6 ม.ค. เวลา 15:23 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เรื่องราวของร่างกาย เราจะตอบตามพระ ที่ท่านเคยแนะนำว่า ที่ให้เราพิจารณา ในเรื่องราวที่เกิดมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ เรื่องของธาตุพ่อแม่ประสมกัน แล้วก็มีธาตุทั้งสี่ ที่เราเคยสะสมมา ไปประกอบกับธาตุนะโม ธาตุทั้งสี่ที่สะสมบุญกุศลมาดี ก็ทำให้ได้กายครบสามสิบสอง บ้างก็เกิดมาเป็นเด็กหัวโต ก็ได้กายที่ไม่ดี เป็นคนปัญญาอ่อนไป
คราวนี้ มาเรื่องราวของสมอง นั่น ทำงานไปตามอารมณ์ ที่ปกคลุมกาย เราจะเห็นว่า เวลาคนมีอารมณ์โมโหโกรธ กิริยาท่าทาง มันไปทั้งตัว ลมหายใจเข้าออกก็โกรธ ..เค้านี้ ..อารมณ์เหล่านั้น มาจากไหน ก็มาจากเรื่องธาตุทั้งสี่ ที่เราเคยใช้อารมณ์โลภโกรธหลง สะสมมาทุกชาติ อีกทั้งเราก็ไปไปจดจำมา เวลาคนโกรธโมโห ทำอย่างไร พูดอย่างไร เราก็ไปจดจำมา การจดจำก็มาจากเรื่องวิญญาณทั้งหกที่เรา ไปสัมผัส มันมีการเก็บบันทึกลงไปในธาตุทั้งสี่ตลอดไปทั่งชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย
คราวนี้ เรื่องราวของความฝันนั้น มันพัวพันอยู่กับอารมณ์ ยามเรานอนหลับ ก็ยังมีอารมณ์ ..ที่ไหลออกมา ..นำพาจิตไปที่นั้นที่นี่ ที่เค้าเรียกเจตจิต เหมือรออกไปท่องเที่ยว ไปตามอารมณ์ที่พาไป บางคนก็ชอบสร้างอารมณ์ เช่นพวก Lucid dream ฝันว่าไปต่อสู้ผจญภัยอะไรต่างๆ พวกนักสู้ ..ฮีโร่ทำนองนั่น
อีกพวกหนึ่ง มาจากเรื่องที่มองไม่เห็น ..เหมือนไม่มีตัวตน ..ก็มาแกล้ง ทำให้หลับฝันร้ายๆ ทำนองพวกนั้นฝัน ..ชอบยึดเรื่องราวโชคลาภ ก็อยากเห็นเลขนั้นเลขนี้ มันเป็นอารมณ์อยากที่เก็บซ่อนบันทึกอยู่กับธาตุทั้งสี่ ..พอหลับ อารมณ์นั้นก็ไหลขึ้นมาปรุงแต่ง สมองก็รับอารมณ์นึกคิด มาสิ่งที่ไหลออกมาจากธาตุทั้งสี่
คราวนี้คนใกล้ตาย ..สมัยก่อนคนเค้า ..ไม่มีโรงพยาบาล เมื่อป่วยเจ็บหนัก เค้าก็นอนเจ็บที่บ้าน ..พอใกล้ตาย..เค้าก็ปิดตาเปิดหู ..แล้วก็มีการถ่ายทอด สิ่งที่สะสมมาทั้งชีวิต ว่าทำดีชั่วอะไรไว้ แล้วก็จะแสดงให้ดู ว่า กิริยาต่างๆที่ทำมา ..เช่นพวกที่ชอบตีไก่ ชอบฆ่าเป็ดไก่ เค้าก็แสดงออกมา
. .แต่สมัยนี้ เรื่องราวเหล่านี้เค้าไม่ค่อย มีแสดงให้ดูแล้ว คนสมันเค้าเรียกว่า น้ำตาหางช้าง มันไหลออกมา เมื่อเค้าถ่ายทอดกรรมให้ดู ..แล้วก็หมดโอกาส ที่จะแก้ไข ดีชั่วอีกโลก จิตนั้น..ก็รู้ว่า จะต้องไปที่ไหน ..น้ำตาหางข้าง ก็ไหลออกมา ..
ทุกชีวิต นั้นก็มีเรื่องราวของธาตุทั้งสี่ ที่เป็นเหมือนเครื่องบันทึก การใช้กายวาจาใจ ว่าทั้งชีวิตเมื่อได้กายมาแล้ว ..ยิ่งเป็นมนุษย์ ที่เค้าว่า มีกายประเสริฐ กว่าสัตว์โลกทั้งหลาย แล้วใช้กายมนุษย์ ไปไหนลักษณะ อย่างไรในคำว่ารู้จักดีชั่วได้
.แล้วจะเป็นคำถามว่า ..เมื่อจิตออกจากร่างไป .ท่านได้กายมนุษย์ ใช้ให้สมกับการได้กายมนุษย์มั้ย สมมุติว่า ..ดีชั่วอะไรไม่รู้จักเลย พระคุณพ่อแม่ก็ไม่รู้จัก ..สิ่งนั่นที่ตนเองกระทำไว้ ก็จะนำพาจิต ไปสู่สังขารที่เรียกคำว่าพ่อแม่ไม่ได้เลย
..นั่นก็คือ เมื่อได้กายมนุษย์มาทั้งที รู้จักดีชั่วได้ เราก็เลือกใช้กายนี้ทำเรื่องราวดีๆ บันทึกเก็บไว้กับ ธาตุทั้งสี่ ที่จะนำพาจิตเราไปอาศัย ในสถานที่ดี ๆ ..เรื่องราวเหล่านี้ ก็เข้าใจยากหน่อย ..คนที่เค้ารู้จัก เค้าก็หมั่นสร้างบุญกุศล ประพฤติปฏิบัติธรรมขึ้นมา เพื่อบันทึกืเรื่่ิองราวดีๆบันทึกกิริยาดี .กายวาจาใจ เก็บไว้ที่ธาตุทั้งสี่ ที่เค้าว่า สะสมบุญกุศลให้เกิดขึ้น เป็นเนื้อนาบุญให้แก่จิต
1
นี่คำตอบแบบนี้ ไม่ได้อยู่ในหลักเกณฑ์ของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ..แต่มันเป็นเรื่องของคำว่าจิตที่เป็นนามธรรม .มาอาศัยกาย..เครื่องมือวิทยาศาสตร์ ก็ยังตรวจหาคำว่า จิตที่อาศัยกายไม่เจอเสียด้วย..
โฆษณา