เมื่อวาน เวลา 11:40 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ราคาน้ำมัน-อาหาร-เครื่องดื่ม สูงขึ้น ดัน เงินเฟ้อ ธ.ค.67 บวก 1.23%

เงินเฟ้อ ธ.ค.67 บวก 1.23% จากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้น
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทยเดือนธันวาคม 2567 เท่ากับ 108.28 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 ซึ่งเท่ากับ 106.96 ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น 1.23% (YoY)
โดยปัจจัยหลักมาจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นผลจากฐานราคาต่ำในปีก่อน รวมถึงราคาสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้นจากราคาผลไม้สด
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)
เครื่องประกอบอาหาร และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ข้อมูลล่าสุดเดือนพฤศจิกายน 2567 พบว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยสูงขึ้น 0.95% (YoY) ซึ่งยังคงอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำ โดยอยู่ระดับต่ำอันดับ 19 จาก 129 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และต่ำเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศอาเซียนจาก 8 ประเทศที่ประกาศตัวเลข (บูรไน อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม สปป.ลาว)
สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่สูงขึ้น 1.23% (YoY) ในเดือนนี้ มีการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้ หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น 1.28% (YoY) จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มผลไม้สด (เงาะ มะม่วง กล้วยน้ำว้า ทุเรียน แตงโม สับปะรด กล้วยหอม) กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำอัดลม กาแฟ (ร้อน/เย็น)) กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร (มะพร้าว (ผลแห้ง/ขูด) ซอสหอยนางรม น้ำพริกแกง) กลุ่มข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง
(ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ขนมอบ) กลุ่มอาหารสำเร็จรูป (ข้าวราดแกง กับข้าวสำเร็จรูป อาหารเช้า) และกลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ (ปลานิล กุ้งขาว ปลาทูนึ่ง ปลาทับทิม) อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าหลายรายการที่ราคาลดลง อาทิ ผักสด (พริกสด มะเขือเทศ มะนาว ผักคะน้า กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ผักชี) ไข่ไก่ เนื้อสุกร ไก่ย่าง นมเปรี้ยว น้ำมันพืช และอาหารโทรสั่ง (Delivery) เป็นต้น
หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 1.21% (YoY) จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง อาทิ น้ำมันดีเซล แก๊สโซฮอล์ น้ำมันเบนซิน นอกจากนี้ ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าเช่าบ้าน ค่าโดยสารเครื่องบิน ค่ารถรับส่งนักเรียน และค่าบริการส่วนบุคคล (ค่าแต่งผมบุรุษและสตรี) ปรับสูงขึ้นเช่นกัน
ขณะที่ ยังมีสินค้าสำคัญหลายรายการที่ราคาลดลง อาทิ ของใช้ส่วนบุคคล (แชมพู สบู่ถูตัว) สิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (ผงซักฟอก น้ำยาซักแห้ง น้ำยาล้างห้องน้ำ) และเสื้อผ้า (เสื้อยืดบุรุษและสตรี เสื้อเชิ้ตบุรุษและสตรี กางเกงขายาวบุรุษและสตรี) เป็นต้น
ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก สูงขึ้น 0.79% (YoY) ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่สูงขึ้น 0.80% (YoY)
เงินเฟ้อ ธ.ค.2567
สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนธันวาคม 2567 เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2567 ลดลง 0.18% (MoM) ตามการลดลงของหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 0.51% (MoM) ปรับลดลงตามราคาสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มผักสด (ต้นหอม พริกสด ผักกาดขาว ผักชี กะหล่ำปลี ผักคะน้า มะเขือเทศ) เนื่องจากปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น
จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย รวมทั้งผลไม้สด (ส้มเขียวหวาน แตงโม องุ่น กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม) และไข่ไก่ อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าอีกหลายรายการที่ราคาปรับสูงขึ้น อาทิ ข้าวสารเจ้า น้ำมันพืช ปลาทู ปลานิล และซอสหอยนางรม ขณะที่หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 0.07% (MoM) ตามการสูงขึ้นของราคาแก๊สโซฮอล์ น้ำมันเบนซิน ค่าเช่าบ้าน
และของใช้ส่วนบุคคล (แชมพู แป้งผัดหน้า ครีมนวดผม) สำหรับสินค้าที่ราคาปรับลดลง อาทิ น้ำมันดีเซล ค่าธรรมเนียมผ่านทางพิเศษ สิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (น้ำยาซักแห้ง น้ำยาล้างจาน) เสื้อเชิ้ตและเสื้อยืดบุรุษ เป็นต้น
เงินเฟ้อ ธ.ค.2567
สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป เฉลี่ยทั้งปี 2567 เทียบกับปี 2566 สูงขึ้น 0.40% (AoA) โดยมีสาเหตุหลักจากการสูงขึ้นของราคาสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป ผลไม้สด และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ตาม มีสินค้าสำคัญที่ราคาลดลงจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ ได้แก่ ค่ากระแสไฟฟ้า และน้ำมันดีเซล สำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2567 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 สูงขึ้น 1.00% (YoY) ขณะที่ ไตรมาสที่ 4 ปี 2567 เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ลดลง 0.26% (QoQ)
เงินเฟ้อ ธ.ค.2567 ของไทยเทียบกับต่างประเทศ
แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2568 กระทรวงพาณิชย์ ยังคงคาดการณ์ว่า จะอยู่ระหว่าง 0.3%– 1.3% ค่ากลาง 0.8% ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/economic/240023
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา