13 ม.ค. เวลา 03:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

หลุมดำ คืออะไร?

หลุมดำ เป็นปรากฏการณ์ทางจักรวาลที่น่าทึ่ง มีแรงโน้มถ่วงมหาศาลจนไม่มีสิ่งใด รวมถึงแสง สามารถหลุดรอดออกมาได้ หลุมดำเกิดขึ้นในบริเวณของปริภูมิ-เวลา (spacetime) ที่มวลจำนวนมากถูกบีบอัดในปริมาตรเล็ก ๆ จนเกิดเป็น ขอบฟ้าเหตุการณ์ (Event Horizon) ซึ่งเป็นเขตแดนที่สิ่งใด ๆ ไม่สามารถหลุดออกไปได้
การเกิดหลุมดำ
หลุมดำส่วนใหญ่เกิดจากการยุบตัวของดาวฤกษ์ที่มีมวลมาก หลังจากที่ดาวหมดพลังงานนิวเคลียร์ ดาวเหล่านี้อาจระเบิดเป็นซูเปอร์โนวา (Supernova) ทำให้ชั้นนอกของดาวถูกปล่อยออกไป ในขณะที่แกนกลางยุบตัวลงภายใต้แรงโน้มถ่วงของตัวเอง แกนนี้ถูกบีบอัดจนกลายเป็นจุดที่มีความหนาแน่นสูงสุด เรียกว่า ภาวะเอกฐาน (Singularity) ซึ่งล้อมรอบด้วยขอบฟ้าเหตุการณ์
4 ประเภทของหลุมดำ:
1. หลุมดำจิ๋ว (Mini Black Hole)
หลุมดำที่มีมวลน้อยกว่า 1 เท่าของมวลดวงอาทิตย์ นักดาราศาสตร์สันนิษฐานว่าหลุมดำจิ๋วเกิดขึ้นในยุคแรกเริ่มของเอกภพที่มีความหนาแน่นสูง จึงทำให้มีแรงดันมาก ส่งผลกระทบให้สสารบางส่วนในเอกภพ ณ ขณะนั้น ถูกบีบอัดจนกลายเป็นหลุมดำ
2. หลุมดำดาวฤกษ์ (Stellar-Mass Black Hole)
หลุมดำที่มีมวลตั้งแต่ 5-10 เท่าของมวลดวงอาทิตย์ สันนิษฐานว่าหลุมดำดาวฤกษ์เกิดจากดาวฤกษ์อายุมากที่สูญเสียปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน ซึ่งปกติแล้ว ดาวฤกษ์มีสถานะเป็นพลาสมา มันสามารถคงรูปร่างเกือบกลมไว้ได้ด้วยแรงจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันที่ต้านกับแรงโน้มถ่วงบริเวณใจกลางของดาว เมื่อดาวฤกษ์สูญเสียแรงจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน จึงทำให้แรงโน้มถ่วงบริเวณใจกลางของดาวชนะ มวลของดาวฤกษ์ทั้งหมดจึงถูกบีบอัดด้วยแรงโน้มถ่วงของตัวมันเอง จนกลายเป็นหลุมดำในที่สุด
3. หลุมดำมวลปานกลาง (Intermediate Black Hole)
มีมวลตั้งแต่ 105 - 1010 เท่าของมวลดวงอาทิตย์ นักดาราศาสตร์สันนิษฐานว่าหลุมดำมวลปานกลางเกิดจากการที่หลุมดำดาวฤกษ์มากกว่า 1 โคจรปะทะและหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
4. หลุมดำมวลยิ่งยวด (Supermassive Black Hole)
มีมวลตั้งแต่ 106 เท่าของมวลดวงอาทิตย์เป็นต้นไป นักดาราศาสตร์สันนิษฐานว่า หลุมดำมวลยิ่งยวดเกิดจากการที่หลุมดำมวลปานกลางเคลื่อนที่ไปรวมตัวกันที่ใจกลางของกาแล็กซี เนื่องจากมวลที่มากของมัน คล้ายกับการที่ก้อนหินจมดิ่งไปรวมกันอยู่ที่ก้นแก้ว เมื่อหลุมดำมวลปานกลางโคจรมาชนและรวมตัวกัน จึงเกิดเป็นหลุมดำมวลยิ่งยวด ซึ่งนักดาราศาสตร์เชื่อว่า ณ ใจกลางของกาแล็กซีทุกกาแล็กซีมีหลุมดำมวลยิ่งยวดอยู่
คุณสมบัติและผลกระทบ:
• แรงโน้มถ่วงของหลุมดำมีผลอย่างมหาศาล สิ่งที่เข้าใกล้เกินไปจะถูกดึงเข้าไป เมื่อข้ามขอบฟ้าเหตุการณ์แล้วจะไม่สามารถกลับออกมาได้
• แรงโน้มถ่วงนี้ยังบิดเบือนปริภูมิ-เวลา ส่งผลต่อดาวและเมฆก๊าซใกล้เคียง
• นักวิทยาศาสตร์มักตรวจพบหลุมดำผ่านการสังเกตการเคลื่อนที่ของดาวที่โคจรรอบมวลที่มองไม่เห็น หรือจากรังสีเอ็กซ์ที่เกิดจากวัตถุที่หมุนวนเข้าสู่หลุมดำ
ความสำคัญทางทฤษฎี:
หลุมดำท้าทายความเข้าใจด้านฟิสิกส์ โดยเฉพาะในเรื่องสัมพัทธภาพทั่วไปและกลศาสตร์ควอนตัม นักวิทยาศาสตร์ใช้หลุมดำเป็นห้องทดลองทางธรรมชาติเพื่อทดสอบทฤษฎีเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง และโครงสร้างของปริภูมิ-เวลา
• รังสีฮอว์กิง (Hawking Radiation): ทฤษฎีที่เสนอว่าหลุมดำสามารถปล่อยรังสีออกมาได้เนื่องจากผลควอนตัมใกล้ขอบฟ้าเหตุการณ์
สรุป:
หลุมดำไม่ใช่ "หลุม" แต่เป็นบริเวณที่มีความหนาแน่นสูงและแรงโน้มถ่วงมหาศาล มีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างและพฤติกรรมของจักรวาล แม้ว่าจะมีการศึกษาอย่างกว้างขวาง แต่หลายแง่มุมยังคงเป็นปริศนา
โฆษณา