Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ทนายน้อยหน่า
•
ติดตาม
4 ม.ค. เวลา 02:19 • การศึกษา
สิ่งที่ประชาชนต้องรู้เมื่อมาแจ้งความ
ความแตกต่างระหว่างการแจ้งความเพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญาและแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐาน
เมื่อพูดถึง "การแจ้งความ" หลายคนอาจมองว่าเป็นขั้นตอนเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว การแจ้งความนั้นแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ๆ คือ การแจ้งความเพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญา และ การแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐานในคดีแพ่ง ซึ่งทั้งสองมีวัตถุประสงค์และผลทางกฎหมายที่แตกต่างกัน ดังนั้น การเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนควรรู้ก่อนตัดสินใจเดินเข้าโรงพักเพื่อแจ้งความ
1) การแจ้งความเพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญา
การแจ้งความเพื่อร้องทุกข์ในคดีอาญา มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิด โดยการแจ้งความประเภทนี้ใช้กับกรณีที่มีการกระทำผิดอาญา เช่น การลักทรัพย์ ฉ้อโกง ทำร้ายร่างกาย หรือคดีอื่น ๆ ที่มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา
กระบวนการและขั้นตอน
1. การแจ้งความ: ผู้เสียหายหรือผู้มีสิทธิร้องทุกข์ต้องไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งแสดงหลักฐาน (ถ้ามี)
2. อำนาจของตำรวจ: หลังจากรับแจ้งความ ตำรวจมีหน้าที่สืบสวนสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการ เพื่อพิจารณาว่าจะฟ้องผู้กระทำผิดหรือไม่
3. การร้องทุกข์: ตาม มาตรา 2(7) แห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา การร้องทุกข์หมายถึง การที่ผู้เสียหายแสดงเจตนาต่อพนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่เพื่อให้ดำเนินคดีแก่ผู้กระทำผิด
4. ระยะเวลาในการร้องทุกข์: ในกรณีที่เป็นความผิดที่ยอมความได้ เช่น การหมิ่นประมาท หรือการทำร้ายร่างกายเล็กน้อย ผู้เสียหายต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ทราบถึงการกระทำผิดและตัวผู้กระทำผิด (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96)
ตัวอย่างคดีอาญา
นาย ก. ถูกขโมยโทรศัพท์มือถือ เขาสามารถแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ขโมยโทรศัพท์ได้ โดยตำรวจจะสืบสวนและดำเนินการฟ้องร้องผู้กระทำผิดตามกฎหมาย
2) การแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐานในคดีแพ่ง
ในกรณีที่ไม่มีความผิดทางอาญา แต่ผู้แจ้งต้องการให้เหตุการณ์หรือข้อเท็จจริงบางอย่างถูกบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เช่น การทำสัญญา การกู้ยืมเงิน หรือการเกิดอุบัติเหตุโดยไม่มีคู่กรณี การแจ้งความประเภทนี้เป็นเพียงการลงบันทึกประจำวัน ซึ่งไม่มีผลให้เกิดการดำเนินคดีทางอาญาแต่อย่างใด
กระบวนการและขั้นตอน
1. การแจ้งความ: ผู้แจ้งความสามารถแจ้งเหตุการณ์หรือข้อเท็จจริงที่ต้องการบันทึกไว้ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยไม่ต้องร้องขอให้ดำเนินคดี
2. การลงบันทึกประจำวัน: ตำรวจจะทำการลงบันทึกข้อเท็จจริงไว้ในสมุดบันทึกประจำวัน เพื่อให้ผู้แจ้งมีหลักฐานสำหรับใช้ในกรณีที่จำเป็น เช่น การยื่นฟ้องคดีแพ่ง หรือการเรียกร้องค่าเสียหาย
3. ไม่มีการสอบสวนเพิ่มเติม: การแจ้งความประเภทนี้ไม่มีการสืบสวนสอบสวนหรือดำเนินคดีทางอาญาแต่อย่างใด
ตัวอย่างคดีแพ่ง
นาย ข. ขับรถชนเสาไฟฟ้าด้วยตนเองโดยไม่มีคู่กรณี เขาสามารถแจ้งความเพื่อบันทึกเหตุการณ์ไว้เป็นหลักฐานสำหรับการเคลมประกัน
นาง ค. ต้องการบันทึกการที่ นาย ง. ไม่ชำระเงินตามสัญญากู้ยืม เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องร้องคดีแพ่ง
3) ข้อควรระวังในการแจ้งความ
1. เตรียมเอกสารและหลักฐาน: การมีหลักฐานชัดเจนจะช่วยให้การดำเนินการของตำรวจมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. ตรวจสอบประเภทคดี: หากไม่แน่ใจว่าควรแจ้งความประเภทใด สามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือทนายความอาสาประจำสถานีตำรวจ
3. อย่าให้ข้อมูลเท็จ: การแจ้งความเท็จถือเป็นความผิดทางอาญา ตาม มาตรา 137 และ 172 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีโทษปรับและจำคุก
4) ความผิดพลาดที่พบบ่อย
ประชาชนมาแจ้งความเพื่อขอให้ตำรวจลงบันทึกประจำวันแต่ไม่บอกว่าเพื่อขอให้ดำเนินคดีถึงที่สุด แล้วก็รอว่าเมื่อไหร่ตำรวจจะเรียกคู่กรณีมาสอบสวน เมื่อเวลาล่วงเลยมาหลายเดือนจึงมาติดตามผลจึงทราบว่าตนเองมิได้ร้องทุกข์เพื่อขอดำเนินคดีถึงที่สุดซึ่งอายุความร้องทุกข์ก็เลย 3 เดือนไปแล้วจึงหมดอายุความที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด (กรณีความผิดยอมความได้)
บทสรุป
การแจ้งความเป็นสิทธิที่ประชาชนทุกคนสามารถใช้ได้ แต่การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง การแจ้งความร้องทุกข์ในคดีอาญา และ การแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐานในคดีแพ่ง เป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถใช้สิทธินี้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม หากคุณยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการแจ้งความหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อย่าลังเลที่จะปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือทนายความอาสาประจำสถานีตำรวจเพื่อช่วยแนะนำในกรณีของคุณ
#ทนายน้อยหน่า
#ทนายอาสา #สภาทนายความ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย