เหตุที่ศาสนาคริสต์เติบโตในยุโรปแต่ไม่เป็นที่นิยมในเอเชีย
“ศาสนาคริสต์” คือศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดในโลก มีผู้นับถือมากกว่า 2,800 ล้านคนทั่วโลก
ผู้คนนับถือและประกอบพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์มากมายทุกมุมโลก ตั้งแต่สหรัฐอเมริกาไปจนถึงเอเชีย ถึงแม้ว่าศาสนาคริสต์จะเริ่มต้นขึ้นในตะวันออกกลาง หากแต่ก็ได้รับความนิยมและเชื่อมตรงสู่โลกตะวันตก
แต่ศาสนาคริสต์กลับไม่เป็นที่นิยมในเอเชียมากนักเมื่อเทียบกับตะวันตก
วันนี้เราลองมาหาคำตอบเรื่องนี้กันครับว่าเพราะอะไร
ศาสนาคริสต์ ได้เริ่มแพร่กระจายจากจูเดียไปยังดินแดนใกล้เคียงในแถบเลแวนต์ ซึ่งปัจจุบันคืออิสราเอล ปาเลสไตน์ เลบานอน ซีเรีย จอร์แดน และไซปรัส
เมืองแอนทิออค ซึ่งเป็นเมืองกรีกในยุคโบราณ ก็กลายเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในยุคแรก ก่อนที่เหล่าสาวกของ “พระเยซู (Jesus)” ศาสดาของศาสนาคริสต์ จะนำศาสนาคริสต์ไปเผยแพร่ยังอาร์เมเนียและจอร์เจีย และยังเข้าไปยังดินแดนอื่นๆ เช่น เมโสโปเตเมียและจักรวรรดิพาร์เธีย ข้ามไปถึงอินเดียเลยไปตะวันออกไกล
ชาวคริสต์นิกายเนสโตเรียนได้เดินทางจากดินแดนที่ปัจจุบันคือประเทศอิรักไปยังประเทศจีน โดยมีบันทึกถึงการที่ศาสนาคริสต์เข้ามายังแผ่นดินจีนครั้งแรกในสมัยศตวรรษที่ 7-ศตวรรษที่ 10
พระเยซู (Jesus)
นักบวชนามว่า “อโลเพน (Alopen)” ได้เดินทางเข้ามายังราชสำนักจีนในปีค.ศ.635 (พ.ศ.1178) ซึ่งถึงแม้ว่าในทีแรกศาสนาคริสต์เริ่มจะแพร่กระจายในจีน แต่ก็ได้รับการต่อต้านจากลัทธิเต๋าและเหล่าชาวพุทธในจีน
ศาสนาคริสต์เริ่มกลับมาเบ่งบานอีกครั้งในยุคมองโกลเรืองอำนาจ โดยประมุขของมองโกลนั้นให้การยอมรับความต่างทางศาสนามากกว่ายุคก่อนๆ แม้แต่ “กุบไลข่าน (Kublai Khan)” ผู้นำมองโกลคนสำคัญ ก็ยังสมรสกับชาวคริสต์นิกายเนสโตเรียน
ในเวลาต่อมา “สมเด็จพระสันตะปาปานิโคลัสที่ 4 (Pope Nicholas IV)” ก็ได้ส่งมิชชันนารีคณะฟรันซิสกันเข้ามายังจีน โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ชุมชนชาวคริสต์ในจีนมีความเข้มแข็งมากขึ้น โดยมิชชันนารีที่ส่งเข้ามาได้ศึกษาภาษามองโกลเพื่อแปลคัมภีร์ไบเบิ้ลบางส่วน และทำให้การดึงผู้คนเข้ามานับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกสะดวกขึ้น
กุบไลข่าน (Kublai Khan)
แต่เมื่ิอราชวงศ์หมิงขึ้นมาครองอำนาจ ศาสนาคริสต์ก็เริ่มเสื่อมลงเนื่องจากราชวงศ์หมิงไม่ได้ผ่อนปรนมากเท่าสมัยก่อน หากแต่ศาสนาคริสต์ก็ไม่ได้หายไปซะทีเดียว แต่เติบโตอยู่ในวงแคบๆ มาตลอดระยะเวลานับร้อยปี
ในปัจจุบัน มีชาวคริสต์ในประเทศจีนประมาณ 2% ของประชากรจีน
ส่วนประเทศอื่นในเอเชียตะวันออก เช่น ไต้หวัน ก็มีกลุ่มชุมชนชาวคริสต์อยู่เช่นกัน โดยมิชชันนารีชาวอังกฤษกับแคนาดาได้นำศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแพร่ในไต้หวัน และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ หลังจากชาวจีนแผ่นดินใหญ่ย้ายถิ่นฐานมาไต้หวันหลังจากคอมมิวนิสต์ยึดครองจีนแผ่นดินใหญ่
ในปัจจุบัน มีชาวคริสต์ในไต้หวันประมาณ 3% ของประชากรไต้หวัน
ส่วนที่ญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าช่วงแรกศาสนาคริสต์จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แต่ในปัจจุบันกลับมีชาวคริสต์ในญี่ปุ่นเพียงประมาณ 1% ของประชากรญี่ปุ่น
ยุครุ่งเรืองของศาสนาคริสต์ในญี่ปุ่นสิ้นสุดลงในสมัยศตวรรษที่ 17 เมื่อผู้ปกครองญี่ปุ่นทำให้ศาสนาคริสต์เป็นสิ่งต้องห้าม
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีผู้ศรัทธายังคงยึดมั่นในความเชื่อของตน และเมื่อมิชชันนารีกลับมาญี่ปุ่นในเวลาต่อมา ก็พบว่ายังมีชุมชนชาวคริสต์ชุมชนเล็กๆ ยังคงรอดมาได้
ส่วนที่เกาหลี มิชชันนารีชาวอเมริกันนำศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแพร่ในสมัยศตวรรษที่ 19 และถึงแม้จะมีความท้าทายอยู่มาก แต่ชาวเกาหลีก็ต้อนรับศาสนาคริสต์อย่างดี โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ มีชาวเกาหลีใต้ประมาณ 30% นับถือศาสนาคริสต์ และแม้แต่ในเกาหลีเหนือ ก็เชื่อว่ามีชาวเกาหลีเหนือประมาณ 1% ที่แอบประกอบพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์อย่างลับๆ
สำหรับประเทศในเอเชียที่มีชาวคริสต์จำนวนมากที่สุด ก็เห็นจะไม่พ้นฟิลิปปินส์ โดยสเปนได้นำศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกเข้ามา ก่อนที่ในเวลาต่อมา มิชชันนารีจะนำศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์เข้ามา
ในปัจจุบัน มีชาวฟิลิปปินส์ที่นับถือศาสนาคริสต์ประมาณ 78-90% ในฟิลิปปินส์ ทำให้ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีชุมชนชาวคริสต์มากที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย
ส่วนประเทศอื่นๆ ในเอเชีย เช่น ไทย พม่า ศรีลังกา อินโดนีเซีย กัมพูชา เวียดนาม และอินเดีย ก็มีประชาชนที่นับถือศาสนาคริสต์เพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีจำนวนมาก
ในประเทศเหล่านี้ ศาสนาที่เป็นที่นิยมก็คือศาสนาอิสลาม ศาสนาพุทธ และศาสนาฮินดู ทำให้ความนิยมในศาสนาคริสต์อยู่ในวงจำกัด
สาเหตุที่ศาสนาคริสต์ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าไรในแถบนี้ ก็อาจจะมาจากการที่ศาสนาอย่างอิสลามและพุทธนั้นมีรากฐานที่แข็งแรง ในขณะที่ศาสนาคริสต์นั้นแพร่กระจายในแถบตะวันตกได้ง่ายก็เนื่องจากอิทธิพลของจักรวรรดิโรมัน
ในปัจจุบัน ศาสนาคริสต์คือศาสนาที่มีผู้นับถือมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก หากแต่ไม่นิยมในเอเชียมากนัก ซึ่งก็อาจจะด้วยเหตุผลต่างๆ ดังที่กล่าวไป
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
