติการใช้งานตามความเป็นจริง) สุดท้ายที่เห็นชัดๆในพิมพ์ก็คือตาม ร่องหู ร่องนิ้วเท้า ต่างก็ยังดูคมลึกกว่า ถ้าเปรียบเทียบกับตามร่องในพิมพ์ในส่วนอื่น ซึ่งผิดธรรมชาติของการสึกจากการใช้งานตามความเป็นจริง
จริงๆแล้วก็ยังมีรายละเอียดอื่นๆอีกหลายจุด ที่บ่งชี้ว่าพระงั่งองค์นี้เป็นของเก๊แน่นอน แต่ขี้เกียจพิมพ์และไม่อยากเสียเวลามากกับพระงั่งของเก๊ เหตุผลแค่นี้ก็คงน่าจะเพียงพอแล้วสำหรับผมที่จะบ่งชี้ชัดเลยได้ว่าพระงั่งองค์นี้เก๊ และยังเป็นพระงั่งของ
เก๊ที่ดูง่ายและแยกแยะได้ไม่ยากมาก ผมต้องขออภัยเพื่อนๆหลายๆท่านไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยที่อาจจะดูพระงั่งองค์นี้ว่าเป็นพระงั่งเก๊และดับฝันใครหลายๆคนที่อยากได้พระงั่งองค์นี้มาครอบครอง แต่ถ้าใครชอบและเห็นต่างกับผมก็ขอเรียนเชิญจัดไปกันได้เลยครับ อย่าให้เสีย (แต่อย่าเสียใจนะ) เรียนฝากไว้เป็นวิทยาทานกันด้วยนะครับ
ชิน บารมี
ตัวอย่างของลักษณะพระงั่งโบราณถอดพิมพ์ (ของเก๊) เมื่อนำเอามาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานหลายๆองค์ ในพิมพ์ พญางั่งเศียรโล้นนิ้วกระดก
พระเศียร (ศรีษะ) ด้านหลัง ของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ จะเห็นได้ชัดเลยถึงความบิดเบี้ยวไม่ได้รูปทรงเหมือนของแท้
รอยเชื่อมหูไว้ห้อยใช้พกติดตัวด้านหลังขององค์พระ ของพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานทั้งสามองค์ ตรงรอยเชื่อมหูหลังขององค์พระ และรอยปะเนื้อเกินที่เกิดจากการหล่อ ดูไม่เป็นธรรมชาติตามหลักของพระหล่อโบราณเก่าแท้
อย่างไรก็ตาม การแยกแยะเก๊-แท้ของสายพระงั่งโบราณ ต้องยึดในการดูที่พิมพ์เป็นหลักและเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ แล้วก็มาดูองค์ประกอบความเป็นธรรมชาติต่างๆร่วมด้วย ซึ่งจุดนี้แหละที่คนดูเป็นแยกแยะเก๊-แท้ได้อย่างแม่นยำ ต้องใช้เป็นองค์ประกอบในการแยกแยะเก๊-แท้ร่วมด้วยอย่างแน่นอน
ส่วนการดูเนื้อโลหะ ก็มีความสำคัญที่รองมาจากพิมพ์ เพราะธรรมชาติของโลหะ ทั้งสนิม รอยแต่งตะไบ รอยหล่อประกบ ฯลฯ ก็เป็นองค์ประกอบที่มาช่วยดูธรรมชาติของโลหะได้ด้วย ซึ่งโลหะพระงั่งโบราณเก่าแท้มาตรฐานจะต้องดูแล้ว ซีด หมอง แห้ง หมดยาง แลเก่าดูเป็นธรรมชาติ หรือที่คนโบราณเขาเรียกกันว่าโลหะตาย หรือโลหะหมดยางนั่นเอง ซึ่งโลหะต้องมีสีเหลืองอมเขียว ดูเป็นธรรมชาติบ่งบอกอายุและความเก่าได้อย่างชัดเจน
ซึ่งผิดกับพระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์ในโพสต์นี้ (ซึ่งเจ้าของพระงั่งเก๊องค์นี้ เป็นคนที่ก่อตั้งชมรมฯ ที่รับออกบัตรรับประกันให้พระงั่งเก๊ให้กลายเป็นแท้เยอะแยะมากมาย แถมยังมีหน้าเว็บไซด์ให้ยิ่งดูน่าเชื่อถืออีกด้วย) พระงั่งเก๊ถอดพิมพ์องค์นี้ ใช้บูชาสัมผัสผิวมาอย่างเป็นธรรมชาติดูง่ายก็จริงอยู่ แต่โลหะยังมีความใสแวววาว ไม่ได้อายุ ต่อให้ใช้ผิวสัมผัสมาอย่างเป็นธรรมชาติมาแล้วก็ตาม
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย