2 ม.ค. เวลา 11:54 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

อนาคตของยานยนต์อาจไม่ใช่ EV แต่คือ Hydrogen (บทความจาก Motor1 U.S.)

ในขณะที่โลกมุ่งหน้าเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อแก้ปัญหาการปล่อยมลพิษ แต่ความจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป Hydrogen หรือไฮโดรเจนอาจกลายเป็นเชื้อเพลิงแห่งอนาคตที่แท้จริง
▶️ความคืบหน้าของ EV และข้อจำกัด
แม้สภาคองเกรสสหรัฐฯ จะอนุมัติงบประมาณ $7.5 พันล้าน เพื่อสร้างสถานีชาร์จ EV ทั่วประเทศในปี 2021 แต่ปัจจุบันมีสถานีที่สร้างขึ้นจริงไม่ถึง 10 แห่ง ความกระตือรือร้นต่อ EV ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงสามปีที่ผ่านมา หลายประเทศเริ่มยกเลิกหรือชะลอการแบนเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ผู้ใช้ EV บางรายหันกลับไปใช้รถยนต์น้ำมัน ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่าง General Motors และ Ford หันไปลงทุนในรถไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์น้ำมันยังคงปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น ข้อมูลจาก NOAA ระบุว่า ปี 2024 เป็นปีที่ร้อนติดอันดับ top5 ที่สุดในประวัติศาสตร์
▶️Hydrogen: คำตอบที่เราอาจมองข้าม
แม้ไฮโดรเจนจะไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่ศักยภาพของมันถูกมองข้ามมานาน นักประดิษฐ์ชาวเบลเยียม Etienne Lenoir ได้สร้างรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนคันแรกตั้งแต่ปี 1860 ความสนใจในไฮโดรเจนเพิ่มขึ้นในช่วงปี 1970 และถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมทหารในทศวรรษ 1980 อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ค่อยๆ หายไปจากตลาดสหรัฐฯ ในช่วงปี 2000
Honda และ Toyota ได้รับแรงผลักดันจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้พัฒนารถยนต์ไฮโดรเจนอย่างจริงจังในปี 2008 โดยมีการเปิดตัว Honda Clarity และ Toyota FCHV ซึ่งเป็นรถยนต์ไฮโดรเจนที่วางจำหน่ายในตลาดผู้บริโภค
Honda Clarity
ปัจจุบัน Honda ยังคงให้ความสำคัญกับไฮโดรเจน และเปิดตัว CR-V e:FCEV ซึ่งเป็น SUV ไฮโดรเจนรุ่นใหม่ในปีนี้ โดยตั้งเป้าขายเพียง 300 คัน ต่อปี
CR-V e:FCEV
▶️ความท้าทายในการทำให้ไฮโดรเจนใช้งานได้จริง
การผลิตไฮโดรเจนในระดับอุตสาหกรรมยังคงเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น General Motors และ Honda ได้ลงทุนกว่า $85 ล้าน เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงและสร้างโรงงานขนาด 70,000 ตารางฟุตในรัฐมิชิแกน
แม้ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาไปมาก แต่ปัญหาสำคัญคือกระบวนการผลิตไฮโดรเจนยังไม่สะอาด โดยมากกว่า 50% ของไฮโดรเจนในสหรัฐฯ ผลิตจากก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน ซึ่งทำให้เกิดการปล่อยมลพิษสูง
นอกจากนี้ ต้นทุนในการผลิตไฮโดรเจนยังสูงมาก โดยประมาณอยู่ที่ $12 ต่อกิโลกรัม เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงฟอสซิลที่อยู่ราว $1.7 ต่อกิโลกรัม
▶️ไฮโดรเจนในภาคอุตสาหกรรม: จุดเริ่มต้นของอนาคต
Chris Martin ผู้นำฝ่ายเทคนิคของ Honda กล่าวว่า เป้าหมายหลักของบริษัทในขณะนี้คือการขยายเศรษฐกิจไฮโดรเจน โดยเริ่มจากภาคอุตสาหกรรม รถบรรทุกขนาดใหญ่ และอุปกรณ์ก่อสร้างที่ใช้น้ำมันดีเซลอยู่ในปัจจุบัน
Honda ได้เปิดตัว รถบรรทุกไฮโดรเจน Class 8 ที่สามารถวิ่งได้ถึง 400 ไมล์ (643 km) ต่อการเติมเชื้อเพลิงหนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นก้าวแรกในการนำไฮโดรเจนมาใช้ในภาคขนส่งและอุตสาหกรรม
▶️บทสรุป: ไฮโดรเจนเป็นทางเลือกที่เราต้องให้ความสำคัญ
แม้ว่า EV จะเป็นตัวเลือกหลักในปัจจุบัน แต่ไฮโดรเจนมีศักยภาพที่จะเข้ามาเติมเต็มช่องว่าง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมหนักและการขนส่งระยะไกล การเติมไฮโดรเจนใช้เวลาเพียง 5 นาที และระยะทางที่ได้จากการเติมเต็มถังอยู่ที่ประมาณ 300 ไมล์ (482 km)
หากเราให้ความสำคัญกับการลงทุนในไฮโดรเจนเช่นเดียวกับ EV ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีความเป็นไปได้ที่รถยนต์ไฮโดรเจนจะกลายเป็นเรื่องปกติในอนาคตอันใกล้
โฆษณา