7 ม.ค. เวลา 10:48 • กีฬา

จับตา "อิซัค" ลุ้นโค่นสถิติ "วาร์ดี้"

นับตั้งแต่เข้าสู่เดือนธันวาคม 2024 เป็นต้นมา มีนักเตะเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ทุกนัด นั่นคือ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ที่ตอนนี้ซัดให้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในเกมลีกมา 7 นัดติดต่อกัน โดยยิงไปถึง 9 ประตูในช่วง 7 เกมดังกล่าว
หลังจากที่อิซัคบวกสกอร์เพิ่มให้ตัวเองได้อีก ช่วยให้นิวคาสเซิ่ลบุกไปเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-1 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ดาวเตะวัย 25 ปีกลายเป็นผู้เล่นคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ทีมสาลิกาดงที่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 7 นัดติดต่อกัน ต่อจาก อลัน เชียเรอร์ ที่เคยทำได้ระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 1996 และ โจ วิลล็อค ระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2021
ฟอร์มร้อนแรงของดาวยิงทีมชาติสวีเดน ทำให้เขาซัดไปแล้ว 13 ประตูในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ เป็นรองแค่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ยิงไป 18 ประตู และ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่ยิงไป 16 ประตูเพียง 2 คนเท่านั้น
ประเด็นที่น่าจับตามองก็คือ ณ ตอนนี้ อิซัคกลายเป็นนักเตะที่ใกล้เคียงที่สุดที่จะลุ้นโค่นสถิตินักเตะที่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกติดต่อกันนานที่สุดตลอดกาลของ เจมี่ วาร์ดี้ ที่เคยทำไว้ 11 นัดซ้อน ในฤดูกาล 2015-16 ที่พา เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์แบบช็อคโลกมาครองได้
มาพูดถึงฟอร์มร้อนแรงของอิซัคในช่วง 7 เกมที่ผ่านมาก่อน สถิติบอกว่าเขาใช้โอกาสยิงรวมกันแค่ 23 ครั้ง ทำได้ 9 ประตู ถือว่าเปอร์เซ็นต์เปลี่ยนโอกาสยิงให้ตุงตาข่ายสูงถึง 39.13%
อเล็กซานเดอร์ อิซัค พัฒนาสกิลการทำประตูด้วยศีรษะให้ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดในฤดูกาลนี้ เพราะจากทั้งหมด 13 ประตูที่ทำได้ในพรีเมียร์ลีกซีซั่น 2024-25 มาจากลูกโหม่งไปแล้ว 4 ลูก กลายเป็นกองหน้าที่โหม่งทำประตูได้มากที่สุดของลีกร่วมกับ คริส วู้ด ของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และนี่คือฤดูกาลที่อิซัคโหม่งทำประตูได้เยอะที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเจ้าตัวด้วย
อเล็กซานเดอร์ อิซัค โหม่งทำประตูได้มากที่สุดในอาชีพค้าแข้งในฤดูกาล 2024-25 โดยในซีซั่นนี้ เขาโขกพังประตูทีมใหญ่อย่างอาร์เซน่อล และ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ด้วย
ประตูส่วนใหญ่ของอิซัคอาจจะมาจากการยิงระยะเผาขน แต่ก็มีการซัดจากนอกกรอบเขตโทษแบบเด็ดขาดให้เห็นมาแล้ว ในเกมที่นิวคาสเซิ่ลเปิดบ้านเสมอลิเวอร์พูล 3-3 และจากทั้งหมด 13 ประตูที่เจ้าตัวทำได้ ยังไม่ต้องอาศัยจุดโทษเลยแม้แต่ลูกเดียว เขาจึงอยู่ในสถานะหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของลีกตอนนี้อย่างเต็มตัว
อย่างไรก็ตาม การจะยิงประตูให้ได้ต่อเนื่องระดับ 10 นัดติดต่อกันมันยากมากๆ เพราะในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีนักเตะคนไหนที่ยิงในพรีเมียร์ลีกได้เกิน 7 นัดซ้อนเลยแม้แต่คนเดียว
โดยก่อนหน้านี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เคยทำได้ 7 นัดติดต่อกัน 2 ครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นในช่วงต้นซีซั่น 2021-22 และหนที่สองคือช่วงระหว่างหลังเบรกทีมชาติเดือนตุลาคมจนถึงต้นเดือนธันวาคมของฤดูกาลนี้ ขณะที่ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ก็เป็นอีกคนที่เคยทำประตูได้ 7 นัดซ้อนในพรีเมียร์ลีกเช่นกันในฤดูกาล 2022-23 แต่สุดท้ายทั้ง 2 คนก็ยังโค่นสถิติของวาร์ดี้ลงไม่ได้ แม้จะอยู่กับทีมที่มีเกมรุกดีเป็นอันดับต้นๆ ของลีกก็ตาม
อันที่จริง โม ซาลาห์ ที่กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มที่สุดในอาชีพค้าแข้ง เกือบจะทำลายสถิติของ เจมี่ วาร์ดี้ ลงได้อยู่แล้วภายในซีซั่นนี้ เพราะระหว่างเกมนัดที่ 8 จนถึงนัดที่ 19 สตาร์ทีมชาติอียิปต์มีชื่อทำประตูได้ถึง 11 นัดจากทั้งหมด 12 เกม แต่น่าเสียดายที่เขาไร้ชื่อบนสกอร์บอร์ดในวันที่ลิเวอร์พูลเปิดบ้านเสมอฟูแล่ม 2-2 ทำให้สถิติขาดช่วงไป
ก่อนจะไปลุ้นสร้างปรากฏการณ์ตามรอยผลงานยิงได้ 11 นัดซ้อนของวาร์ดี้ สถิติแรกที่อิซัคมีโอกาสทำได้ก่อน ก็คือการเป็นนักเตะคนแรกในรอบเกือบ 10 ปีเต็มที่ยิงในพรีเมียร์ลีกได้ 8 นัดติดต่อกัน (คนสุดท้ายที่ทำได้ก็คือวาร์ดี้ที่ยิง 11 นัดซ้อนในปี 2015 นั่นแหละ)
โปรแกรมลีกนัดต่อไปของนิวคาสเซิ่ลถือว่าไม่หนักมาก เมื่อจะได้เปิดบ้านพบ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ซึ่งเป็นทีมที่เสียประตูมากที่สุดของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (45 ประตูจาก 20 นัด) ในวันที่ 15 มกราคมนี้ โดย 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา อิซัคยิงใส่ทีมหมาป่าที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค ได้ทั้ง 2 ซีซั่น โอกาสจะยืดสถิติของตัวเองให้ยิงในลีกได้ 8 นัดติดต่อกันจึงค่อนข้างสูง
ถ้าหากอิซัคยิงประตูได้ในเกมเจอวูล์ฟส์ โปรแกรมนัดถัดไปจะเป็นการเล่นในบ้านต่อเนื่องอีกนัด โดยจะพบกับบอร์นมัธ ซึ่งผลงานกำลังดีมากๆ ไม่แพ้ใครมา 8 นัดติดต่อกันแล้ว แต่การได้เล่นที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค น่าจะช่วยให้เขามีความมั่นใจไม่น้อย
แล้วถ้าอิซัคยิงได้ทั้งในเกมเปิดบ้านพบ วูล์ฟแฮมป์ตัน และ บอร์นมัธ ซึ่งจะทำให้เขามีสถิติทำประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 9 นัดติดต่อกัน โปรแกรมนัดถัดจากนั้นอีกก็ดูจะเป็นงานง่าย เพราะจะได้บุกเยือนทีมบ๊วยอย่างเซาธ์แฮมป์ตัน
ส่วนโปรแกรมต่อเนื่องจากทีมนักบุญ ซึ่งจะเป็นเกมที่อิซัคลุ้นทาบสถิติของ เจมี่ วาร์ดี้ (ถ้าเขายังยิงได้ตลอดทั้ง 3 นัดข้างหน้าต่อจากนี้) คือการเจอกับฟูแล่มที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค เกมนั้นก็น่าจะไม่ง่ายนัก เพราะในฤดูกาลนี้ ทีมเจ้าสัวน้อยก็มีผลงานไม่ธรรมดา ไม่แพ้ทีม 4 อันดับแรกของตารางทั้ง ลิเวอร์พูล, ฟอเรสต์, อาร์เซน่อล และ เชลซี เลยสักทีม แถมอิซัคก็ยิงใส่ฟูแล่มไม่สำเร็จมาตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2023 ด้วย
แต่ถ้าหากอิซัคยังฟอร์มแรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ ยิงในลีกได้อีก 4 เกมซ้อนจนทาบสถิติของวาร์ดี้ได้ โปรแกรมที่จะทำให้เขาลุ้นกลายเป็นนักเตะที่ยิงในพรีเมียร์ลีกติดต่อกันนานที่สุดตลอดกาลถึง 12 นัดซ้อนแต่เพียงผู้เดียว จะเป็นการบุกเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งการบุกเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม ในช่วงที่ทีมเรือใบสีฟ้าฟื้นฟอร์มกลับมาแล้ว มันต้องเป็นงานยากแน่ๆ
อิซัคยิงประตูได้ในเกมที่นิวคาสเซิ่ลบุกชนะสเปอร์ส 2-1 ทำให้ยิงในพรีเมียร์ลีกมา 7 นัดติดต่อกันแล้ว
การทำสถิติยิงในพรีเมียร์ลีกได้เกิน 10 นัดซ้อนต้องอาศัยหลายปัจจัยประกอบกัน โดยสิ่งแรกที่ต้องทำให้ได้ก่อน คือต้องรักษาสภาพร่างกายให้ไม่มีปัญหาบาดเจ็บ พร้อมลงเล่นได้ต่อเนื่อง
แต่ปัญหาของอิซัคคือนับตั้งแต่เขาย้ายจาก เรอัล โซเซียดาด มาเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2022 เขาเคยมีช่วงบาดเจ็บต้องหายหน้าไปไม่น้อยกว่า 3 สัปดาห์ให้เห็นทุกฤดูกาล
โดยในฤดูกาล 2022-23 เขาเคยเจ็บต้นขา หายหน้าจากทีมไปนาน 4 เดือน, เมื่อฤดูกาลที่แล้วก็เคยเจ็บโคนขาหนีบ ต้องพัก 3 สัปดาห์ไป 2 ช่วง ส่วนในฤดูกาลนี้ เขาเคยเจ็บนิ้วเท้าจนพลาดลงเล่นไป 2 นัด ในเกมเปิดบ้านเสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 และนัดบุกเสมอเอฟเวอร์ตัน 0-0 มาแล้ว
ต้องไม่ลืมว่านิวคาสเซิ่ลกำลังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ คาราบาว คัพ โดยจะพบกับอาร์เซน่อลในรอบรองชนะเลิศ ซึ่ง เอ็ดดี้ ฮาว เน้นกับถ้วยนี้แน่ๆ เพราะทีมสาลิกาดงไม่มีภารกิจฟุตบอลยุโรปในซีซั่นนี้ นี่จึงเป็นโทรฟี่ที่ทีมจับต้องได้ นั่นทำให้อิซัคจะเป็นกองหน้าตัวหลักของทีมในเกมบอลถ้วยช่วงกลางสัปดาห์นี้อย่างแน่นอน
โอกาสที่ เอ็ดดี้ ฮาว จะได้พักอิซัค น่าจะเป็นศึก เอฟเอ คัพ รอบ 3 ที่จะได้เปิดบ้านพบทีม ลีก ทู อย่างบรอมลี่ย์ คืนวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ เพื่อให้เขาฟิตที่สุด สำหรับเกมพรีเมียร์ลีกนัดต่อไปที่จะได้เจอกับวูล์ฟแฮมป์ตัน
นอกเหนือจากการรักษาสภาพความฟิตให้ดีแล้ว ปัจจัยสำคัญมากที่จะช่วยส่งเสริมให้อิซัคยิงได้ต่อเนื่อง ก็คือการได้โอกาสลุ้นยิงประตูให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
อิซัคคือกองหน้าตัวเป้าที่มีโอกาสยิงประตูเฉลี่ยต่อเกมมากเป็นอันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ สถิติบอกว่าเขาได้ลุ้นยิงเฉลี่ยนัดละ 3.1 ครั้ง เป็นรองแค่ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ลุ้นนัดละ 4.1 ครั้งแค่คนเดียว นอกจากนั้นแล้ว อิซัคคือคนสังหารจุดโทษมือวางอันดับหนึ่งของทีมด้วย ถือว่าในทุกๆ นัดที่ลงสนาม เขาคือคนที่มีโอกาสมีชื่อบนสกอร์บอร์ดของนิวคาสเซิ่ลมากที่สุด
ในฤดูกาลนี้ อิซัคยังไม่มีโอกาสได้ยิงจุดโทษเลยสักครั้ง ส่วนผู้นำดาวซัลโวอย่างซาลาห์ ทำประตูจากจุดโทษในเกมลีกซีซั่นนี้ไป 5 ลูก นั่นหมายความว่าถ้านับจำนวนประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์แบบเพียวๆ เขามีสถิติการส่งบอลเข้าก้นตาข่ายไม่เป็นรองซูเปอร์สตาร์ทีมหงส์แดงเลย
ในฤดูกาลนี้ อิซัคแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถยิงใส่คู่แข่งได้ทุกระดับ ทีมหัวตารางทั้ง ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล, น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และ เชลซี ต่างโดนเขาทำประตูได้ทั้งหมดในซีซั่นนี้
ส่วนการเจอกับทีมน้องใหม่ในกลุ่มท้ายตาราง ทั้ง เลสเตอร์ ซิตี้ และ อิปสวิช ทาวน์ เขาก็ใส่สกอร์ได้แบบสบายๆ โดยแฮตทริกแรกของเจ้าตัวในพรีเมียร์ลีก เกิดขึ้นในเกมที่บุกถล่มอิปสวิช 4-0
ถือว่าในแง่ของประสิทธิภาพในสนาม อิซัคมีทุกอย่างที่พร้อมจะเป็นตัวจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยมของทีมทุกนัด ที่เหลือก็รอดูกันว่าเขาจะยืนระยะรักษาฟอร์มที่กำลังมั่นใจแบบนี้ไปได้นานแค่ไหน
อย่างที่บอกไป การจะทำลายสถิติของ เจมี่ วาร์ดี้ ที่เคยยิงในพรีเมียร์ลีกได้ 11 นัดติดต่อกันคือเรื่องที่ยากมากๆ มันต้องมีปัจจัยทุกอย่างลงตัวกันจริงๆ ทั้งฟอร์มที่กำลังพีค, จังหวะโปรแกรมที่มั่นใจ และความสามารถในการทำประตูของตัวนักเตะ
สถิติยิงประตูในพรีเมียร์ลีก 11 นัดติดต่อกันของ เจมี่ วาร์ดี้ ในปี 2015 ยังไม่มีใครโค่นลงได้ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา
แต่ไม่ว่า อเล็กซานเดอร์ อิซัค จะโค่นสถิติของวาร์ดี้ได้หรือไม่ สิ่งที่ไม่มีใครปฏิเสธ ก็คือตอนนี้เขาคือหนึ่งในกองหน้าที่ครบเครื่องที่สุดของพรีเมียร์ลีก
โดยนอกจากจะยิงประตูเป็นรองแค่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ โดยไม่ต้องพึ่งลูกจุดโทษแม้แต่ลูกเดียวแล้ว สถิติยังบอกว่าอิซัคคือกองหน้าตัวเป้าที่สร้างโอกาสลุ้นให้เพื่อนได้มากที่สุด ทำได้ถึง 25 ครั้ง กลายเป็นแอสซิสต์ไปแล้ว 4 ลูก
สถิติที่น่าสนใจก็คือ ถ้าเทียบค่าเฉลี่ยจำนวนประตูต่อ 1 เกมในพรีเมียร์ลีก ถือว่า อเล็กซานเดอร์ อิซัค มีตัวเลขที่เหนือกว่าตำนานดาวยิงตลอดกาลของสโมสรอย่าง อลัน เชียเรอร์ เสียอีก
อิซัคยิงในลีกสูงสุดอังกฤษไปแล้ว 44 ประตูจาก 70 นัด ค่าเฉลี่ยจำนวนประตูต่อเกมคือนัดละ 0.63 ลูก ส่วนสถิติของเชียเรอร์ที่ยิงให้ทีมสาลิกาดงในพรีเมียร์ลีกไว้คือ 148 ประตูจาก 303 นัด ค่าเฉลี่ยของ “ฮอตชอต” คือนัดละ 0.49 ประตู
แล้วปัจจุบัน อิซัคอายุแค่ 25 ปีเท่านั้น ยังสามารถเล่นด้วยฟอร์มพีคได้อีกหลายปี ไม่ว่าเขาจะอยู่กับนิวคาสเซิ่ลต่อไป หรือย้ายไปเล่นให้สโมสรอื่นด้วยค่าตัวมหาศาล เขาจะเป็นกองหน้าระดับท็อปของพรีเมียร์ลีกไปอีกหลายฤดูกาลแน่
#เสียบสามเหลี่ยม #อิซัค #Isak #อเล็กซานเดอร์อิซัค #นิวคาสเซิ่ล #วาร์ดี้ #เจมี่วาร์ดี้ #พรีเมียร์ลีก
โฆษณา