7 ม.ค. เวลา 13:54 • ความคิดเห็น
เรื่องราวของการจนตรอก เราเจอคนหนึ่ง เค้าจนตรอก เหลือตัวคนเดียว ก็มาปฏิบัติธรรม ก็คุยกัน .เค้าก็ว่า เค้ามีเมียตั้งสี่คน เค้าเล่าว่า .เมียคนหนึ่ง ทำของใส่ .มันเอาอะไรกิน.(ขอไม่เล่าละกัน) เราก็ว่า คนมันหล่อ ..เค้าหวงก็เป็นอย่างนี้แหละ พอตอนหลัง ก็ไปทำงาน ก็เกิดป่วย ไม่ค่อยสบายร่างกายมันไม่ไหว มีตุ่มผุพองตามตัว ก็ร่างกายมันไม่ยอมให้ ..ไปทำงานเสียแล้ว ก็หันมาบวช ประพฤติธรรมขึ้นมา บวชได้ ยังไม่ถึงพรรษา ก็ออกธุดงค์ตามเค้าไป
เราก็คุยกับพระที่เรานับถือว่ายังไม่น่าออกธุดงค์เลย คล้ายว่า ยังประคับครองจิต ให้รู้จักอารมณ์ไม่ได้ .เรื่องธุดงค์ันั่น เป็นเรื่องที่จิตต้องมีขันติ.ต่ออารมณ์.เกิดขึ้นในกาย ..เพื่อที่จะปลดเปลื้องอารมณ์นั่นออกไป
พอออกพรรษานี้ ท่านก็ไม่ออกธุดงค์ ปฏิบัติธรรมที่วัด .ก็ได้เรียนรู้จัก เรื่องราวของอารมณ์กรรมมากขึ้น เวลาปฏิบัติธรรม ท่านก็ตั้งใจปฏิบัติธรรม ทำกายนิ่ง จิตนิ่ง ก็มีเรื่องราวต่างๆ ที่ช่วยชำระสะสางออกไป ผิสพรรณของท่านที่เคยพุพอง ก็ค่อยๆดีขึ้น ท่านก็รู้จัก เรื่องราวของอิทธิฤทธิ์ ไสยศาสตร์มนดำมากขึ้น
คราวนี้ ก็มีเรื่องราวของน้องอีกคนหนึ่ง จะว่าเป็นซึมเศร้าก็ไม่ใช่ มีน้องที่รู้จักบอกว่า มีคนรู้จัก เค้าจะโทรมาคุยด้วย เราก็เลยได้คุยกับน้องคนนี้ เค้าก็ค่อยเล่าเรื่องราวต่างๆ ว่า ไปทำอะไรมาบ้าง ไปปฏิบัติธรรมที่ไหนมาบ้าง เค้าชอบเรื่องเจ้าพ่อเจ้าแม่อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ จนจิตนั้นเกิดภาวะ หลอน ..มีญาติจะพาไปหาหมอ ให้กินยา ..ที่เค้าว่า เคมีในสมองไม่เท่ากัน
เราก็เลยบอกเค้าว่า มีทางเลือกอยู่สองทาง จะไปกินรักษา หรือ ว่าจะรักษาด้วยการประพฤติปฏิบัติธรรม ที่ว่ามาทางนี้ๆ มาสร้างบุญกุศลบารมี มาเดินอยู่ในรอยทั้งสี่ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เค้าก็มาทางพระ ปฏิบัติธรรม เวลาเดินจงกรม เค้านั้นแสบร้อน เจ็บปวดทุกข์ทรมานมาก แต่เค้าก็ตั้งใจปฏิบัติอดทน ทนที่จะคลี่คลาย เรื่องราวของตัวกระทำไสยศาสตร์ มนต์ดำ ที่มันเข้ามาเกาะเกี่ยวอยู่กับธาตุทั้งสี่ เรื่องราวพ่อมี่ เราก็แหย่เค้าว่า เป็นไงละ ..เวลาเอาเจ้ามันง่าย ..แต่เวลาเอาออกมันทุกข์ทรมาน จะไปเอาเข้ามาอีกมั้นนี่
เรื่องราวพวกไสยศาสตร์ต่างๆที่ไปพัวพัน พอแก่เฒ่าไป เช่น พวกชอบท่องคาถาอาคม พอแก่ตัวไป ก็เดินเหินเอียงๆ หลังคดหลังงอ เจ็บปวด ไปไหนไม่ค่อยๆ ..บ้างก็ติดเตียง บ้างก็เป็นมะเร็ง ..รอคอยความตาย จิตออกจากร่างยิ่งไปสู่สถานที่ทุกข์ทรมาน
มีอีกคน ก็เค้ามาบวช เค้าเล่าว่า ไปตั้งโรงงาน เกิดมีเมียน้อย ..ก็เลยศูนย์ทั้งโรงงาน ที่ลงไปยี่สิบล้าน ..หมดตูด .. ก็เข้ามาขอบวช ..ว่าจะบวชเดือนเดียว ก็บวชไปร่วมสามเดือน เพราะหาฤกษ์สึกไม่ได้ ต้องรอเวลา แต่ก็ดี ที่ว่า อยู่วัด .ก็ปฏิบัติธรรมเก็บเกี่ยวบุญกุศลไป
มีอีกรายหนึ่ง เกษียณมา มีเงินสิบล้าน ก็คุยให้เราฟังว่า กำลัวไปลงทุนทำธุรกิจ หายไปสามปี ..ก็กลับมาขอบวช .เพราะหมดอีกเหมือนกัน ก็กลับมาพึ่งวัด ..ปฏิบัติธรรมไป นี่ถ้าไม่โลภ เอาแค่่พอประทังสังขารไปก็ คงมีเงินมีทองเหลือใช้จ่าย ประคองกาย แล้วยังเจียดเงินทองมาสร้างบุญกุศลได้อีก
เราก็เคยจนตรอก ลาออกจากงาน มาอยู่บ้านเฉยๆ พอดีเพื่อนชวนไปหาถ้ำอยู่ ก็เลยจับพลัดจับพลู ได้เข้าวัด ไปรู้จักพระที่ท่าน แนะนำสอนเราให้เรียนรู้จัก เรื่องราวของอารมณ์ต่างๆ แล้วก็สอนให้เอาไปกฝึกหัดตัวเอง ก็ทำมาสามสิบกว่าปีแล้ว .ก็ยังไม่ค่อยรู้อะไรเลยรอยจะเผลอสติอยู่เรื่อย ..บางทีก็เกิดขี้เกียจสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม ..พอไปชวนญาติพี่น้อง ชวนเพื่อน เอาแค่ทำบุญ ก็เห็นเค้าไม่เต็มใจทำ ก็เลยไม่บอก ยิ่งชวนไปปฏิบัติธรรม .เค้าก็สละเวลากันไม่่ได้เลย
โฆษณา