4 ม.ค. เวลา 12:00 • ธุรกิจ

🔥 6 วิธี สร้างตัวตนแบรนด์ให้ปัง!! ด้วยกลยุทธ์ "Brand Identity Prism"

"Brand Identity Prism" คือ 1 ในกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการเอเจนซี่โฆษณา ซึ่งมีแนวทางการสร้างอัตลักษณ์ หรือ ตัวตนของแบรนด์ที่ลงรายละเอียดได้ลึกซึ้งยิ่งกว่ากลยุทธ์ "Brand Identity" แบบทั่วไปที่เราเคยใช้กัน
"Brand Identity Prism" เป็นการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ (Brand Image) ให้มีภาพจำที่ชัดเจน อีกทั้งยังสะท้อนคุณค่าหลัก (Core Value) ของแบรนด์ที่เชื่อมโยงสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันของ 2 มุมมอง ระหว่าง "มุมมองของลูกค้า" และ "มุมมองของเจ้าของแบรนด์" เพื่อให้การสื่อสารแบรนด์นั้นเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อัตลักษณ์ของแบรนด์นั้นมีความโดดเด่นจากแบรนด์คู่แข่งในตลาด อีกทั้งยังช่วยสร้างความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ของลูกค้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
"Brand Identity Prism"
ประกอบด้วย 6 มิติสำคัญ ดังนี้..
.
👉 ( 1 ) Physique (ลักษณะทางกายภาพ) คือ การสร้างบุคลิกทางกายภาพภายนอกที่ลูกค้าสามารถมองเห็นได้ผ่านโลโก้แบรนด์, สีสัน, รูปทรงต่างๆ เป็นปัจจัยแรกที่แบรนด์สะท้อนให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เห็นและรับรู้ถึงภาพรวมของแบรนด์ได้เป็นอย่างดีว่า "แบรนด์นี้คืออะไร?" ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของประโยชน์ที่ลูกค้าต้องได้รับ แต่ควรเชื่อมโยงถึงอารมณ์ความรู้สึกของลูกค้าด้วย
👉 ( 2 ) Personality (บุคลิกภาพของแบรนด์) คือ การกำหนดลักษณะบุคลิกภาพของแบรนด์ให้เด่นชัด หรือ การสร้างนิสัยให้แบรนด์มีชีวิตเหมือนมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งบุคลิกภาพที่สร้างขึ้นนี้จะต้องถูกใช้ในการสื่อสารแบรนด์กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแบบ 360 องศา เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเชื่ออย่างสนิทใจว่า "แบรนด์มีบุคลิกแบบนั้นจริงๆ"
👉 ( 3 ) Culture (วัฒนธรรมของแบรนด์) คือ วัฒนธรรมหรือสังคมภายในองค์กรที่ถูกถ่ายทอดผ่านสินค้าและบริการต่างๆ ให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้รับรู้ ซึ่งวัฒนธรรมของแบรนด์นี้ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยสะท้อนอัตลักษณ์ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ลองคิดดูเล่นๆ ว่า อะไรจะเกิดขึ้น? หากแบรนด์ทำการสื่อสารว่าเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ แต่ทัศนคติและสังคมภายในองค์กรกลับทำงานล่าช้า ไม่รวดเร็วฉับไวเหมือนภาพที่ลูกค้ามองเห็นผ่านสื่อโฆษณา
👉 ( 4 ) Relationship (ความสัมพันธ์กับลูกค้า) คือ การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าของแบรนด์จะเพิกเฉยไม่ได้ ต้องหมั่นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ (ทั้งในอดีต - ปัจจุบัน - อนาคต) โปรดอย่าลืมว่า!! "การรักษาฐานลูกค้าเดิมนั้นย่อมใช้ต้นทุนที่น้อยกว่าการแสวงหาลูกค้ารายใหม่)
👉 ( 5 ) Reflection (ฐานลูกค้าของแบรนด์) คือ ภาพสะท้อนถึงอัตลักษณ์ของแบรนด์ที่เชื่อมโยงสินค้าและบริการของแบรนด์ว่าเหมาะสมกับลูกค้าเป้าหมายกลุ่มไหน? ตัวอย่างเช่น เป็นแบรนด์สำหรับคนรุ่นใหม่, เป็นแบรนด์สำหรับคนเมือง, เป็นแบรนด์สำหรับคนรักสุขภาพ เป็นต้น
👉 ( 6 ) Self-Image (ภาพลักษณ์ในใจลูกค้า) คือ ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ลูกค้ามองเห็นซึ่งถูกเชื่อมโยงเข้ากับตัวตนของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย (เหมือนกับภาพในอุดมคติ) ที่คิดเอาเองว่า.. ถ้าลูกค้าได้ใช้สินค้าและบริการของแบรนด์นี้จะมองเห็นตัวเองว่าเป็นคนอย่างไร? มีทัศนคติและพฤติกรรมแบบไหน? ซึ่งแบรนด์ที่ดีจะต้องสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้นกับลูกค้า โดยใช้กิจกรรมและสื่อการตลาดต่างๆ เพื่อให้ภาพจำของแบรนด์นั้นยิ่งชัดเจนมากขึ้น
#Classroom101 #ห้องเรียนกลยุทธ์
⏰ เสาร์และอาทิตย์ / เวลา 19.00 น.
.
นำเสนอคลาสเรียนกลยุทธ์ออนไลน์
ปรับพื้นฐาน ฉบับเข้าใจง่ายและใช้ได้จริง
ครอบคลุม 4 ทักษะสำคัญต่อการทำธุรกิจ
.
• Creative (ความคิดสร้างสรรค์)
• Branding (การสร้างแบรนด์)
• Marketing (การตลาด)
• Sustainability (ความยั่งยืน)
BRANDFIXER🔧นักซ่อมแบรนด์ธุรกิจอาหาร
Future Food Branding For Sustainability
ซ่อมเพื่อสร้างและพัฒนาแบรนด์ไทยให้ยั่งยืน
.
#Brandfixer #นักซ่อมแบรนด์
#ซ่อมเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย
#Food #Beverage #Agriculture
.
#Creative #Branding
#Marketing #Sustainability
โฆษณา