จะช่างสิ้นหวังขนาดไหน เมื่อใจความสุดท้ายของผู้โดยสารคนหนึ่งอ่านว่า "แม่ครับ ผมรักแม่"
ตอนที่เครื่องบินเกาหลีใต้ตก กัปตันก็เอามือแนบแผงหน้าปัดด้วยความสิ้นหวังและส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือถึงสามครั้งออกไป
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ตามเวลาท้องถิ่น กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ ยืนยันกับสื่อในเมืองมวน(Muan) จังหวัดจอลลาใต้(Jeollanam-do)
ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุเครื่องบินเจจูแอร์(Jeju Air)ตก ว่ากันว่าก่อนเกิดเหตุ หอคอยสนามบินมวนได้ส่งสัญญาณเตือนนกตีไปยัง เครื่องบินโดยสารลำดังกล่าว
นักบินบนเครื่องบินโดยสารก็แจ้งเหตุฉุกเฉินและขอทางเดินอากาศเนื่องจากมี “นก” พร้อมส่งสัญญาณ “เมย์เดย์” ถึง 3 ครั้ง
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม สายการบิน Jeju Air เที่ยวบิน 7C2216 ของเกาหลีใต้ ประสบอุบัติเหตุทางอากาศครั้งน่าสลดใจ
เมื่อเครื่องลงจอดที่สนามบิน Muan ในเมือง Jeollanam-do
ในวันนั้นเครื่องบินโดยสารที่บินจากกรุงเทพประเทศไทยมุ่งสู่ม่วนด้วยความหวังของคน 181 คน และประสบอุบัติเหตุร้ายแรงขณะลงจอด
เมื่อเวลา 8:57 น. หอคอยสนามบิน Muan ได้ออกคำเตือนการชนกันของนกกับเครื่องบินโดยสาร
เพียงหนึ่งนาทีต่อมา กัปตันก็ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน "เมย์เดย์" อย่างไม่เต็มใจ และต่อมาเครื่องบินก็ตกอยู่ในภาวะฉุกเฉินที่คุกคามถึงชีวิตทันที
ตามคำบอกเล่าของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่รอดชีวิต พวกเขาเห็นนกชนเครื่องบินก่อนเกิดอุบัติเหตุ จากนั้นเครื่องยนต์ก็เกิดควันและระเบิด ภัยพิบัติก็เกิดขึ้น
มีรายงานว่าภายใต้แรงกดดันมหาศาลและเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง กัปตันจึงต้องพยายามลงจอดให้สำเร็จ
เมื่อเวลา 9 โมงเช้า ขณะนั้นดูเหมือนจะมีความหวังริบหรี่ อย่างไรก็ตาม โชคชะตาช่างโหดร้าย
สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือมีกำแพงอยู่ที่ปลายรันเวย์
เครื่องบินโดยสารที่ตกเริ่มลงจอดหนึ่งในสามของทางวิ่งไปยังรันเวย์สนามบินมวน โดยบินได้เป็นระยะทางประมาณ 1,600 เมตร
ขณะที่ลำตัวอยู่ในสถานะลงจอด และในที่สุดก็ไถลชนกับสิ่งอำนวยความสะดวก คือคอนกรีตที่อยู่ปลายรันเวย์และผนังด้านนอกของสนามบิน.
ตามที่กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ ระบุว่า สิ่งอำนวยความสะดวกนี้เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน
โดยปกติแล้ว เสาอากาศสำหรับนำทางเครื่องบินเข้าสู่รันเวย์ของสนามบิน (Demystifying the Instrument Landing System (ILS) in Aviation)
ควรเป็นโครงสร้างโลหะและไม่ควรยื่นโผ่ลออกมาจากพื้นดิน
อย่างไรก็ตาม สิ่งอำนวยความสะดวกนี้ที่สนามบินมวนกลับมีการก่อสร้างที่แปลกไปจากกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งก่อให้เกิดข้อสงสัยและข้อกล่าวหาต่อความคิดเห็นของประชาชน
เพียงไม่กี่นาทีหลังจากเครื่องบินลงจอด อารมณ์ของกัปตันก็เหมือนกับรถไฟเหาะ ตั้งแต่ความสิ้นหวัง ไปจนถึงความหวังที่จุดประกายเมื่อลงจอด ไปจนถึงความตกใจเมื่อพบกำแพงที่ปลายรันเวย์
และในที่สุดทุกๆอย่างก็จบลงไป
สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือเหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหันจนเขาไม่มีโอกาสได้บอกลาญาติๆ เลย
เขาทำได้เพียงเฝ้าดูเครื่องบินที่เขาขับชนเข้ากับเครื่องพื้นฐาน ทำให้เขาเสียใจไม่รู้จบ
ช่างสิ้นหวังขนาดไหน เมื่อในวิดีโอเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารเกาหลีตก จะเห็นได้ว่าในนาทีสุดท้ายกัปตันทำได้แต่จับแผงหน้าปัดด้วยมือแล้วทำท่าเหมือนป้องกันการชนกัน
หลังจากเกิดอุบัติเหตุ สนามบินม่วนก็ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย เสียงร้องและเสียงกรีดร้องของครอบครัวของเหยื่อดังก้องไปทั่วห้องโถงของสนามบิน
ผู้โดยสารหลายคนติดต่อครอบครัวผ่านทางโทรศัพท์มือถือก่อนที่เครื่องบินจะตก มีข้อความข้อความหนึ่งเป็นการติดต่อครั้งสุดท้ายจากผู้โดยสารคนหนึ่ง ...อ่านว่า
"แม่ครับ ผมรักแม่"
คำไม่กี่คำนี้กลายเป็นคำอำลาครั้งสุดท้าย จากจำนวนคนบนเครื่อง 181 คน
น่าเศร้าที่รอดชีวิตเพียง 2 คน และคนที่เหลือ 179 คนเสียชีวิต
นี่เป็นอุบัติเหตุทางอากาศที่น่าเศร้าที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ และเป็นอุบัติเหตุทางอากาศที่ร้ายแรงที่สุด
ที่เกี่ยวข้องกับสายการบินของเกาหลีในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา(ส่วนทางเรือก็มีนะครับ หากว่างๆผมจะหามาเขียนให้ปวดหัวกันอีกสักบทความ)
รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศให้วันที่ 29 ธันวาคมถึง 4 มกราคม 2568
เป็นวันไว้ทุกข์แห่งชาติเพื่อรำลึกถึงเหยื่อของโศกนาฏกรรมครั้งนี้
ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุพบ “กล่องดำ”
ของเครื่องบันทึกการบินแล้ว และจะดำเนินการสอบสวนเชิงลึกถึงสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป
โดยหวังว่าจะเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้โดยเร็วที่สุด เพื่ออธิบายให้ครอบครัวของเหยื่อทราบ
และป้องกันไม่ให้โศกนาฏกรรมแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีก
กว่าจะถึงเวลานั้น เราทำได้เพียงไว้อาลัยให้กับชีวิตที่สูญเสียไปและสวดภาวนาเพื่อผู้รอดชีวิต
โดยหวังว่าพวกเขาจะผ่านพ้นความเจ็บปวดในครั้งนี้โดยเร็วที่สุด
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
