เล่าผ่านเลนส์ในฐานะนักสื่อสาร
ขอเริ่มต้นมาที่จุดเริ่มต้นที่ทำให้ได้มีโอกาสทำหน้าที่ในฐานะนักสื่อสาร คงเป็นการที่ดิฉันศึกษาอยู่สาขาการสื่อสารสื่อใหม่ คณะบริหารธุรกิจและนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา พออ่านมาจนถึงตอนนี้อาจสงสัยว่าทำไมถึงคิดว่านี้คือจุดเริ่มต้น
นั่นก็คงเป็นเพราะว่าหลักสูตรชั้นปีที่3สาขานี้ มีอยู่วิชานึง นั่นก็คือวิชา “สื่อพลเมือง” ที่ทำให้ได้มีโอกาสสัมผัสกับคำว่านักสื่อสารอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก เป็นวิชาที่ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงความเป็นพลเมือง เรียนรู้ที่จะทำหน้าที่เป็นนักข่าวพลเมืองที่ดี และทำให้ได้มีโอกาสลงมือทำ นั่นคือการเข้าไปยังชุมชนที่มีชื่อว่า “นาไร่เดียว”
- ●ทำความรู้จักกับชุมชนนาไร่เดียว
"ชุมชนนาไร่เดียว" คงเป็นชุมชนที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก ดิฉันจึงอยากจะบอกเล่าให้ทุกคนได้รู้จักชุมชนนี้กันคร่าวๆ ชุมชนนาไร่เดียว ตั้งอยู่หมู่ที่14 ตำบลแม่กา อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา มีประชากรประมาณ120ครัวเรือน อาชีพส่วนใหญ่ของคนในชุมชน คือ เกษตรกร เก็บของป่า เป็นชุมชนที่มีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ แต่สิ่งที่ขาดแคลนจากคำบอกเล่าของผู้ใหญ่บ้าน คือการขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง
- ●สิ่งที่ชุมชนนาไร่เดียวกำลังเผชิญ
สิ่งที่ชุมชนนาไร่เดียวกำลังเผชิญตามคำบอกเล่าจากผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าคือเรื่องน้ำ ซึ่งน้ำถือเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตปัญหาที่ชุมชนนาไร่เดียวกำลังเผชิญอยู่ ทั้งเรื่องน้ำ รวมไปถึงปัญหาอื่นๆที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการเผาขยะ ที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 ที่จะกระทบกับสุขภาพของคนในชุมชนรวมไปถึงชุมชนข้างๆ ซึ่งชุมชนนาไร่เดียวแห่งนี้เป็นจุดที่มีการเผาไหม้มากที่สุดในตำบลแม่กา อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา เลยทีเดียว
ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงทำให้เราพยายามที่จะหาวิธีการที่จะช่วยเหลือชุมชนนาไร่เดียวในฐานะนักสื่อสาร กับทีมทั้งหมด14คน สิ่งที่เราทำอาจจะช่วยเปลี่ยนแปลงและเกิดการตระหนักได้ไม่มากก็น้อย เรามีการลงพื้นที่เข้าไปสอบถาม เข้าไปพูดคุย มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่คนในทีมแต่ละคนได้รับทราบมา ผ่านกระบวนการต่างๆมากมาย ตั้งแต่การหาข้อมูล การนำข้อมูลมาวิเคราะห์
อย่างการเลือกใช้ CJ PCC PM UCG การวิเคราะห์การสื่อสารของชุมชนนาไร่เดียวว่ามีการสื่อสารยังไงบ้าง ใช้วิธีการหรือผ่านแพลตฟอร์มอะไร การเรียนรู้โดยใช้โมเดล SMCREF ได้เรียนรู้จากอาจารย์ผู้สอนที่ช่วยทำให้การทำงานในฐานะนักสื่อสารเป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม จนตอนนี้ดิฉันและทีมอยู่ในขั้นตอนการผลิตสื่อเพื่อที่จะนำเข้าไปช่วยชุมชนนาไร่เดียว
- ●ความรู้สึกของการเข้าไปยังชุมชน ในฐานะนักสื่อสารครั้งแรก
ในตอนแรกต้องยอมรับว่าตัวดิฉันคิดว่าคงเป็นชุมชนปกติทั่วไป คงไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างจากชุมชนอื่นมากนัก ที่รู้สึกอย่างนี้คงเป็นเพราะภาพจำว่าชุมชนไหนก็คงคล้ายกัน จนกระทั่งได้มีโอกาสเข้าไปยังชุมชน ถึงได้มีความรู้สึกว่าชุมชนนี้มีความแตกต่างจากชุมชนอื่นยังไง ที่รู้สึกได้ชัดเจนและเห็นได้ชัด คือ ชุมชนนี้เป็นชุมชนที่ค่อนข้างเงียบ มีบรรยากาศที่สงบ บางบ้านก็ออกไปหาของป่ามาไว้กิน ขายบ้าง เหมือนคนในชุมชนนี้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง เป็นชุมชนที่มีร้านค้าเล็กๆไม่กี่ร้าน มีอ่างน้ำที่ขุดไว้ใช้ และยังไม่มีน้ำประปา
แต่พอได้เข้าไปพูดคุยมากขึ้นเรื่อยๆ ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารจากคำบอกเล่าจากทั้งผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงชาวบ้านเอง ก็ได้รับรู้ถึงปัญหาอย่างเรื่องน้ำ ทำให้รู้สึกว่าแม้กระทั่งน้ำที่เป็นปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์ พวกเขายังไม่ได้รับอีกหรือ ทำให้ยิ่งรู้สึกว่าแล้วเราจะสามารถช่วยพวกเขาในฐานะนักสื่อสารยังไง ถือเป็นโจทย์ที่ยากมาก
การเข้าไปช่วยแก้ปัญหาในชุมชนยังคงมีอุปสรรคและบททดสอบอยู่ไม่น้อย เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่มีความหมาย ทอดแทรกอะไรหลายอย่าง บางครั้งก็ทำให้ตัวดิฉันเองได้เห็นมุมมองผ่านเลนส์ความรู้ต่างๆมากมาย เป็นช่วงเวลาที่มีค่า และแม้จะมีอุปสรรคและบททดสอบรออยู่ แต่เมื่อมีโอกาสได้ทำหน้าที่ในฐานะนักสื่อสารก็ควรพยายามอย่างเต็มที่
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
