7 ม.ค. เวลา 06:11 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ในภาษาปะกิตมีคำว่า saving and invesment แยกกันนะคะ และ 2 คำนี้ จะต้องพึ่งพาอาศัยกัน saving เปรียบเสมือนฝนที่หล่นจากฟ้า หากเราไม่กักเก็บน้ำฝนไว้ เราก็จะไม่มีน้ำกินน้ำใช้ในครอบครัว อย่าว่าแต่น้ำที่จะเอาไปขายเลย สรุปก็คือ investment ต้องอาศัย saving เสมอ หรืออีกนัยนึง saving ต้องมาก่อน และต้องตามมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วยค่ะ
1
ในแต่ละทางเลือก ล้วนมีความเสี่ยงในอนาคตรออยู่ จากตัวเลือกที่ให้มา ในกรณีที่มีเงินออมหรือ saving ที่พร้อมจะลงทุนอยู่แล้ว คงเลือกที่ดินก่อน ควรปล่อยเช่า แล้วเอาเงินที่ได้จากค่าเช่า กระจายไปซื้อทองคำ และกองทุนรวม ทำไมต้องกองทุนรวม เพราะผู้จัดการกองทุนรวม เขามีการจัดการกระจายความเสี่ยงการลงทุนให้นักลงทุนอย่างเราๆแล้ว เขาเก่งกว่าเรา เพราะเขาสอบผ่านใบอนุญาตเป็นผู้จัดการกองทุนค่ะ ตัวสุดท้ายคือหุ้น ตัวนี้ต้องฝึกลมปราณบ่อยๆ ค่ะ ถ้าจะ "เล่น" นะคะ แต่ถ้าจะ "ถือ" ก็เพียงทำใจให้ได้กับ "ปันผล"
1
นักเล่นหุ้นจะทราบดีว่า บางครั้งแค่เพียงลุกไปชงกาแฟกรุ๊งกริ๊ง! ก็อาจเสียเงินหลักแสนได้แล้ว ดังนั้น ผู้สูงวัยใกล้เกษียณ จึงไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง เกรงจะเกิดอาการวูบ! (บนเงื่อนไขผู้สูงวัยมนุษย์เงินเดือนทั่วไปนะคะ เพราะเราคงจะเอาตัวเองไปเทียบกับปู่วอร์เรน วัย 94 ไม่ได้ค่ะ)
ตามนั้นค่ะ ขอบคุณคำถามค่ะ
โฆษณา