เปิดด้วยหนังเรื่องแรกของปี 2025 - INTERSTELLAR: 10th Anniversary IMAX
ตั้งตารอมาตั้งแต่ได้ยินข่าวตอนปลายปี คิดเลยว่าถ้าจะประเดิมหนังเรื่องแรกของปีละก็ มันก็ต้องเป็นเรื่องนี้!
ขอขอบคุณกับการนำมาฉายซ้ำอีกครั้งในโรงภาพยนต์บ้านเรา
เฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี กับภาพยนต์ไซไฟที่ตราตรึงใจใครหลายคนอย่าง —- Interstellar
จำได้ว่าครั้งแรก เดินเข้าไปดูกับที่บ้าน ตอนนั้นก็ยังงงๆ อยู่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังจำได้ว่า ภาพห้องหนังสือของเมิฟ และมิติที่ห้าของคูเปอร์มันตราตรึงขนาดไหน!
‘พ่อคือผีของหนู’ เป็นประโยคที่ยังติดอยู่ในหัวจนทุกวันนี้
ได้กลับมาฉายซ้ำอีกครั้งทั้งที ต้องไปดูซักหน่อยแล้ว ตอนแรกก็แอบมีลังเลนิดนึง เพราะเคยมีปสก.ดูค่อยไม่เข้าใจด้วย และความหนัง Christopher Nolan อีก แต่ละเรื่องนี่ต้องคิดแบบหัวจะแตก ดูอย่าง Oppenheimer ไม่ก็ Tenet สิ มันจะคุ้มมั้ยนะ หรือจะไปนอนดูที่บ้าน
แต่สุดท้ายด้วยภาพโรง IMAX กับจอขนาดยักษ์ และระบบเสียงกระหึ่มรอบทิศจนเก้าอี้สั่น (ประสบความยิ่งใหญ่จาก DUNE)
มาลองจินตนาการ ‘ห้วงอวกาศ’ ตามฉบับหนังโนแลนด้วยจอฉายแบบนั้น ร่วมกับสกอร์เพลงของ Hans Zimmer แล้วมัน...ไม่ได้ละ! มันต้องมันต้องคุ้มอย่างแน่นอน
และมันคุ้มค่าตามนั้นจริงๆ แทบจะเรียกว่าเกินคุ้ม
ภาพยิ่งใหญ่อลังการ ไม่รู้จะยกฉากไหนมาดี ความหนังอวกาศกับจอ IMAX นี่มันใช่เลย ไม่ว่าตอนอยู่ท่ามกลางอวกาศอันเงียบเชียบ ภาพหลุมดำ หรือภาพน้ำแข็งอันว่างเปล่าของดาวแมนน์ เอาแค่ฉากไร่ข้าวโพดก็ขนลุกไม่ไหวและ กับดนตรี Iconic ของเรื่องกระหึ่มจนเก้าอี้สั่น ซึ่งนี่แค่น้ำจิ้มนะ อย่าให้พูดถึงฉากการพยายามเชื่อมต่อยาน Endurance แทบจะลืมหายใจ!
ตัวเนื้อเรื่องเองพอเราเริ่มโตขึ้น ก็เริ่มจะรับสารจากหนังได้เข้าใจมากขึ้น หนังพยายามอธิบายอะไรหลายๆ ด้วยมุมมองของนักฟิสิกส์ แล้วมันทำให้รู้สึกว่าฟิสิกส์ (ที่ยากชิบหายเลยเนี่ย) มันอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด อยู่กับเราในทุกๆ ที่ และมันก็น่าหลงใหลซะด้วย อย่างกฏข้อสามของนิวตันที่ดูธรรมดา 'มนุษย์จะเคลื่อนที่ไปด้านหน้าได้ ต้องทิ้งบางสิ่งไว้ข้างหลัง' แต่มันกลับนำมาซึ่งการตัดสินใจอันยิ่งใหญ่ได้
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเสียน้ำตาแบบหยุดไม่ได้ เริ่มมาจากประโยคที่ว่า
—- ‘ฉันเป็นนักฟิสิกส์ สิ่งที่ฉันกลัวคือเวลา’
เพิ่งจะมาเข้ากับถึงความน่ากลัวและเจ็บปวดของเวลาก็ฉากที่คูเปอร์นั่งดูวิดีโอจากลูกๆ ในยานอวกาศ นั่นแหละ
แล้ว Matthew McConaughey ก็แสดงดีเกิ๊น นี่อินจัดน้ำตาไหลเป็นทาง ชั้นไม่คิดว่าหนังไซไฟอวกาศจะทำซึ้งตราตรึงใจขนาดนี้
—- ‘เวลาทำให้ช้าลงได้แต่ถอยหลังไม่ได้’
หนังทำซึ้งแบบเกินคาด และตอนนี้ดนตรีของ Hans Zimmer ก็เอาออกจากหัวไม่ได้ เราเคยฟังดนตรีประกอบของหนังเรื่องนี้มาบ้าง แต่หลังจากได้ดูภาพยนต์แล้วเราคงฟังดนตรีประกอบนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
แน่นอนว่าต่างคนต่างประสบการณ์ย่อมได้รับอะไรจากภาพยนต์มาไม่เหมือนกัน ใครได้เมสเสจอะไรจากหนังมาบ้างก็คอมเมนต์บอกเล่าให้ฟังกันหน่อยนะคะ:)
สุดท้ายนี้กับท่านใดที่สนใจ หนังยังเข้าฉายถึงวันที่ 15 มกราคม ยิ่งกับระบบ IMAX ด้วยภาพยนต์ที่การันตีความสำเร็จมาแล้ว ให้ประสบการณ์ที่มีค่ากับคนดูแน่นอน
ปล. ใครจองตั๋ว IMAX ยังสามารถแลกรับ Exclusive Poster ได้ด้วยจากสาขาที่ปรากฏในบัตรภาพยนตร์ตามวันฉายที่กำหนด ตอนแรกไม่ได้สนใจมาก แต่พอจับจริงทำเนื้อโปสเตอร์มาดีมาก ลายสวยกว่าที่คิด นี่ชอบลายแรก แต่หลายคนก็ว่าลายที่สองสวย (ได้ยินว่าโปสเตอร์มีจำกัดก็อาจจะลองสอบถามก่อนได้)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
