5 ม.ค. เวลา 16:40 • การศึกษา
คริสตจักรบ้านแม่กานาไร่เดียว

ความรู้สึกและสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเป็นสื่อพลเมือง

สวัสดีครับ ผมนายชาคริต อริวสะโร ชื่อเล่นว่าเจ รหัสนิสิต 65077024 ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยพะเยา สาขาวิชาการสื่อสารสื่อใหม่ ในวิชานี้ผมได้รับบทบาทหน้าที่ให้ได้เป็นสื่อพลเมืองให้กับคนในชุมชนบ้านแม่กานาไร่เดียว หมู่ 14 ต.แม่กา อ.เมือง จาก.พะเยา
และนี่คือเรื่องราวจากประสบการณ์ของผมในฐานะผู้สื่อข่าวรูปแบบของ Citizen Journalist หรือ นักข่าวพลเมือง บทบาทที่เปิดโอกาสให้ผมมีพื้นที่ในการเล่าเรื่องราวที่สำคัญในชุมชน ซึ่งผมได้ลงพื้นที่ชุมชนบ้านแม่กานาไร่เดียว และได้อยู่อย่างใกล้ชิด
ในความรู้สึกตอนแรกที่ได้เป็นสื่อพลเมืองนั้นผมรู้สึกว่าแปลกใจกับบทบาทนี่มาก เพราะว่าเราคิดเองเออเองมาตลอดว่านักข่าวจะต้องสังกัดตามช่องต่างๆ และทำหน้าที่บอกเล่าเหตุการณ์บ้านเมืองตามที่เป็นกระแสอยู่ โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีนักข่าวพลเมืองที่ไม่ขึ้นตรงกับใครเป็นหลัก อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้แก่ชาวบ้านที่เรื่องราวของพวกเขาไม่ได้เป็นที่พูดถึงเท่าที่ควร
การเป็นนักข่าวพลเมืองในครั้งนี้ทำให้ผมได้เปิดโลกมากกว่าเดิมตรงที่เราได้รู้จักหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลจากเจริญ ห่างไกลจากเทคโนโลยี และห่างไกลจากโลกในยุคสมัยมาก เพราะว่าชาวบ้านในชุมชนน้อยคนมากที่จะรู้จักสื่อหรือโซเชียลมีเดีย ซึ่งถ้าหากพูดกันตามตรงในยุคนี้เราทุกคนควรไวต่อเหตุการณ์บ้านเมืองมาก เราต้องมีช่องทางการติดตามที่เป็นรูปธรรม แม้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ
ทั้ง วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ ความเชื่อ การใช้ชีวิต เป็นต้น แต่มันเป็นเรื่องที่ยากและท้าทายมากที่จะให้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ได้รู้จักเครื่องมือสื่อสาร การให้คนรุ่นใหม่สืบสานวัฒนธรรมหรือการให้ความรู้เรื่องการคัดแยกขยะก่อนเผา
หลังจากที่ได้ลงชุมชนผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน การลงพื้นที่ในครั้งนี้ทำให้ผมรู้ว่าชุมชนและคนในชุมชนต้องพบเจอปัญหามากมายที่พวกเขาอาจจะมองข้ามและไม่ได้สังเกตเห็น ต่อจากลงพื้นที่เสร็จพวกผมได้นำข้อมูลส่วนนี้ ไปคิดและแก้ไขปัญหาไปตามทีละขั้นตอน และประสบการณ์จากการแก้ไขปัญหาขยะตามรายวิชาสื่อพลเมือง
การเป็นสื่อพลเมืองคือการเป็นคนกลางหรือเป็นสื่อให้แก่ชุมชน เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นภายในชุมชนให้แก่หมู่บ้านไปสู่โลกภายนอก ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ผมได้ลงมือทำจึงได้ทำให้เข้าใจว่า สื่อที่เราทำนั้นไม่ใช่เพียงให้คนภายนอกดูเท่านั้นแต่เราจำเป็นต้องทำให้คนภายในชุมชนเป็นผู้รับสารเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคนในชุมชนทีละเล็กทีน้อยเพื่อให้เกิดประโยชน์
สิ่งที่ยากสำหรับการทำงานในครั้งนี้ คือการทำอย่างไรให้ชุมชนมีพฤติกรรมที่ดี มีจิตสำนึกต่อสังคม การเป็นสื่อพลเมืองให้กับคนในชุมชน เนื่องจากในหมู่บ้านแม่กานาไร่เดียวนั้นไม่มีเฟซบุ๊กหรือสื่อออนไลน์ต่างๆของหมู่บ้าน ทำให้ยากแก่การรัข่ส่งและรับข้อมูลข่าวสารจากโลก คนภายนอกยังไม่สามารถเข้าถึงหมู่บ้านได้ง่าย ทั้งเป็นอยู่และวัฒนธรรมของหมู่บ้าน
แม้ว่าจะยากแก่การเป็นสื่อกลางไปยังโลกภายนอก แต่การมีความรู้ ความเข้าใจก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ทำให้มีความน่าเชื่อถือและข้อมูลที่ถูกต้องมากกว่าบุคคลภายนอกเข้ามาพูดแทนคนในชุมชน นี่เป็นสาเหตุที่จำเป็นต้องให้ชาวบ้านสามารถสร้างสื่อ
และเผยแพร่ได้ด้วยตนเองให้ถึงที่สุดและผมขอขอบคุณวิชานี้ที่ทำให้ผมมีประสบการณ์ใหม่ในการทำงานเผื่อนำไปต่อยอดได้ อีกทั้งยังพัฒนาให้กับชุมชนได้อย่างชัดเจน ขอบคุณครับ
โฆษณา