5 ม.ค. เวลา 08:50 • หนังสือ

”The Almanack of Naval Ravikant“

คู่มือสร้างความมั่งคั่งและความสุขในโลกที่ไม่เป็นใจ ฉบับนายนาวาล
หนังสือเล่มแรกที่อ่านจบในปี 2025 เชื่อเลยว่าเป็นหนังสือที่จะกลายเป็นตำนานในอนาคตแน่นอน เป็นการรวมมุมมอง ความคิด ปรัชญา
ของ “นาวาล รวีกันต์” นักลงทุนระดับตำนานแห่ง Sillicon Valley
และนี่ข้อ 50 ข้อคิดที่ผมได้จากหนังสือเล่มนี้ ปีนี้เอาไปปรับใช้แน่นอน
1. การศึกษาเปลี่ยนชีวิต Naval บอกว่า การได้เรียน โรงเรียนมัธยม Stuyvesant เหมือนถูกหวย เพราะเปลี่ยนจากจากชีวิต “ผู้อพยพที่พยายามดิ้นรนเอาตัวรอด” ก้าวจากชนชั้นแรงงานสู่พนักงานออฟฟิศ
2. เราไม่สามารถสอนอะไรคนได้จริงๆ หรอก ทำได้แค่สร้างแรงบันดาลใจและชี้ประเด็นบางอย่างที่ช่วยให้จำได้ง่ายขึ้น และให้คนฟังค้นพบและเข้าใจมันด้วยตัวเอง
3. วิธีสร้างความมั่งคั่งโดยไม่ต้องพึ่งโชค
[1] ทำงานหนักให้ถูกที่ถูกทาง
[2] ความมั่งคั่งคือ การมีทรัพย์สินที่สร้างรายได้ให้คุณแม้ตอนนอนหลับ
[3] เงินคือสื่อกลางที่ใช้ถ่ายโอนความมั่งคั่ง เหมือนเครดิตในสังคมที่ใช้ซื้อเวลาและทรัพยากรของคนอื่นได้
4. อยากรวยจริงต้องมอบสิ่งที่คนจำนวนมากต้องการซึ่งพวกเค้าไม่รู้ว่าจะได้มันมายังไง
5. ทำงานกับคนที่มีวิสัยทัศน์และเป้าหมายระยะยาว “แน่นอนว่าอยู่ใกล้คนเก่งเรายิ่งเก่งตาม” แต่ถ้าเลือกหุ้นส่วนต้องเน้น ”ความซื่อสัตย์“ เป็นอันดับ 1 ฉลาดและมีพลัง
6. ทำตัวเองให้เป็น Product สร้างคุณค่าในสังคม ทำให้มีคนต้องการ มีส่วนประกอบสองอย่าง
[1] ตัวเรา ความเป็นตัวของตัวเองและความรับผิดชอบ
[2] การทำให้เป็น Product ด้วยความรู้เฉพาะทาง
7. ทางลัดรวยเร็วไม่มีอยู่จริง คนที่บอกว่ามีเค้าแค่อยากได้เงินจากเรา เราอาจทำให้เค้ารวยเร็วแทน 555+
8. คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะหาเงินจาก internet ยังไง ทั้งที่มันทำให้เราเจอคนที่มีความสนใจและชอบเหมือนกับเราได้ทั่วโลก ถ้าเราเก่งที่สุดในเรื่องใดเรื่องนึงและสามารถทำให้คนเข้าถึงง่าย Scale up ได้ ความมั่งคั่งจะหนีไปไหนได้
9. ข่าวดีคือทุกคนเก่งที่สุดในการเป็นตัวของตัวเองเสมอ ความรู้ + ประสบการณ์ + แนวคิด + มุมมอง ทำให้เรา Unique กว่าคนอื่นได้ง่ายๆ Naval บอกว่า “จงหนีจากการแข่งขันด้วยการเป็นตัวของตัวเอง” โหดจัด
10. การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดชีวิต คือ ทักษะสำคัญที่สุดในการสร้างความมั่งคั่ง วิธีการแบบเดิมคือเรียนจบมหาลัย แล้วทำงานอีก 30 ปี แต่ยุคนี้เราต้องเรียนรู้อาชีพใหม่ให้ได้ภายใน 9 เดือน และแน่นอนว่าสุเท้ายมันก็จะเก่าไปใน 3-4 ปี เหมือน Data Analyst ตอนนี้ 555+
11. ถ้าเราสร้าง Product ที่เป็นตัวเองจริงๆ จะไม่มีใครเลียนแบบเราได้ 100% สุดท้ายเราจะสร้าง Brand Positioning ในตลาดอย่างมั่นคง
12. รู้กว้างแต่รู้แค่ผิวเผินทุกเรื่อง น่าจะรอดยากต้องรู้ลึกและเชี่ยวชาญอย่างน้อย 2 เรื่อง ถึงเอาไปใช้ประโยชน์ต่อได้จริง
13. การทบต้นของ Relationship โคตรสำคัญไม่แพ้เรื่องการทบต้นของเงิน CEO บ.ใหญ่ๆ ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งได้เกิดจากการสะสม Relationship กับผู้คนและผลงานที่น่าเชื่อถือแบบทบต้นผ่านการทำงานอย่างยาวนาน (สะสม Trust)
14. การรักษาชื่อเสียงพาให้เราไปได้ไกลกว่าคนเก่งที่ไม่รักษาชื่อเสียง Naval บอกว่าอาจมากกว่าเป็น 1,000 หรือ 10,000 เท่าเลยทีเดียว
15. ความพยายาม 99% มักประสบความล้มเหลว แต่ความล้มเหลวนั้นคือประสบการณ์ เช่น การจีบสาวที่ล้มเหลวหลายๆ ครั้ง ทำให้เราโตขึ้นและเรียนรู้การจีบสาวที่ถูกต้อง บางครั้งการตื้อเท่านั้นที่ครองโลกก็ไม่เป็นจริง 5555+
16. คนเราต้องรู้ว่าควรพอและล้มเลิกตรงไหน ข้อนี้หนังสือ Quit ที่สำนักพิมพ์ Live Rich ของพี่หนุ่มรับมาแปลก็พูดเหมือนกัน เช่น ถ้าคบใครสักคนแล้วรู้สึกว่าไม่ลงเอยด้วยการสร้างครอบครัวด้วยกันก็ควรรีบเลิกซะ
17. การทำให้คนอื่นเชื่อใจ บางครั้งก็อาจต้องเอาชื่อตัวเองเป็นประกัน เอาจริงข้อนี้ตัวเองทำบ่อย แต่เป็นการ Refer คนเข้าไปทำงานในที่ต่างๆ Recruiter สุดๆ บางครั้งก็ล้มเหลวและทำเราเข็ดอยู่เหมือนกัน 555+
18. แต่ Naval บอกว่าคนที่กล้าเผชิญความล้มเหลวต่อหน้าคนอื่นได้ มักได้รับโอกาสดีๆ มากขึ้น
19. ถ้าเราไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ รายได้ของเราจะถูกจำกัดด้วยเวลาและความสามารถ ขนาดหมอกับทนายก็ยังต้องแลกเวลากับเงิน พูดง่ายๆ คือ มัน Scale ไม่ได้
20. เราต้องมีหุ้นในบริษัทเราถึงจะรวยได้ เพราะมีโอกาสเติบโตไปพร้อมบริษัท และจะไปถึงจุดนั้นได้ต้องทำงานและพัฒนาตัวเองจนบริษัทมองเห็น หรืออีกทางนึงคือการลงทุนในตลาดหุ้น Key คือ การเป็นเจ้าของกิจการสักวิธีนึง
21. เราควรพัฒนาทักษะที่คนส่วนใหญ่ยังไม่มี เพราะถูกแทนที่ได้ยาก Key คือ ต้องรู้วิธีทำในสิ่งที่คนอื่นยังไม่รู้และเป็นที่ต้องการในสังคม
22. Timing สำคัญมาก หลายครั้งเทคโนโลยีที่มาก่อนกาลก็ล้มตายไป ต้องรอจังหวะที่โลกต้องการทักษะนั้นพอดีก่อน ระหว่างนั้นเราควรรีบสร้างชื่อเสียงผ่านช่องทางต่างๆ และลองทำงานฟรีดูบ้างเพื่อสะสมประสบการณ์ เมื่อโอกาสมาถึงเราสามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ทันที
23. Naval บอกว่า แต้มต่อในการสร้างความสำเร็จมี 3 อย่าง
[1] แรงงาน
[2] เงินทุน
[3] Product ที่ทำซ้ำได้โดยไม่มีต้นทุนเพิ่ม เช่น การเขียนหนังสือเล่มนี้ แทนที่การพูดสดๆ ให้คนหลักร้อยฟัง ตอนนี้สามารถพูดกับคนนับล้านได้ผ่านหนังสือ
”การเอาเวลาของตัวเองไปทำงานให้กับคนอื่น ไม่ทำให้เรารวยขึ้นมาได้หรอกนะ“ ฟังแล้วเจ็บปวด 5555+
24. สิ่งที่เราต้องการในชีวิตคือการได้ควบคุมเวลาของตัวเอง อันนี้ Ali Abdaal ก็บอกไว้เหมือนกัน เพราะถ้าเรามีเวลาโฟกัสแค่งาน เราก็จะทำได้ดีและมากขึ้น ไม่ต้องฝืนทำงานตอนที่เหนื่อยล้าตามตารางเวลาที่บริษัท Block ไว้
25. 2 ทักษะที่สำคัญสุดๆ ในยุคนี้คือ
[1] การขาย = การตลาด การสื่อสาร โน้มน้าว เป็นต้น
[2] การสร้าง Product
26. ทักษะการตัดสินใจที่ดีก็โคตรสำคัญ โดยเฉพาะการตัดสินใจที่พาไปถึง Next Action และตรวจสอบผลลัพธ์ได้จริง ยกตัวอย่างชัดๆ คือ ปู่ Warren Buffet ทุกคนไม่สนว่าเค้าทำอะไรบ้างในแต่ละวัน แค่เฝ้าติดตามการตัดสินใจของเค้า
27. คิดถึงค่าเวลาของตัวเองเสมอ ว่ามีราคาเท่าไหร่ต่อชั่วโมง อะไรที่้เราต้องทำแล้วจ้างคนอื่นให้ทำแทนได้ในราคาที่ถูกกว่า ก็ให้จ้างเลยหรือไม่ก็ไม่ต้องทำมัน แล้วเราเอาเวลาไปหาเงินดีกว่า ประหยัดอย่างเดียวไม่ทำให้เรารวย (อันนี้ชอบมาก)
28. สำหรับคนรุ่นใหม่ ช่วงต้นของชีวิตควรตัดสินใจ 3 เรื่องสำคัญ
[1] เราจะอยู่ที่ไหน
[2] เราจะอยู่กับใคร
[3] เราจะทำงานอะไร
พยายามหาเวลาว่างให้ตัวเองให้คิด 3 เรื่องนี้ให้ได้
29. หาว่าตัวเองเก่งอะไรและใช้สิ่งนั้นช่วยเหลือคนอื่น แบ่งปันความรู้ให้คนอื่น เมื่อเวลาผ่านไป “กฎแห่งการให้และการได้รับ” จะทำงานเอง เราจะดึงดูดสิ่งดีๆ ที่เราเคยทำให้คนอื่นกลับมาหาตัวเองได้ในที่สุด แต่ไม่ต้องตั้งตารอขนาดนั้นนะ ทำไปชิลๆ มีเพื่อนคนนึงชื่อ “ทอย” เคยบอกไว้ 5555+
30. Naval บอกว่ามี 4 วิธีในการเกษียณ
[1] มีเงินเก็บมากพอ แล้วให้เงินทำงานแทน
[2] ลดค่าใช้จ่ายให้เหลือ 0 แล้วไปบวชเป็นพระ
[3] ทำสิ่งที่รัก สนุกกับมันโดยไม่สนเรื่องเงิน
[4] เป็นตัวของตัวเอง + หาสิ่งที่ทำได้ดีกว่าคนอื่น ถ้าเรารักในการทำมันจริงๆ จะไม่มีใครแข่งกับเราได้
31. วิธีสร้างโชคให้ตัวเอง
[1] หวังให้โชคตามหาเราเจอ
[2] พยายามจากว่าจะเจอโชค
[3] เตรียมพร้อมและหูตาไวต่อโอกาสที่คนอื่นไม่เห็น
[4] พัฒนาตัวเองให้เก่งที่สุดในสิ่งที่ทำ
32. การสร้าง Connection ไม่จำเป็นขนาดนั้น เพราะการทำสิ่งนี้ก่อนเริ่มทำธุรกิจจริงเป็นการเสียเวลา “จงเป็นคนสร้างสิ่งที่น่าสนใจและเป็นที่ต้องการ” แล้วคนที่ใช่จะตามหาคุณเอง
33. จงทำความดีต่อผู้อื่นไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องสนว่าทำไปเท่าไหร่แล้ว เอาจริงๆ แค่ช่วยซื้อกาแฟให้เพื่อนก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว
34. คนฉลาดที่สุดคือคนที่อธิบายเรื่องยากๆ ให้เด็กเข้าใจได้ ถ้ายังทำไม่ได้ แปลว่ายังไม่เข้าใจมันจริงๆ คนที่คิดได้อย่างเฉียบคมจะไม่เอาคำพูดคนดังมาอ้าง เพราะว่าตัวเองเข้าใจมันจริงๆ
35. สิ่งที่ขัดขวางเราจากความเป็นจริงมากที่สุดคือความคิดที่ว่าทุกอย่างควรจะเป็นแบบที่เราคิด พูดง่ายๆ คือ ตัวเราเองนี่แหละที่ไม่ยอมรับความจริง จะก้าวหน้าได้ก็ต่อเมื่อเริ่มต้นจากความจริง (Reality) เท่านั้น
36. เราต้องลด Ego ของตัวเองลง ลดความสำคัญของตัวเองในสมการต่างๆ ยิ่งเราไม่ยึดติดกับผลลัพธ์ เรายิ่งยอมรับและเห็นความเป็นจริงได้ง่ายขึ้น
37. ให้เวลาว่างตัวเองได้คิดอย่างจริงจัง อย่าปล่อยให้ตัวเองยุ่งตลอดเวลา เพราะไอเดียดีๆ มักเกิดหลังจากที่เรารู้สึกเบื่อ ไม่ใช่ตอนที่เรากำลังยุ่ง ต้องแบ่งเวลาให้ตัวเองได้คิดด้วย (ปีนี้ต้องเอาบ้างแล้ว)
38. ตัวตนของ Ego ในตัวเราถูกสร้างขึ้นในช่วง 20 ปี แรกของชีวิต จากพ่อแม่ สังคม สิ่งแวดล้อมรอบตัว หลังจากนั้นอยู่ที่เราว่าจะเปลี่ยนโลกให้เป็นอย่างที่เราอยากให้เป็นได้ยังไง อย่าเชื่อคนอื่นมากเกินจนลืมตั้งคำถามพื้นฐานว่ามันจริงใช่มั้ย
39. ความทุกข์ทำให้เรายอมรับความจริงของโลกนี้มากขึ้นและเปลี่ยนแปลงตัวตนของเรา ทำให้บางครั้งเราค้นพบความสามารถใหม่ๆ โดยที่ไม่รู้ว่าเรามีมันมาก่อน
40. The obsacle is a way. เมื่อต้องเลือกระหว่าง 2 ตัวเลือกที่ดูดีพอๆ กัน จงเลือกทางที่ยากกว่าในตอนแรก เพราะผลตอบแทนที่ดีในชีวิต มักมาจากการอดทนกับความเหนื่อยยากในช่วงต้น เช่น การออกกำลังกาย
41. อ่านสิ่งที่เรารัก จนกว่าเราจะรักในการอ่าน แค่อ่านสิ่งที่ชอบก็พอ Naval บอกว่า “ไม่อยากอ่านทุกอย่าง แต่อยากอ่านหนังสือดีๆ สัก 100 เล่ม วนไปวนมาก็พอ” Key คือ เราต้องหาหนังสือที่เจ๋งๆ สำหรับตัวเราให้เจอ (เล่มนี้เป็น 1 ในนั้นของผมละ 555)
42. จำนวนหนังสือที่อ่านจบเป็นแค่ตัวเลขที่ใช้อวดกัน เพราะยิ่งรู้มากอาจทำให้เราอ่านหนังสือไม่จบ หาหนังสือแนวคิดใหม่ๆ อ่านเพื่อเข้าใจและเดาอนาคตได้ดีขึ้น
43. หนังสือเล่มไหนที่อยู่รอดมาได้ 2,000 ปี แสดงว่าถูก Proved แล้วจากนักอ่านมากมาย หลักการและแนวคิดในหนังสือเหล่านี้มีแนวโน้มว่าจะถูกต้องมากกว่า เราควรอ่าน First Principle มากกว่าแนวคิดที่ถูกแปลงสารมาแล้ว
44. คัมภีร์ “เต้าเต๋อจิง” บอกว่าทุกสิ่งในโลกมีคู่ตรงข้าม หรือพูดง่ายๆ คือ “ความสมดุล” ในทุกการคิดบวกจะมีเมล็ดพันธุ์แห่งการคิดลบแอบแฝงอยู่เสมอ เช่น ถ้าบอกว่าวันนี้มีความสุข แสดงว่าเมื่อวานหรือที่ผ่านมาอาจไม่มีความสุขเลย
45. Naval บอกว่าสำหรับตัวเค้า ความสุขคือการไม่ทุกข์ ไม่ปรารถนาสิ่งใด ไม่คิดถึงอดีตและอนาคตมากเกินไป แต่ยอมรับปัจจุบันและความจริงที่เกิดขึ้น (คมมาก 555+)
”ความสุขเกิดขึ้นเมื่อชีวิตไม่รู้สึกว่าขาดอะไร“
46. และยังเชื่อว่าตัวเราไม่ได้สำคัญอะไรมากมาย ถ้าเรามองว่าตัวเองสำคัญที่สุดในจักรวาล ก็จะคิดว่าทุกสิ่งรอบตัวควรเป็นไปอย่างที่เราอยากให้เป็น แต่ถ้ามันไม่เป็นแบบนั้นเราจะมองว่ามันผิดปกติ
47. ช่วงวัยรุ่น เรามีเวลา สุขภาพดี แต่ไม่มีเงิน ช่วงวัยกลางคน เรามีเงิน สุขภาพดี แต่ไม่มีเวลา วัยสูงอายุ เรามีเงิน มีเวลา แต่สุขภาพไม่ดีซะแล้ว ทุกจึงอยากหา 3 อย่างให้ได้พร้อมกัน
48. ขงจื๊อกล่าวไว้ว่า “คนเรามีสองชีวิต ชีวิตที่สองเริ่มต้นเมื่อเรารู้ตัวว่าเรามีชีวิตอยู่เพียงชีวิตเดียว”
49. เรามักคิดว่าถ้าแก้ปัญหาภายนอกได้หมดก็จะเกิดความสงบในใจ แต่มันมีเยอะจนแก้ไม่หมด วิธีเดียวที่ทำให้เกิดความสงบได้ คือ เลิกมองว่าทุกอย่างเป็นปัญหา
50. สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตมากกว่าความสุข ครอบครัว การงาน คือ “สุขภาพของตัวเอง” เริ่มจากสุขภาพกาย สุขภาพจิต สุขภาพทางจิตวิญญาณ จากนั้นค่อยเป็นสุขภาพคนในครอบครัวและความเป็นอยู่ที่ดี
.
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ ใครชอบข้อไหน Comment บอกกันหน่อยน้า อยากคุยด้วย 5555+
.
ถ้าชอบอะไรแบบนี้กด Follow ได้เลย
โฆษณา