7 ม.ค. เวลา 04:10 • การตลาด

อธิบายคำศัพท์ Brain Rot ปรากฏการณ์สมองเน่า ในยุคโซเชียล คอนเทนต์ที่นักการตลาด ควรหลีกเลี่ยง

- Brain Rot แปลตรง ๆ ก็คือ สมองเน่าหรือสมองเสื่อม
คือคำศัพท์ที่สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด (Oxford University Press) ประกาศให้เป็น Word of the Year ประจำปี 2024
ซึ่งคำศัพท์คำนี้ เพิ่งเป็นที่พูดถึงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ควบคู่กับเทรนด์การทำวิดีโอสั้นที่มาแรงและเติบโตอย่างรวดเร็ว
1
แล้ว Brain Rot คืออะไร ? ทำไมถึงเป็นคำศัพท์ที่มาคู่กับเทรนด์การทำวิดีโอสั้น ?
Brain Rot เป็นคำที่ถูกนำมาใช้ในการอธิบายถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้คนใช้เวลาเสพคอนเทนต์บนโลกออนไลน์มากจนเกินไป
1
โดยเฉพาะการเสพคอนเทนต์ที่ไม่ท้าทายความคิด คอนเทนต์ที่ไม่มีคุณภาพ บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
เช่น คอนเทนต์วิดีโอสั้น มีมต่าง ๆ ที่ไม่มีประโยชน์ ไม่ได้นำไปสู่การสร้างความรู้ หรือความคิดสร้างสรรค์แต่อย่างใด
รู้หรือไม่ว่า ทุกวันนี้มีคนดูไถดู Instagram Reels เฉลี่ย 150,000 ล้านวิวต่อวัน
ส่วน YouTube Shorts มียอดวิวเฉลี่ย 70,000 ล้านวิวต่อวัน
รวมถึงยังมีอีกสถิติที่บอกว่า ทุกวันนี้คนทั่วโลกถูกสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์ ดึงดูดเวลาในชีวิตประจำวันไป เฉลี่ย 6 ชั่วโมง 35 นาทีต่อวัน
2
เมื่อผู้คนเสพคอนเทนต์ที่ไม่มีประโยชน์ หรือไม่มีคุณค่าบ่อย ๆ และเป็นเวลานาน
จึงทำให้เกิดการเสื่อมถอยของสภาพจิตใจหรือสติปัญญา กลายเป็นที่มาของคำสแลงอย่างคำว่า Brain Rot หรือปรากฏการณ์ “สมองเน่า”
1
ที่น่าสนใจคือ สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดบอกว่า ในช่วงปี 2023 และปี 2024 ที่ผ่านมา คำว่า Brain Rot มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 230%
โดยกลุ่มคนที่ใช้คำนี้บ่อย ๆ คือ กลุ่มวัยรุ่น Gen Z และ Gen Alpha
ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว มักจะใช้ในการแซวตัวเอง อย่างเช่น “เล่นโซเชียลนาน จน Brain Rot ไปหมดแล้ว”
1
ถึงแม้คำว่า Brain Rot จะเป็นคำศัพท์ที่เพิ่งถูกใช้งานเป็นอย่างมาก
1
แต่จริง ๆ แล้ว คำนี้มีขึ้นตั้งแต่ปี 1854 หรือเมื่อ 171 ปีก่อน ในหนังสือที่ชื่อว่า Walden ของคุณ Henry David Thoreau นักเขียนชื่อดังชาวอเมริกัน
ที่ใช้คำคำนี้เป็นครั้งแรก เพื่อวิพากษ์วิจารณ์สภาพสังคมในสมัยนั้น และเพิ่งถูกนำกลับมาใช้งานอีกครั้งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ทีนี้ถ้าถามว่า แล้วคำศัพท์แห่งปี 2024 เกี่ยวข้องกับการตลาดอย่างไร ?
ต้องบอกว่า คำศัพท์ที่ได้รับการยกย่องในแต่ละปี ไม่ได้เป็นแค่คำศัพท์ธรรมดา ๆ
แต่คำศัพท์แห่งปี ยังสะท้อนถึงแนวโน้ม ทิศทาง หรือความกังวลเรื่องต่าง ๆ ในสังคมด้วย
ยกตัวอย่างเช่น
- คำศัพท์แห่งปี 2019 Climate Emergency สะท้อนถึงความกังวลด้านภาวะอากาศอย่างโลกร้อน
- คำศัพท์แห่งปี 2021 Vax หรือวัคซีน สะท้อนถึงความกังวลด้านโรคระบาด
1
ตัดภาพกลับมาที่คำว่า Brain Rot ในปี 2024 นี้
สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลในการอยู่บนหน้าจอสมาร์ตโฟนของกลุ่มเด็กและกลุ่มวัยรุ่นที่มากเกินไป ท่ามกลางคอนเทนต์ที่ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ หรือความคิดสร้างสรรค์ ทำให้เกิดการเสื่อมถอยของสภาพจิตใจและสติปัญญา
เมื่อเห็นแนวโน้มหรือสภาพสังคมแบบนี้แล้ว สิ่งที่นักการตลาดจะทำได้ คือ
- หลีกเลี่ยงการทำคอนเทนต์แนว Brain Rot
โดยหันมาทำแคมเปญการตลาด หรือ Content Marketing ที่เน้นใช้ความคิดสร้างสรรค์ และทำให้สังคมได้ประโยชน์มากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น คอนเทนต์แนว “Edutainment” หรือคอนเทนต์ที่ให้ทั้งความรู้และความบันเทิงควบคู่กัน ไม่ว่าจะเป็น
- การทำคลิปสั้นที่สอนเทคนิค หรือเคล็ดลับต่าง ๆ
- การทำวิดีโอเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์
- การทำวิดีโอให้ความรู้ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการเงิน การพัฒนาทักษะ
ตัวอย่างช่องที่ประสบความสำเร็จในด้านนี้ เช่น Farose ที่เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ หรือบุคคลสำคัญ โดยที่ยังสนุก ดูเพลิน จนมีผู้ติดตามบน YouTube กว่า 830,000 บัญชี
1
ซึ่งการที่แบรนด์ทำคอนเทนต์แนว Edutainment ไม่เพียงแต่หลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบของ Brain Rot
แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ในฐานะ “ผู้ให้” และทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ทั้งหมดนี้คือ เรื่องราวเกี่ยวกับ Brain Rot คำที่ได้รับการยกย่องให้เป็นคำศัพท์แห่งปี 2024 จาก Oxford
1
ซึ่งนอกจากคำว่า Brain Rot แล้ว ในปี 2024 ยังมีคำศัพท์มาแรง ซึ่งเป็นคู่แข่งที่น่าสนใจอีกด้วย เช่น
- Demure หมายถึง การเป็นคนถ่อมตัว สุภาพเรียบร้อย ไม่ส่งเสียงดัง ไม่หวือหวา ดำเนินชีวิตด้วยความมั่นใจ และสุภาพ
- Dynamic Pricing เป็นกลยุทธ์การตั้งราคาแบบยืดหยุ่น ที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาขึ้น ๆ ลง ๆ ตามความต้องการในตลาด เช่น ธุรกิจที่พัก, ธุรกิจเรียกรถ
หรือแม้แต่ปี 2024 ที่ผ่านมาก็ยังมีตั๋วคอนเสิร์ตที่ใช้กลยุทธ์การตั้งราคาแบบขึ้น ๆ ลง ๆ ด้วย
- Slop เป็นคำสแลงที่ในปี 2024 นี้ถูกใช้เพิ่มขึ้น 332% เพื่อพูดถึงคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ ที่สร้างขึ้นด้วย AI แต่เป็นคอนเทนต์ที่ไม่มีคุณภาพ หรือให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
โฆษณา