Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
PW
•
ติดตาม
5 ม.ค. เวลา 08:02 • การศึกษา
คริสตจักรบ้านแม่กานาไร่เดียว
“ 3 ร. จากมุมมองของนักสื่อสารพลเมืองมือใหม่ ”
สิ่งที่ได้รับ สิ่งที่รู้สึก และสิ่งที่ได้เรียนรู้ ผ่านเลนส์ความรู้ที่ได้เรียนและในฐานะนักสื่อสาร
สวัสดีค่ะดิฉัน นางสาวแพรววรรณ แก้วงาม กำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยพะเยา สาขาวิชาการสื่อสารสื่อใหม่ ชั้นปีที่ 3 ค่ะ ซึ่งในภาคเรียนนี้ได้ศึกษาวิชา"สื่อภาคพลเมือง (Citizen Media)" จึงมีโอกาสลงพื้นที่หมู่บ้านนาไร่เดียว ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา เข้าไปเรียนรู้ชุมชนและสร้างความเป็นพลเมืองให้เพิ่มมากขึ้นทั้งตัวเราและคนในชุมชน บทความนี้จึงเป็นการเล่าถึงประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัวต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายค่ะ
ถ้ากล่าวถึงสิ่งที่ได้รับจากการเป็นนักสื่อสารที่ได้ลงพื้นที่เพื่อศึกษาชุมชนบ้านนาไร่เดียว สิ่งที่ได้รับคงจะเป็นความรู้ ความเข้าใจ ที่ได้จากการศึกษาบริบทของชุมชนบ้านนาไร่เดียวทั้งด้านความเป็นอยู่ อาชีพ รายได้ ทรัพยากร สภาพแวดล้อม ค่านิยม ประเพณี วัฒนธรรมและปัญหาในแต่ละด้านของชุมชน ซึ่งแต่ละหมู่บ้านแต่ละชุมชนก็จะมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันออกไป
แม้กระทั่งหมู่บ้านนี้ที่ในหนึ่งหมู่บ้านมีถนนเส้นหลักตัดผ่านจึงเกิดการแบ่งเป็นบ้านบนกับบ้านลุ่ม ทำให้วิถีชีวิตของพวกเขาทั้ง 2 บ้าน มีความแตกต่างกันออกไป การทำงานร่วมกับชุมชนจึงต้องมีความหลากหลายเพื่อให้เข้ากับตัวบริบทของชุมชน การที่จะเป็นทั้งนักสื่อสารและการเป็นพลเมืองที่ดีควบคู่กันไปนั้นต้องมีองค์ประกอบหลายด้าน เช่น การมีความรู้ให้รอบด้าน การเข้าใจชุมชนว่าต้องการอะไร การทำให้ชุมชนพร้อมที่จะสื่อสาร และอุปสรรคต่างๆที่ส่งผลให้ชุมชนไม่พร้อมต่อการสื่อสารสิ่งที่ต้องการออกมา
ถ้าถามถึงทางด้านความรู้สึกก็สัมผัสและรู้สึกได้เลยว่าการจะเป็นนักสื่อสารที่ดีที่มีความเป็นพลเมืองด้วยนั้นยากและเหนื่อยมากๆ เราต้องมองให้รอบด้าน ต้องมองให้ลึก ต้องมองจากหลายมุมมอง ต้องรู้จักสังเกตและต้องคำถามพร้อมหาวิธีแก้ปัญหาได้อย่างดี ฉลาด และรวดเร็ว
นอกจากนั้นนักสื่อสารไม่ใช่เพียงแค่คิดวิธีแต่ยังต้องลงมือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นด้วยจึงจะสะท้อนให้เห็นความเป็นพลเมืองที่ดี ชุมชนจึงต้องเข้าใจว่าสิ่งที่เรากำลังทำให้พวกเขาคืออะไร เราอยากจะช่วยอะไร เราอยากให้เขาทำอะไร และสิ่งนี้มันส่งผลดียังไง การทำงานจึงเป็นไปได้ค่อนข้างยากและลำบากหากชุมชนไม่เข้าใจและไม่ให้ความร่วมมือ
การที่ได้เรียนรู้บริบทของชุมชนนำมาสู่การร่วมมือกับชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาและพยายามที่จะทำให้คนในชุมชนมีความเป็นพลเมืองมากยิ่งขึ้น ทำให้พวกเขาเรียนรู้ เข้าใจ และลงมือทำได้ด้วยตนเอง แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้นทำให้ได้เรียนรู้อีกหนึ่งอย่างคือการเปลี่ยนแปลงความเชื่อของคนในชุมชนเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ที่จะทำให้คนในชุมชนลบล้างความเชื่อแบบเดิมๆที่อาจจะส่งผลกับพวกเขาเอง เปลี่ยนความเข้าใจใหม่ที่ถูกต้อง ทำให้คนในชุมชนเข้าใจว่าสิ่งที่มองข้ามอาจจะสร้างปัญหาได้ในอนาคต
เราจึงต้องเรียนรู้ชุมชนอยู่ตลอดเวลาไม่สามารถมองข้ามแม้แต่สิ่งเล็กๆ ที่ตอนนี้เราคิดว่าอาจจะไม่เป็นอะไร เรียนรู้วิธีที่จะเข้าหาชุมชนแบบที่ชุมชนพร้อมจะต้อนรับและลงมือร่วมกันกับพวกเรา
ซึ่งสุดท้ายนี้ทำให้เราเข้าใจได้ว่าการลงพื้นที่เรียนรู้ชุมชนบ้านนาไร่เดียวไม่เพียงช่วยเปิดมุมมองใหม่ แต่ยังสร้างความเข้าใจลึกซึ้งถึงบทบาทของนักสื่อสารพลเมืองที่ต้องมีทั้งความรู้ ความอดทน และความเข้าใจในบริบทเฉพาะของชุมชน การเป็นนักสื่อสารที่ดีไม่ใช่เพียงการถ่ายทอดข้อมูล แต่คือการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชุมชนผ่านการทำงานร่วมกัน แม้จะยากลำบากและเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ก็นำมาซึ่งบทเรียนสำคัญที่จะผลักดันให้เราเติบโตในฐานะทั้งพลเมืองและนักสื่อสารที่ดีได้
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย