7 ม.ค. เวลา 06:00 • ข่าว

'ภาษี' หนีไม่พ้น! เปิด 7 ช่องทาง 'กรมสรรพากร' ใช้เช็กรายได้เรา

ฤดูกาลยื่นภาษีประจำปีเริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยการยื่นประจำปีภาษี 2567 สามารถยื่นแบบฯออนไลน์ได้ตั้งแต่วันนี้ - 8 เมษายน 68 ส่วนการยื่นแบบกระดาษ ยื่นได้ถึง 31 มีนาคม 68
2
ทั้งนี้ ในทุกครั้งที่ "ยื่นภาษี" เคยสงสัยกันไหม.. กรมสรรพากรรู้ได้อย่างไรว่า คุณมีรายได้เท่าไร หรือจากช่องทางไหนบ้าง?
2
"7 ช่องทาง" ที่กรมสรรพากรสามารถเช็กรายได้ของคุณได้
📌 1. มีเงินโอนเข้าบัญชีหลายครั้ง และจำนวนมาก
หากผู้มีรายได้มีเงินเข้าบัญชี ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากการฝากหรือโอนเงินเข้าบัญชี ผ่านช่องทางสมาร์ทโฟน บัตรเครดิตต่างๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ต้องส่งข้อมูลให้สรรพากร ซึ่งได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารภาครัฐ รวมถึงผู้ให้บริการด้านการเงินอื่นๆ อย่าง Payment Gateway, e-Wallet เช่น ทรูมันนี่ เอ็มเพย์ แรบบิทไลน์ เพย์ มีหน้าที่รายงานธุรกรรมการฝากหรือรับโอนเงินนี้ให้กับกรมสรรพากร โดยมีเงื่อนไขในการส่งข้อมูลให้กับกรมสรรพากร ดังนี้
1
- มีเงินเข้าบัญชี 3,000 ครั้งต่อปี โดยไม่ดูจำนวนเงินว่าแต่ละครั้งจะมีมูลค่าเท่าไร
- มีเงินเข้าบัญชี 400 ครั้งต่อปี และ จำนวนเงิน (นับเฉพาะฝั่งเงินรับฝากเข้า) รวมเกิน 2 ล้านบาท
1
ทั้งนี้ จะนับรวมเป็นรายปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม ของปีนั้นๆ โดยข้อมูลที่ส่งให้กับกรมสรรพากร จะทำให้กรมสรรพากรรู้ข้อมูลรายได้ของผู้มีรายได้ แต่ยังไม่สามารถนำมาเก็บภาษีได้ ต้องนำไปประมวลผลร่วมกับข้อมูลอื่นๆ ด้วย ว่าถึงเกณฑ์ที่ต้องยื่นภาษีและเสียภาษีแล้วหรือไม่
1
📌 2. ข้อมูลการรับเงิน (ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ใบกำกับภาษี)
ในกรณีที่ผู้มีรายได้ได้รับเป็นเงินสดไม่ผ่านธนาคาร แต่ผู้จ้างเป็นนิติบุคคลได้ทำการหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ ผู้ประกอบการจะต้องนำส่งเงินภาษีที่หักให้แก่กรมสรรพากร รวมถึงแจ้งข้อมูลผู้ได้รับเงิน ทั้งชื่อ เลขบัตรประชาชนไปในแบบนำส่งภาษีที่หักไว้ดังกล่าวด้วย
และถ้าหากบริษัทผู้จ่ายเงินถูกสรรพากรตรวจสอบเอกสาร ผู้ประกอบการจะต้องมีการนำส่งรายการบันทึกค่าใช้จ่ายของบริษัทให้กรมสรรพากร ซึ่งในบันทึกนั้นจะต้องมีการระบุค่าใช้จ่ายต่างๆ ไว้โดยละเอียด ส่งพร้อมเอกสารที่ใช้เป็นหลักฐานถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริง เช่น ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน
2
ดังนั้น จึงยังมีโอกาสที่กรมสรรพากรจะเห็นข้อมูลรายได้ของผู้มีรายได้นั่นเอง
📌 3. รับรู้รายได้ผ่านช่องทาง www.rd.go.th
วิธีการนี้ทางกรมสรรพากรจะใช้เว็บไซต์ของตนเอง คือ www.rd.go.th เป็นช่องทางการสืบค้นข้อมูลรายได้ โดยเปิดเมนู “การแจ้งเบาะแส/ข้อมูลแหล่งภาษี” ขึ้น เพื่อให้ประชาชนช่วยกันตรวจสอบกิจการหรือธุรกิจที่เสียภาษีไม่ถูกต้อง
1
📌 4. สุ่มตรวจ
การสุ่มตรวจเป็นวิธีที่กรมสรรพากรสุ่มจากหน้าเว็บต่างๆ เช่น facebook ที่มีการโพสต์โชว์เงินโอนเข้า รายได้จากการขายสินค้าจำนวนมาก หรือไลฟ์สดขายของ สรรพากรจะสุ่มตรวจบุคคลเหล่านี้ว่ามีรายได้แล้วได้มีการยื่นแบบฯ เสียภาษีบ้างหรือไม่ หากพบว่าไม่มีการยื่นแบบฯ หรือไม่เสียภาษีเลย อาจถูกเรียกพบได้
5
📌 5. ดึงข้อมูลจากเว็บไซต์ หรือ Web Scraping
สรรพากรนำเทคโนโลยีดึงข้อมูลจากเว็บเพจต่างๆ หรือ Web Scraping เข้ามาช่วยตรวจสอบกลุ่มผู้ค้าออนไลน์ ทั้งในรูปแบบที่ค้าขายปกติ และรูปแบบไลฟ์สดเพื่อขายสินค้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ตัวอย่างเช่น สรรพากรจะดึงข้อมูล ราคา และจำนวนสินค้าที่ขายได้ตามเว็บ e-commerce ทั้งหลาย เช่น Shopee, Lazada
1
หรือรู้ข้อมูลของผู้จ่ายเงินได้ให้เรา อย่างเช่น เราขายของผ่านเว็บ e-commerce เช่น Shopee, Lazada ทางเว็บ e-commerce จะหักค่าบริการในอัตราที่กำหนดจากยอดขายของเรา เช่น 20% หรือ 30% ของยอดขาย พร้อมกันนั้นทางเว็บ e-commerce ก็จะส่งใบกำกับภาษีให้กับเราและส่งให้สรรพากรด้วย
📌 6. เข้าร่วมโครงการของรัฐ
1
ปัจจุบันรัฐบาลได้ออกมาตรการโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้ที่ประกอบอาชีพค้าขายและบริการ หากเข้าร่วมโครงการของรัฐบาล เช่น โครงการคนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน เราชนะ ชิมช้อปใช้ รายได้เหล่านี้จะถูกส่งให้กับกรมสรรพากร และเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับการตรวจสอบรายได้ของสรรพากร
📌 7. พนักงานประจำ
1
กรณีที่เป็นพนักงานประจำที่ทางบริษัทมีการจ่ายเงินเดือนผ่านธนาคาร นอกจากผู้มีรายได้จะต้องเป็นคนนำข้อมูลจากใบ 50 ทวิ (หนังสือรับรองเงินได้หัก ณ ที่จ่าย) ซึ่งเป็นใบแจ้งรายได้ทั้งปีที่ทางบริษัทออกให้ไปยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้ว ทางบริษัทก็จะมีเอกสารชี้แจงเงินได้ของเราส่งทางกรมสรรพากรด้วยอีกทางหนึ่ง (ภงด.1, ภงด.1ก) จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สรรพากรสามารถตรวจสอบรายได้ของเราได้
กราฟิก: รัตนากร หัวเวียง
โฆษณา