4 ม.ค. เวลา 10:29 • การเมือง

ทำไม "แกนนำเสื้อแดง" แตกกันไปคนละทาง? บทวิเคราะห์การเมืองไทยปัจจุบัน

ชวนอ่าน บทวิเคราะห์อนาคตทางการเมืองของ ธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธาน นปช.
การเมืองไทยยังคงวนเวียนอยู่ในวังวนของความขัดแย้งระหว่าง "ประชาธิปไตยของประชาชน" และ "ระบอบอำมาตยาธิปไตย" แม้ว่าตัวละครในเวทีการเมืองจะเปลี่ยนไป แต่โครงสร้างอำนาจยังคงดำรงอยู่ ขณะที่อดีตแกนนำเสื้อแดงบางส่วนเดินตามเส้นทางการเมืองหลักเพื่อรักษาสถานะทางอำนาจ หลายคนกลับยึดมั่นในอุดมการณ์ดั้งเดิม นำไปสู่ความแตกแยกของขบวนการต่อสู้ที่เคยเป็นเอกภาพ
1. ระบอบอำมาตย์ยังคงอยู่ แม้ตัวละครเปลี่ยนแปลง
แม้ปัจจุบันการเมืองไทยจะมีการเลือกตั้ง แต่โครงสร้างอำนาจยังคงถูกครอบงำโดยกลุ่มอำมาตย์ ซึ่งมีเครือข่ายกว้างขวางครอบคลุมทั้งองค์กรอิสระ นายทุน นักวิชาการ และสื่อมวลชน
🔹 จากประชาธิปัตย์ถึงภูมิใจไทย : เดิมพรรคประชาธิปัตย์เคยเป็นตัวแทนของระบอบอำมาตย์ แต่ปัจจุบันอิทธิพลได้ย้ายไปสู่พรรคภูมิใจไทย และรวมไทยสร้างชาติ
🔹 เพื่อไทยกลายเป็นพรรคจารีต : แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาล แต่ก็อยู่ภายใต้แรงกดดันของอำนาจจารีต ทำให้ต้องเล่นบทบาทที่ระมัดระวังในการบริหารประเทศ
🔹 ประชาชนกลายเป็นไพร่สมัยใหม่ : ระบบอุปถัมภ์ยังคงแข็งแกร่งในระดับท้องถิ่น และเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้พรรคก้าวไกลไม่สามารถชนะในระดับ อบจ. หรือ อบต. ได้
2. ทำไมอดีตแกนนำเสื้อแดงแตกกันไปคนละทาง?
อดีตแกนนำเสื้อแดงจำนวนมากเคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันเพื่อประชาธิปไตย แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขากลับเดินไปในเส้นทางที่แตกต่างกัน
🔹 แนวร่วมที่มี "เป้าหมายต่างกัน
นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเทศ ให้คืนอำนาจสู่ประชาชน
นักการเมือง ต้องการอำนาจและตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจที่แตกต่าง
🔹 กรณี "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" และ "จักรภพ เพ็ญแข
ทั้งสองคนเคยเป็นแกนนำคนสำคัญของขบวนการเสื้อแดง แต่ปัจจุบันหันไปสนับสนุนพรรคเพื่อไทย การกลับไปอยู่ในฝ่ายรัฐบาลทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนว่า "หักหลังอุดมการณ์"
🔹 "อาจารย์ธิดา" ยืนยันว่า ไม่โกรธอดีตเพื่อนร่วมอุดมการณ์
มองว่าทุกคนมีเส้นทางของตนเอง
เปรียบเทียบว่า "สัตว์แต่ละชนิดก็มีธรรมชาติของมันเอง" เป็ดไม่สามารถบินได้เหมือนนก และนกก็ไม่สามารถว่ายน้ำได้เหมือนเป็ด
3. ความขัดแย้งระหว่าง "ประชาชน" และ "ระบอบอำมาตย์" ยังดำรงอยู่
แม้ว่าความตื่นตัวทางการเมืองของประชาชนจะเพิ่มขึ้น และประชาชนสามารถใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางแสดงออก แต่ระบบอำนาจเดิมยังคงแข็งแกร่ง
🔹 ประชาชนมีพัฒนาการมากขึ้น
ปัจจุบันประชาชนสามารถตรวจสอบการเมืองและวิจารณ์รัฐบาลผ่านสื่อออนไลน์
ความต้องการประชาธิปไตยในรูปแบบสากลเพิ่มขึ้น
🔹 แต่โครงสร้างอำนาจเดิมยังคงเหนียวแน่น
ระบบอุปถัมภ์ในระดับท้องถิ่นยังเป็นอุปสรรคสำคัญ
พรรคก้าวไกลประสบความสำเร็จในเวทีระดับชาติ แต่แพ้ในระดับท้องถิ่น
🔹 รัฐบาลแพทองธารและอนาคตการเมืองไทย
พรรคเพื่อไทยพยายามดำรงอำนาจให้อยู่ถึงปี 2570
ต้องต่อสู้กับอำนาจของแบงก์ชาติและสภาพัฒน์ในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ อาจเสียฐานเสียงจากประชาชนหากไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านประชาธิปไตยได้
4. อนาคตของประชาธิปไตยไทยจะเป็นอย่างไร?
การเมืองไทยยังคงมีความเสี่ยงที่จะวนกลับไปสู่ความรุนแรงหรือการรัฐประหาร หากระบอบอำมาตย์ยังไม่ยอมคืนอำนาจให้ประชาชน
🔹 แนวทางปฏิรูปที่สำคัญ
คดี 112 และคดีการเมืองต้องได้รับการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล
ต้องปฏิรูปกองทัพ และยกเลิกการขึ้นศาลทหารสำหรับทหารที่ละเมิดสิทธิประชาชน พรรคการเมืองต้องเข้าใจโครงสร้างอำนาจและวางยุทธศาสตร์ให้รอบคอบ
🔹 "ใบอนุญาตที่สอง" ของทักษิณไม่ใช่หลักประกันว่าจะอยู่รอด
พรรคเพื่อไทยต้องรักษาสมดุลระหว่าง การอยู่รอดทางการเมือง และ การรักษาฐานเสียงประชาชน
ถ้าเลือกเพียงอย่างเดียว อาจเสี่ยงต่อการล่มสลายในอนาคต
สรุป
แม้ว่ารัฐบาลเพื่อไทยจะสามารถบริหารประเทศได้ในขณะนี้ แต่ก็ยังอยู่ภายใต้โครงสร้างอำนาจที่ครอบงำโดยระบอบอำมาตย์ ในขณะที่อดีตแนวร่วมประชาธิปไตยบางส่วนหันไปสู่เส้นทางการเมืองแบบดั้งเดิม ซึ่งอาจทำให้สูญเสียความไว้วางใจจากประชาชน
ประชาชนยังคงต้องเฝ้าระวังและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อไม่ให้การเมืองไทยต้องวนเวียนอยู่ในวังวนเดิม และป้องกันไม่ให้เกิดรัฐประหารหรือความรุนแรงทางการเมืองอีกครั้ง
การต่อสู้ระหว่างประชาชนกับระบอบอำมาตย์ยังคงดำเนินต่อไป และอนาคตของประชาธิปไตยไทยจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทั้งประชาชนและพรรคการเมืองหลักในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
รับชมได้ทาง https://youtu.be/FcckB_9Mfmo?si=flHd4oIMprlSUBY-
โฆษณา