6 ม.ค. เวลา 03:55 • ข่าวรอบโลก

ทำไมสื่อตะวันตกจึงเพิกเฉยต่อการวิจารณ์เรื่อง “สิทธิมนุษยชน” ของอิสราเอล?

ทั้งที่องค์กรระหว่างประเทศก็ออกมาประณามการกระทำของอิสราเอลใน “ฉนวนกาซา” แต่ก็โนสนโนแคร์
Foreign Policy ได้ลงบทความน่าสนใจเมื่อ 3 มกราคม 2025 บทคัดย่อ - ช่วงสิ้นปี 2024 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ที่สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติต้องออกรายงานวิจารณ์เกี่ยวกับการโจมตีถล่มโรงพยาบาลในฉนวนกาซาของอิสราเอล เราก็คาดหวังว่าพาดหัวข่าวในวันถัดไปบนหน้าสื่อดังทั่วโลกจะนำเสนอผลของการโจมตีที่น่าตกใจนี้อย่างโดดเด่น แต่มันก็เงียบเหมือนเป่าสาก ไม่อยู่ในกระแสร้อนอีกต่อไป [1]
1
รายงานของหน่วยงาน UN ดังกล่าวระบุว่า “การทำลายระบบการดูแลสุขภาพและสาธารณสุขในฉนวนกาซา และการเสียชีวิตของผู้ป่วย เจ้าหน้าที่การแพทย์ และพลเรือนอื่นๆ ในเหตุโจมตีครั้งนี้ เป็นผลโดยตรงจากการละเลยกฎหมายด้านมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ”
เมื่อเราหันไปดูสื่อดังของอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น NYT, WaPo หรือ WSJ จะไม่เจอข่าวเกี่ยวกับรายงานของสหประชาชาติเลย รวมถึงรายการตามสื่อถ่ายทอดดั้งเดิมอย่างวิทยุหรือโทรทัศน์ก็ไม่มีการรายงานข่าวนี้อย่างแพร่หลาย เกิดอะไรขึ้นกับข่าวสงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซาบนหน้าสื่อสหรัฐฯ
เครดิตภาพ: The Rights Forum
ตลอด 15 เดือนของสงครามของเนทันยาฮู นักวิเคราะห์หลายคนประณามรัฐบาลของไบเดนที่ล้มเหลวในการวิพากษ์วิจารณ์ยุทธวิธีของอิสราเอลที่ก่อให้เกิดความหายนะอย่างร้ายแรงต่อฉนวนกาซา ไร้การพูดถึงโศกนาฏกรรมด้านศีลธรรมจากการสังหารชาวปาเลสไตน์มากกว่า 45,000 คนโดยกองกำลังทหาร และถึงกับใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการกลบเสียงวิพากษ์วิจารณ์อิสราเอล
ตัวอย่างเช่น เมื่อมีการที่รัฐบาลได้กดดันองค์กรที่ได้รับเงินทุนจากสหรัฐฯ ให้ถอนรายงานเกี่ยวกับความอดอยากที่กำลังจะเกิดขึ้นในฉนวนกาซาตอนเหนือ แต่ไม่ใช่เพียงรัฐบาลสหรัฐอย่างเดียว สื่ออเมริกันยังลดความสำคัญของการรายงานข่าวเหตุการณ์อันน่าสลดในกาซาลงอย่างมาก เหมือนมีนัยยะแอบแฝง
1
สิ่งนี้เห็นได้ชัดจากการรายงานข่าวที่ถูกปิดเงียบหรือหายไปจากหน้าสื่อโดยสิ้นเชิงในช่วงต้นเดือนธันวาคม หลังจากที่ “แอมเนสตี” ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีที่สุดเมื่อรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับประเทศนอกกลุ่มตะวันตก กล่าวหาว่าอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา รายงานนั้นสรุปว่า อิสราเอล “จงใจสร้างเงื่อนไขในการมีชีวิตอยู่ให้กับชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา โดยมีเจตนาที่จะนำไปสู่การทำลายล้างพวกเขาในที่สุด” [2]
มันไม่ได้ปรากฏบนข่าวหน้าหนึ่งแต่อย่างใด โดยหลงลืมถึงสาระสำคัญของการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศที่อิสราเอลถูกกล่าวหา มันอาจจะผิดก็ได้หากจะบอกว่าสื่อของอเมริกันเพิกเฉยต่อสงครามในกาซาหรือไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของอิสราเอลอย่างจริงจัง
ตัวอย่างเช่น 26 ธันวาคม 2024 นิวยอร์กไทม์สได้เผยแพร่รายงานสืบสวนฉบับยาวเหยียดซึ่งแสดงให้เห็นว่าอิสราเอลผ่อนปรนกฎเกณฑ์ของตนเองในการทำสงครามและอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ระดับกลางของอิสราเอลทิ้งระเบิดใส่สมาชิกฮามาสระดับล่างที่ต้องสงสัยได้ แม้ว่าการโจมตีเหล่านั้นอาจเสี่ยงต่อการสังหารสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาหรือพลเรือนในบริเวณใกล้เคียงก็ตาม สิ่งนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก [3]
เครดิตภาพ: AFP
มิถุนายน 2024: Aryeh Neier “นีเออร์” ผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรสิทธิมนุษยชนชั้นนำในสหรัฐฯ Human Rights Watch (HRW) เมื่อปี 1978 ได้เขียนใน New York Review of Books ว่าเขาได้ข้อสรุปว่าอิสราเอลกำลังดำเนินการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์
นีเออร์บอกว่าในช่วง 15 ปีที่เขาทำงานที่ HRW เขาใช้คำว่า “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” กับแคมเปญเพียงครั้งเดียวเท่านั้น นั่นคือการสังหารหมู่ชาวเคิร์ดในอิรักของซัดดัม ฮุสเซนในปี 1988 นี่จึงเป็นครั้งที่สองที่เขาใช้คำนี้สำหรับการสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา นโยบายของอิสราเอลในการขัดขวางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในกาซาได้ทำให้นีเออร์เชื่อเช่นนั้น โดยเขาเขียนว่า
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2023 เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลประกาศว่าพวกเขาตั้งใจที่จะขัดขวางการจัดส่งอาหาร น้ำ และจ่ายไฟฟ้าเข้ามาในกาซา คำพูดของโยอัฟ กัลลันต์ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลได้กลายเป็นที่กล่าวขานกันตามที่เขาเคยพูดว่า “ผมได้สั่งปิดล้อมฉนวนกาซาทั้งหมด จะไม่มีไฟฟ้า ไม่มีอาหาร ไม่มีเชื้อเพลิง ทุกอย่างถูกปิดกั้น เรากำลังต่อสู้กับสัตว์มนุษย์และเราจะดำเนินการตามนั้น”
เครดิตภาพ: 9 News
ตามที่รายงานของสหประชาชาติในสัปดาห์นี้ระบุ อิสราเอลอ้างเหตุผลซ้ำแล้วซ้ำเล่าสำหรับการเสียชีวิตและการทำลายล้างในฉนวนกาซาโดยกล่าวว่ามี “เป้าหมายเฉพาะสมาชิกฮามาสเท่านั้น” อย่างไรก็ตามนีเออร์เขียนว่า “การขัดขวางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อนักรบฮามาสโดยตรง”
เขากล่าวเสริมว่า “การเข้าถึงดินแดน (กาซา) ทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล ซึ่งปฏิเสธไม่ให้องค์กรสิทธิมนุษยชนของอิสราเอลและปาเลสไตน์ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ฮิวแมนไรท์วอทช์ และแอมเนสตี อินเตอร์เนชันแนล เข้าประเทศ” ฮิวแมนไรท์วอทช์ได้ประเมินในเดือนที่แล้วโดยสรุปว่าอิสราเอลกำลังก่อ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”
1
อ้างอิงบทความต้นเรื่องฉบับเต็มได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
เรียบเรียงโดย Right Style
6th Jan 2024
  • เชิงอรรถ:
<เครดิตภาพปก: Erin Clark/The Boston Globe via Getty Images>
โฆษณา