3 ม.ค. เวลา 11:03 • หุ้น & เศรษฐกิจ

การขายหมูของปู่บัฟเฟตต์

👨‍🏫 ปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ตำนานนักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ขึ้นชื่อเรื่องการมองการณ์ไกลและความอดทนในการลงทุน แต่กูรูอย่างปู่บัฟเฟตต์ ก็เคยพลาดโอกาสทำกำไรมหาศาลจากการ "ขายหมู" หรือขายหุ้นออกไปก่อนเวลาอันควร จนกลายเป็นบทเรียนที่แม้แต่ตัวปู่เองก็ยังคงเสียดาย
"ขายหมู" คืออะไร?
🐷 ในโลกของการลงทุน การขายหมู หมายถึง การขายหุ้นออกไปก่อนที่ราคาจะขึ้นต่อเนื่องอีกพอสมควร เปรียบเสมือนการขายหมูตัวอ้วน ๆ ในราคาถูก ทั้ง ๆ ที่ถ้ารอให้อ้วนกว่านี้อีกหน่อยก็จะขายได้ราคาดีกว่ามาก นักลงทุนที่ขายหมูมักจะรู้สึกเสียดายภายหลัง เมื่อเห็นราคาหุ้นที่ขายไปพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว พลาดโอกาสทำกำไรก้อนโตไปอย่างน่าเสียดาย
แล้วปู่บัฟเฟตต์ขายหมูตัวไหนไปบ้าง ?
🏰 Disney (NYSE : DIS)
ย้อนกลับไปในปี 2509 ปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ในวัยหนุ่มเพียง 36 ปี ได้เข้าพบกับ คุณวอลต์ ดิสนีย์ ผู้ก่อตั้งอาณาจักร Disney ด้วยความประทับใจในวิสัยทัศน์และความคิดสร้างสรรค์ ปู่บัฟเฟตต์จึงตัดสินใจลงทุนในบริษัท Walt Disney Productions ซึ่งเป็นชื่อเดิมของ Disney ในขณะนั้น ด้วยเงิน 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยซื้อหุ้นในราคาประมาณ 0.31 ดอลลาร์ต่อหุ้น คิดเป็นสัดส่วนราว 5 % ของหุ้น Disney ทั้งหมดในขณะนั้น
แต่แล้วเพียงหนึ่งปีต่อมา ในปี 2510 ปู่บัฟเฟตต์กลับตัดสินใจขายหุ้น Disney ทั้งหมดทิ้ง ในราคา 0.48 ดอลลาร์ ได้กำไรราว 55 % โดยให้เหตุผลว่า ตอนนั้นปู่ยังมองไม่เห็นศักยภาพการเติบโตระยะยาวของ Disney และกังวลเกี่ยวกับการพึ่งพาตัวผู้ก่อตั้งอย่าง วอลต์ ดิสนีย์ มากเกินไป หลังจากที่คุณวอลต์ได้เสียชีวิตในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2509
เกิดอะไรขึ้นกับ Disney หลังจากนั้น ?
📈 หลังจากที่ปู่ขายหุ้นไป Disney ก็ได้สร้างสรรค์ผลงานที่โด่งดังมากมาย เช่น The Little Mermaid, Beauty and the Beast และ The Lion King ในขณะที่สวนสนุกอย่าง Disneyland ซึ่งในปี 2510 มีเพียงแห่งเดียวคือที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ก็ได้สร้างสวนสนุกแห่งที่ 2 ที่รัฐฟลอริดา ในปี 2514
หลังจากนั้น ตลอดเวลาหลายสิบปี Disney ก็ได้ทำการเข้าซื้อกิจการ Pixar, Marvel, และ Lucasfilm ซึ่งท้ายที่สุดก็ทำให้ Disney กลายเป็น "จักรวาลแห่งความบันเทิง" ครบวงจร
1
ซึ่งถ้าปู่บัฟเฟตต์ยังคงถือหุ้น Disney ในสัดส่วน 5 % ตามที่ซื้อไว้ในปี 2509 จนถึงปัจจุบัน ณ วันที่ 2 มกราคม 2568 มูลค่าการลงทุนของปู่จะสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
📱 Apple (NASDAQ : AAPL)
โดยปกติแล้ว ปู่บัฟเฟตต์ขึ้นชื่อเรื่องการลงทุนระยะยาว ซื้อแล้วถือยาว ไม่ค่อยขายหุ้นออกบ่อย ๆ แต่กับหุ้น Apple ที่ปู่ได้ทำการขายออกไปเยอะ จึงเป็นเรื่องที่สร้างความฮือฮาในวงการลงทุนพอสมควร
โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา Berkshire Hathaway บริษัทของปู่บัฟเฟตต์ ได้ทยอยขายหุ้น Apple ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยขายไปเกือบครึ่งหนึ่งในไตรมาสที่ 2 แล้วก็มาขายออกอีกในไตรมาสที่ 3 รวม ๆ แล้วปู่ขายหุ้น Apple ออกไปเกือบ 60 % ของพอร์ตเลยทีเดียว
หลายคนก็สงสัยว่าทำไมปู่ถึงขายหุ้น Apple ออกมาเยอะขนาดนั้น มีการวิเคราะห์กันไปต่าง ๆ นานา บ้างก็ว่าปู่มองว่าราคาหุ้น Apple แพงเกินไปแล้ว บ้างก็ว่าปู่กังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจ เลยอยากถือเงินสดไว้เยอะ ๆ บ้างก็ว่าปู่ไม่ชอบหุ้นเทคโนโลยีอยู่แล้ว
แต่เหตุผลจริง ๆ นั้น ปู่บัฟเฟตต์ก็ไม่ได้บอกออกมาชัดเจน มีเพียงแค่บอกในการประชุมผู้ถือหุ้นว่า การขายหุ้น Apple เป็นเพราะเหตุผลทางด้านภาษี
📈 ซึ่งหลังจากที่ปู่ได้ขายหุ้น Apple ออกไป ราคาของหุ้น Apple ก็ยังคงทำราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้ทำราคาสูงสุดเป็นประวัจิการณ์ไปเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ที่ราคา 259.02 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ปู่จะขายหุ้น Apple ออกไปเยอะ แต่ Apple ก็ยังคงเป็นหุ้นที่ Berkshire Hathaway ถือครองมากที่สุดอยู่ดี ในสัดส่วน 28.5 % ของพอร์ตทั้งหมด
🐷 บทเรียนจากการขายหมูของปู่บัฟเฟตต์
แม้แต่ตำนานนักลงทุนอย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็ยังเคยพลาดท่าเสียทีให้กับการขายหมู เหตุการณ์นี้สอนให้นักลงทุนทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของความอดทน และการมองการณ์ไกลในการลงทุน รวมถึงการศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์พื้นฐานของบริษัทอย่างรอบคอบ เพื่อลดโอกาสในการขายหมู และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว
ซึ่งปู่บัฟเฟตต์ก็ได้ให้ข้อคิด และข้อปลอบใจกับชาวขายหมูไว้ว่า
🥳 การขายหุ้นแล้วราคาหุ้นยังคงขึ้นต่อ เป็นสัญญาณของการเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ เพราะหมายความว่า เราได้ซื้อธุรกิจที่ดี..
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบ ผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
 
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นโดยอาศัยแหล่งข้อมูลสาธารณะ ซึ่งพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือซึ่งปรากฏขณะจัดทำ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละขณะเวลา บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการต่าง ๆ ที่ปรากฏโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
มูลค่าบริษัท ณ วันที่ 2 มกราคม 2568
 
════════════════════
#เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน
════════════════════
Dime! เปลี่ยนเรื่องเงินให้เป็นเรื่องสนุก เพื่อความสุขอย่างเท่าเทียมของทุกคน
 
บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Dime! ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ใบอนุญาตเลขที่ ลก-0007-02
โฆษณา