5 ม.ค. เวลา 03:42 • การศึกษา
คริสตจักรบ้านแม่กานาไร่เดียว

บล็อกความรู้สึกของการเรียนรู้ผ่านเลนส์ความรู้ในฐานะนักสื่อสาร

ผมชื่อ นายอนันต์ไชย ไชยปัญญาเจริญ หรือชื่อเล่นว่า "เต้" ปัจจุบันเป็นนิสิตชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการสื่อสารสื่อใหม่ คณะบริหารธุรกิจและนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ในรายวิชาสื่อพลเมืองที่ได้รับการสอนโดยอาจารย์ผู้สอน รศ.ดร.ภัทรา บุรารักษ์ รายวิชานี้ถือเป็นหนึ่งในบทเรียนสำคัญที่ผมได้รับ ซึ่งไม่เพียงแค่ทำให้ผมเข้าใจบทบาทของสื่อในฐานะเครื่องมือในการสร้างสรรค์สังคม แต่ยังทำให้ผมเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่นในสถานการณ์ที่ท้าทาย และได้สัมผัสถึงการใช้สื่อในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความท้าทายจากการทำงานร่วมกับกลุ่ม
ความท้าทายจากการทำงานร่วมกับกลุ่ม
ในการเรียนรู้ผ่านโครงการที่อาจารย์จัดขึ้น ผมได้รับมอบหมายให้ทำงานกับเพื่อน ๆ ในกลุ่มเพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่จะช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในชุมชน โดยเฉพาะปัญหาขาดแคลนน้ำและการจัดการขยะในหมู่บ้านแม่กานาไร่เดียว ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ประสบปัญหาดังกล่าวอย่างรุนแรง การทำงานในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการทำงานร่วมกับคนหลายคนในทีมต้องอาศัยความร่วมมือและความเข้าใจซึ่งกันและกันเป็นอย่างมาก
ในตอนแรก ผมรู้สึกกังวลมากกับการทำงานในกลุ่ม เพราะไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับเพื่อน ๆ ในลักษณะนี้มาก่อน ปกติแล้วผมมักจะทำงานคนเดียวและมีวิธีการทำงานที่ค่อนข้างเป็นระเบียบและตรงไปตรงมา แต่เมื่อได้ทำงานร่วมกับเพื่อน ๆ ผมต้องปรับตัวในหลายด้าน ทั้งการฟังความคิดเห็นของผู้อื่น การยืดหยุ่นในทัศนคติ และการประนีประนอมในบางกรณีที่ความคิดเห็นไม่ตรงกัน แม้ว่าจะมีความกังวลว่าผลงานของเราจะไม่เป็นที่พอใจของอาจารย์หรือเพื่อน ๆ ในกลุ่ม แต่ผมก็พยายามตั้งใจทำให้ดีที่สุด โดยไม่ท้อถอยหรือยอมแพ้
การรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย
การได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่รับผิดชอบในส่วนของการรักษาวัฒนธรรมของหมู่บ้านแม่กานาไร่เดียวนั้น ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายมาก เพราะวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในหมู่บ้านนี้ ไม่ได้เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญหรือพูดถึงมากนัก หากไม่รักษาไว้ วัฒนธรรมเหล่านี้ก็อาจสูญหายไปในอนาคต ผมจึงเห็นว่า การใช้สื่อในการเผยแพร่ความรู้และการสื่อสารเกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่นในหมู่บ้านเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ในกระบวนการทำงาน ผมต้องค้นคว้าและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมของหมู่บ้าน รวมถึงวิธีการที่สามารถนำเสนอข้อมูลเหล่านั้นให้ตรงกับความเข้าใจของคนในชุมชนและผู้คนภายนอก ผมต้องทำการสำรวจและสัมภาษณ์ผู้สูงอายุในหมู่บ้านเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประเพณีและขนบธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ถือปฏิบัติกันมานาน ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่ทำให้ผมเข้าใจถึงความสำคัญของการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม และบทบาทของสื่อในการสื่อสารข้อมูลให้กับคนในชุมชน
การเรียนรู้จากการลงพื้นที่
การเรียนรู้จากการลงพื้นที่
การลงพื้นที่ไปยังบ้านแม่กานาไร่เดียวเป็นประสบการณ์ที่สำคัญที่สุดในการเรียนรู้ครั้งนี้ ผมได้เห็นด้วยตาตัวเองว่า ชุมชนในพื้นที่ชนบทประสบปัญหาที่แตกต่างจากชุมชนในเมือง เช่น ปัญหาขาดแคลนน้ำสะอาดและการจัดการขยะ ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนมองข้ามไป การได้ลงไปสัมผัสกับสถานการณ์จริงทำให้ผมได้เข้าใจถึงความยากลำบากที่ชุมชนต้องเผชิญ และรู้สึกว่าเราในฐานะนักสื่อสารสามารถใช้สื่อในการช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
แม้จะเป็นครั้งแรกที่ผมได้ลงพื้นที่ไปสัมผัสกับปัญหาจริงในชุมชน ผมก็ได้รับประสบการณ์ที่ล้ำค่าและได้เห็นถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกับชุมชนในการหาทางแก้ไขปัญหาด้วยกัน การใช้สื่อในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่สำคัญ เช่น การประหยัดน้ำ การจัดการขยะ และการส่งเสริมการรักษาวัฒนธรรมของชุมชน จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมเห็นว่าการสื่อสารมีความสำคัญในการเชื่อมโยงคนในชุมชนให้มีความเข้าใจร่วมกันและร่วมมือในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
การพัฒนาทักษะในการรับฟังและการปรับตัว
การพัฒนาทักษะในการรับฟังและการปรับตัว
ในกระบวนการทำงานร่วมกับเพื่อน ๆ ผมเรียนรู้ว่าการฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและการเปิดใจรับฟังสิ่งที่คนอื่นพูดนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในกรณีที่ความคิดเห็นไม่ตรงกัน การเรียนรู้ที่จะรับฟังและเข้าใจมุมมองของผู้อื่นทำให้ผมเติบโตทั้งในฐานะบุคคลและในฐานะนักสื่อสาร การรับฟังความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ไม่เพียงแค่ช่วยให้ผมเห็นถึงมุมมองใหม่ ๆ แต่ยังทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะยืดหยุ่นและประนีประนอมในบางสถานการณ์
แม้ว่าในบางครั้งผมจะรู้สึกกดดันและไม่มั่นใจในตัวเอง แต่การได้รับคำแนะนำจากอาจารย์และเพื่อน ๆ ก็ทำให้ผมสามารถปรับตัวและพัฒนาตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง ผมได้เรียนรู้ว่า การกดดันหรือการตำหนิไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เราเติบโต แต่การยอมรับความผิดพลาดและพร้อมที่จะปรับปรุงตัวเองคือสิ่งที่จะทำให้เราเก่งขึ้น การทำงานในกลุ่มทำให้ผมเรียนรู้ว่าการรับผิดชอบต่อผลงานของตัวเองและผู้อื่นนั้นมีความสำคัญอย่างไร
การเติบโตและบทเรียนในอนาคต
อนาคตไม่ใช่สิ่งที่รออยู่ข้างหน้า
แต่มันคือการสร้างขึ้นในทุก ๆ วันนี้จากบทเรียนที่เราสั่งสม
หลังจากทำงานร่วมกับเพื่อน ๆ และอาจารย์ในโครงการนี้ ผมรู้สึกว่าผมเติบโตขึ้นมากทั้งในด้านการทำงานเป็นทีม การรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ แม้จะมีช่วงเวลาที่รู้สึกท้อแท้และกดดัน แต่ผมก็เชื่อว่าทุก ๆ ความท้าทายที่ผมเผชิญนั้นได้สอนให้ผมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และเติบโตขึ้นในฐานะนักสื่อสาร
ในอนาคต ผมจะต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในการฝึกงานและการทำงานจริง แต่สิ่งที่ผมเรียนรู้จากการทำงานในกลุ่มและการลงพื้นที่ครั้งนี้จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่จะช่วยให้ผมสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผมเชื่อว่า ประสบการณ์ที่ผมได้รับในช่วงเวลาเรียนนี้จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการเตรียมตัวสำหรับการทำงานในอนาคต
บทส่งท้าย
บทส่งท้าย
"สุดท้ายนี้ ผมอยากขอบคุณอาจารย์ที่ได้ให้โอกาสและคำแนะนำดี ๆ ตลอดการเรียนในรายวิชานี้ ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่ร่วมทำงานและสร้างสรรค์ผลงานด้วยกัน การทำงานในโครงการนี้ไม่เพียงแค่ทำให้ผมได้เรียนรู้เรื่องสื่อสาร แต่ยังทำให้ผมเห็นความสำคัญของการทำงานร่วมกัน และความทุ่มเทที่มีร่วมกันในการแก้ไขปัญหาของสังคม แม้ว่าผมจะจบการศึกษาจากที่นี่ไปแล้ว แต่ผมเชื่อว่า สิ่งที่เราทำในช่วงเวลาที่ผ่านมาจะยังคงอยู่ในความทรงจำของผมและเพื่อน ๆ ทุกคนตลอดไปครับ"
โฆษณา