จิตวิทยาในเรื่องของการใช้ กฎของแรงดึงดูด 😎💰
เมื่อเราเข้าใจหลักจิตวิทยามากขึ้นในการใช้ หรือทำตามกฎของแรงดึงดูด เราก็จะมีโอกาสมองเห็นภาพรวมได้ง่ายขึ้นค่ะ และมีโอกาสสำเร็จง่ายมากขึ้นด้วยค่ะ เพราะฝ้ายว่าเชื่อว่ายังคงมีบางคนที่พยายามจะใช้กฎนี้แต่ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่า ทำไมบางคนถึงได้ผล และบางคนถึงไม่ได้ผลค่ะ เราลองมาทำความเข้าใจกันนะคะ ☺️
1. ระบบความเชื่อและพลังของจิตใจ ❤️
• ทฤษฎีการบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (CBT): ทฤษฎีนี้กล่าวว่าความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมของเรานั้นเชื่อมโยงกัน เทคนิคการดึงดูดสิ่งที่ต้องการใช้แนวคิดนี้ในการเปลี่ยนแปลงความคิดเพื่อเปลี่ยนแปลงความรู้สึกและพฤติกรรม ซึ่งท้ายที่สุดจะเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงของเราค่ะ
• คำทำนายที่ทำให้เป็นจริงด้วยตัวเอง (Self-Fulfilling Prophecy): เมื่อเราเชื่อว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น พฤติกรรมของเราก็จะสอดคล้องกับความเชื่อนั้น ทำให้สิ่งนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นและเป็นความจริงมากขึ้น
2. การมองเห็นภาพและการฝึกซ้อมทางจิต 🫶🏻
• การมองเห็นภาพ (Visualization): เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยาที่ให้เราจินตนาการถึงเป้าหมายที่ต้องการ เทคนิคนี้ช่วยเพิ่มแรงจูงใจและประสิทธิภาพการทำงาน โดยในเทคนิคการดึงดูดสิ่งที่ต้องการ การมองเห็นภาพใช้เพื่อสร้างภาพที่ชัดเจนของสิ่งที่เราต้องการค่ะ
• การฝึกซ้อมทางจิต (Mental Rehearsal): การฝึกซ้อมทางจิตช่วยเตรียมความพร้อมของจิตใจและร่างกายสำหรับการแสดงในชีวิตจริง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการดึงดูดในสิ่งที่ต้องการ
3. การคิดเชิงบวกและผลของยาหลอก (Placebo Effect) 😬
• จิตวิทยาเชิงบวก (Positive Psychology): เน้นการส่งเสริมอารมณ์ พฤติกรรม และความคิดเชิงบวก การดึงดูดสิ่งที่ต้องการมักเน้นการรักษาทัศนคติเชิงบวกเพื่อดึงดูดผลลัพธ์ในเชิงบวกนั่นเองค่ะ
• ผลของยาหลอก (Placebo Effect) หรือการหลอกล่อระบบประสาทของเราค่ะ : เป็นการหลอกล่อระบบประสาทของเราให้เชื่อในประสิทธิภาพของการใช้กฎนี้ สามารถทำให้เกิดผลที่วัดได้จริง ในการดึงดูดสิ่งที่ต้องการ การเชื่อในพลังของความคิดและความตั้งใจนี้สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในชีวิตจริงได้
4. การเปลี่ยนแปลงของสมอง (Neuroplasticity)
• ความสามารถของสมองในการเปลี่ยนแปลง: การเปลี่ยนแปลงของสมองหมายถึงความสามารถของสมองในการจัดระเบียบตัวเองใหม่โดยการสร้างการเชื่อมต่อทางประสาทใหม่ตลอดชีวิต การดึงดูดสิ่งที่ต้องการสามารถมีอิทธิพลต่อกระบวนการนี้โดยการเสริมสร้างรูปแบบความคิดบางอย่าง ทำให้การนำพฤติกรรมเชิงบวกใหม่มาใช้ง่ายขึ้น
( 📚 เรื่องนี้ฝ้ายเคยศึกษามานิสนึงค่ะว่าไม่ว่าความคิดทางลบหรือบวก สมองเราจะสร้างเส้นเชื่อมขึ้นมา ซึ่งหากเราโฟกัสไปในเรื่องของพลังงานดีดี เส้นเชื่อมในทางแง่บวกจะทำงานได้ดีกว่า เอาไว้มาอธิบายลึกๆ เพิ่มเติมนะคะ )
5. กฎแห่งการดึงดูด (Law of Attraction) และระบบกรองการรับรู้ (RAS)
• กฎแห่งการดึงดูด: แนวคิดยอดนิยมในเทคนิคการดึงดูดสิ่งที่ต้องการที่กล่าวว่า สิ่งที่คล้ายกันดึงดูดสิ่งที่คล้ายกัน หมายความว่าความคิดเชิงบวกหรือเชิงลบจะนำมาซึ่งประสบการณ์ที่เป็นบวกหรือลบในชีวิตของบุคคลนั้น
• RAS: เป็นส่วนหนึ่งของสมองที่กรองข้อมูลตามสิ่งที่เรามุ่งเน้น เมื่อเราฝึกเทคนิคการดึงดูดสิ่งที่ต้องการ RAS จะช่วยให้เราโฟกัสเป้าหมายชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้เรามีโอกาสสังเกตเห็นโอกาสที่สอดคล้องกับความปรารถนาของเรามากขึ้น ง่ายขึ้น ชัดเจนยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
และนี่คือหลักการทางจิตวิทยาทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลังเทคนิคของกฎแรงดึงดสิ่นั่นเองค่ะหากคอนเท้นท์นี้เป็นประดยชน์ ฝากแชร์และกดติดตามด้วยนะคะ
ขอบพระคุณค่ะ 😬❤️🫶🏻
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
