Squid game 2 ทางออก (รอด) ของชีวิต
ภาคต่อเรื่องราวของการเล่นเกมท้าตายของผู้เล่นเกมที่มีปัญหาหนี้สินรุงรังและได้พบกับ หนุ่มหล่อใส่สูท (กงยู) ยื่นการ์ดนามบัตร 🔺⭕️◼️ให้เพื่อไปเล่นเกมกับผู้เล่นทั้งหมด 456 คน โดยมีค่าหัวอยู่ที่ 100 ล้านวอนต่อคน หากชนะจะได้ 45,600 ล้านวอน ซึ่งหมายถึงการแลกกับชีวิตของคน 455 คนต้องจากไป ฉายที่ Netflix มีทั้งหมด 7 ตอน
เสน่ห์ของการลุ้นความเป็นความตายของการเล่นเกมยังอยู่คนบถ้วน แม้จะเป็นเกมเดิมอันแรกคือ น้องชุดส้ม โกโกวา เออีไอโอยู ผสมผสานกับการกลับมาของซองกีฮุน (อีจองแจ) ที่ต้องการหยุดเกมนี้ เขาจะเอาชนะความหิวโหยเงินของผู้เล่น และความโหดที่ไม่เปิดเผยตัวของผู้คุมเกมได้หรือไม่
ความฉลาดของคนเขียนบทคือ การเอาเกมเด็กๆ ที่เล่นสนุกมาใส่เข้ากับฉากที่แสนครีเอทและสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นฉากพื้นสีรุ้งเล่นเกมห้าอย่างจากห้าคน หกขา ตักกี ปาหินให้โดนหิน หมากเก็บ ลูกข่าง และเดาะบอล และฉากเกมที่น่าประทับใจคือ น้องม้าหมุนที่มาพร้อมกับเสียงเพลงให้เล่นเกมรวมทีม 2,3,4,5,6 คน เป็นการรีเลทไปกับควมทรงจำวัยเด็กของคนดูได้ง่ายๆ เพิ่มเติมคือความทรงจำใหม่ที่หวาดเสียวกับเกมเด็กๆ แบบนี้
นอกจากการลุ้นกับความตาย เนื้อหาหนักๆ ที่สอดแทรกมาตลอดคือ ทางเลือก (ทางรอด) ของผู้คนที่สิ้นหวัง และสัญชาตญาณดิบของมนุษย์เมื่ออยู่ในภาวะกดดันและคับขันในเรื่องความเป็นความตาย อะไรคือความหวัง อะไรคือการมีชีวิต และอะไรคือแรงผลักดันให้มีชีวิตอยู่ต่อไปท่ามกลางความสิ้นหวังนี้
1. จุดอ่อนของมนุษย์และถูกใช้ได้ง่ายสุดคือ การสิ้นหวังของคนที่มีหนี้สินและหาเงินไม่ได้ หลายคนอยากไปอยู่จุดสูงสุดคือ มีเงินเยอะๆ แต่กลับพาตัวเองไปอยู่จุดต่ำสุดคือ ไม่มีเงินและเดือดร้อนครอบครัวและคนใกล้ชิด ซองกีฮุนคือหนึ่งตัวแทนของความล้มเหลวนั้น และสูญเสียคนในครอบครัว ภรรยา ลูกและแม่ในที่สุด
2. ความมั่งมี มีเงินมากๆ คือเป้าหมายที่ผู้คนให้ความสำคัญเหนือกว่า ครอบครัวและคนรอบข้าง สังคมใช้เงินเป็นตัวตัดสินความสำเร็จของชีวิต และเป็นจุดอ่อนของการด้อยค่าของคนในขณะเดียวกัน ใครมีเงินมากคือประสบความสำเร็จ แต่ประสบการณ์ กีฮุน บอกสิ่งตรงกันข้าม เขาได้เงินชนะเกมแรก แต่ชีวิตที่แลกมาของคนเล่นเกมทำให้ชีวิตนั้นไร้ค่า แท้จริงแล้ว ความสำเร็จไม่ใช่การมีเงิน หากแต่เป็นการผ่านประสบการณ์อะไรมาที่เราได้ทำและเลือกทำที่ผ่านมา พร้อมกับความสัมพันธ์ที่ไม่ว่างเปล่า
3. เมื่อคนเราผิดพลาดอะไรในชีวิต การโยนความผิดให้คนอื่นทำได้ง่ายและเป็นการสร้างความผิดนั้นให้ดูยิ่งใหญ่ขึ้น เพื่อปัดความรับผิดชอบของตนเอง ราวกับว่ามันเหนือการควบคุม เหมือนบทสนทนา จองแบกับกีฮุนที่พูดถึงอดีต ต่างคนต่างโทษกันที่ทำให้ชีวิตล้มเหลว หรือการเล่นเกมห้าคน หกขา ที่เราเลือกจะกล่าวโทษใครสักคน มากกว่าจะช่วยเหลืออีกฝ่าย การไม่เห็นความผิดของตัว ก็เหมือนกับการตกหลุมเดิมซ้ำๆ การยอมรับข้อผิดพลาดและแก้ไขคือทางเดียวที่จะพาตนเองออกจากหลุมเดิมๆ นั้น
4. ความเจ็บปวดหลายครั้งมาจากการตัดสินของสังคมที่ไม่ยอมรับความแตกต่าง โดยเฉพาะการยอมรับจากคนในครอบครัว คนใกล้ชิดและคนรอบข้าง ออนนี่ 120 คือตัวแทนของการลงโทษของสังคม การที่เลือกเป็นหญิงไม่ใช่ความผิด การไม่ตัดสินทางเลือกในสิ่งที่คนนั้นเลือกเป็นและเลือกทำ คือการปลอบโยนที่ดีที่สุดและมักกจะได้จากคนแปลกหน้าเมื่อเลือกมองอย่างเข้าใจ อย่างการมีเพื่อนฮยอนมีและแม่ยองชิกที่อ้าแขนต้อนรับเขาอย่างที่เขาเป็น
5. จุดอ่อนคนเป็นแม่คือลูก การยอมรับความจริงเรื่องลูกไม่ใช่คนดีคือความเจ็บปวด และเลือกโกหกตัวเองว่าลูกฉันเป็นคนดี แม้จะไม่ประสบความสำเร็จก็ยังดีกว่า เหมือนตอนแม่ยองชิกบอก ยองอิล 001 ว่าลูกไม่ได้เอาตัวรอดแล้วทิ้งแม่ เป็นแม่เองที่พลาดไป
6. โอกาสเป็นได้ทั้งทางเลือกและไม่ใช่ทางเลือก โอกาสที่จะมีชีวิตกับเงินรางวัลคือทางเลือกด้วยเงื่อนไขฉันคือผู้รอดชีวิตเท่านั้น การเห็นคุณค่าของเงินเหนือกว่าเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้า เป็นเรื่องแสนธรรมดา แต่หากเพื่อนมนุษย์นั้นเป็นคนที่เรารัก ผูกพันและห่วงใย จะกลายเป็นเรื่องตรงกันข้าม เพราะโอกาสนั้นจะไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป
7. เพื่อนมนุษย์ที่เหมือนคนแปลกหน้า เขามีสถานะเป็นใครคนหนึ่งสำหรับอีกคนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นฐานะ พ่อ แม่ ลูก พี่ น้อง เพื่อน หากมองในแง่มุมนี้ คนทุกคนเราไม่ได้เดียวดาย แต่การที่เพื่อนมนุษย์จะมีสถานะในใจของใคร รวมถึงคนแปลกหน้า สถานะจะเป็นคนร่วมทาง มิตร หรือ เป็นศัตรู สิ่งที่จะทำให้มีสถานะหรือเปลี่ยนไปจากสถานะเดิม คือการปฏิบัติของเราต่อบุคคลนั้นๆ และบางครั้ง เราก็ “เลือก” ที่จะตัด “ใคร” ออกจากชีวิตและเสียใจกับทางเลือกนั้นโดยที่ย้อนกลับไปไม่ได้
8. การเสียสละไม่ใช่ทางออก (รอด) ของชีวิตเสมอไป กีฮุนยอมสละชีวิตและไม่ช่วยเหลือคนกลุ่มเล็กที่อยู่ข้างเดียวกัน เพื่อจะจัดการคนคุมเกม แต่มันกับแลกมาด้วยการเสียสละชีวิตของเพื่อนร่วมอุดมการณ์ไปด้วยเพิ่มขึ้น ทางเลือกของกีฮุนอาจดูเป็นความผิดพลาด แต่การเลือกอยู่รอความตาย ก็ไม่ใช่ทางออก (รอด) ของชีวิตเช่นกัน
9. แรงผลักดันของชีวิตและความหวังในการใช้ชีวิต เป็นเรื่องปัจเจก ตอนรวมตัวเล่นเกมโดยที่ไม่รู้ว่า ต้องทำอะไรและผลลัพธ์เป็นอย่างไร บางคนเลือกสนใจกับชุดที่ใส่ รองเท้ารุ่นใหม่ที่ถูกแทนที่ด้วยยูนิฟอร์ม มือถือที่อยากดูคริปโต สนใจกับวัตถุมากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เหมือนกับความหมายของชีวิตคือ การ “มี” อะไรสักอย่าง
10. แล้วความหมายของชีวิตและการใช้ชีวิต คืออะไร กีฮุนคือคนหนึ่งที่อยู่ในช่วงต่ำสุด และจุดสูงสุด หากนับการชนะเงินรางวัลมากมายคือ จุดสูงสุด สิ่งที่กีฮุนเห็นและประสบการณ์เกมเลวร้ายที่ผ่านมา รวมถึงภาวะ PTSD จิตใจบอบช้ำจากเหตุการณ์เลวร้าย เขาเลือกให้ผู้คนได้มีชีวิตในแบบที่เค้าได้เลือกและไม่อยากให้ใครต้องมาเจอแบบเค้า เป็นแรงผลักดันสุดท้าย ทางออก ของชีวิตของกีฮุน
ปล ชอบฉากกงยูที่โต้ตอบกับกีฮุนที่สุด เป็นการแสดงที่ขนลุกและประทับใจที่สุดใน SS2 และชอบการแจกขนมปัง หรือใบลอตเตอรี ที่เล่นกับความหวัง และความหิวโหย สุดท้าย คำตอบเป็นเรื่องของแต่ละคน ไม่มีผิด ไม่มีถูก
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
