8 ม.ค. เวลา 00:12 • หุ้น & เศรษฐกิจ

⚠️ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งแรง! นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี 😱

โดยเฉพาะ Nvidia ที่ร่วงหนักสุดในรอบ 4 เดือน หลังจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ไม่ปังอย่างที่คาดหวัง ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้น Nvidia และออปชั่นอย่างหนัก
2
ปัจจัยที่กดดันตลาด
📈 ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งสูง: หลังตัวเลขเศรษฐกิจดีเกินคาด ทำให้กังวลเงินเฟ้อ และธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอการลดดอกเบี้ย
📌 ข้อมูลชุดแรกมาจาก JOLTS (Job Openings and Labor Turnover Survey)
ตำแหน่งงานว่าง ในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน อยู่ที่ 8.1 ล้านตำแหน่ง สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้
การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากภาคบริการธุรกิจ (professional and business services) และการเงินและประกันภัย (finance and insurance) ขณะที่ภาคที่พักและบริการอาหาร (accommodation and food services) และการผลิต (manufacturing) มีตำแหน่งงานว่างลดลง
อัตราการลาออก ลดลงเหลือ 1.9% บ่งชี้ว่าผู้คนมีความมั่นใจน้อยลงในการหางานใหม่ และอัตราส่วนตำแหน่งงานว่างต่อผู้ว่างงาน อยู่ที่ 1.1 ซึ่งใกล้เคียงกับระดับก่อนการแพร่ระบาด
📌 ข้อมูลชุดที่สองมาจาก ISM (Institute for Supply Management)
ดัชนี PMI ภาคบริการ ในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 2 จุด สู่ระดับ 54.1 บ่งชี้ถึงการเติบโตที่รวดเร็วขึ้น โดยดัชนีราคา พุ่งขึ้นมากกว่า 6 จุด สู่ระดับ 64.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2023 (ทำให้ตลาดกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อ)
คำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.5 จุด สู่ระดับ 54.2 ขณะที่ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจ เพิ่มขึ้น 4.5 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน และดัชนีการจ้างงาน เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอยู่ที่ 51.4
⚠️ ผลกระทบต่อตลาด
ข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่ง และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่ ทำให้นักลงทุนจึงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม ในการประชุมเดือนนี้ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 6 จุดพื้นฐาน สู่ระดับ 4.68% และกดดันให้ตลาดหุ้นปรับตัวลง โดยดัชนี S&P500 ลดลง 1.1% Nasdaq 100 ลดลง 1.78%
และล่าสุดนักลงทุนไม่ได้คาดว่าเฟดจะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนเดือนกรกฎาคมแล้ว
‼️ประเด็นอื่นๆ
👉🏻 Magnificent Seven ร่วงยกแผง: หุ้นเทคโนโลยีตัวใหญ่ทั้ง 7 (เช่น Apple, Microsoft, Amazon) ต่างปรับตัวลง
Tesla และ Apple โดนลดอันดับ: ธนาคาร Bank of America ปรับลดอันดับหุ้น Tesla ส่วน MoffettNathanson ปรับลดอันดับหุ้น Apple เพราะกังวลเรื่องยอดขายในจีน
Meta โดนกดดัน: หลังมีข่าวว่าจะยกเลิกการตรวจสอบข้อมูลเท็จบนแพลตฟอร์มในสหรัฐฯ
✅ กลุ่มที่ยังไปได้ดี:
พลังงาน: ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นจากอากาศหนาวในสหรัฐฯ
สุขภาพ: ยอดผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เพิ่มสูง หนุนหุ้นกลุ่มวัคซีน โรงพยาบาล และร้านขายยา
ธนาคาร: JPMorgan ประกาศให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ 5 วันต่อสัปดาห์ และ Bank of America ได้รับการปรับเพิ่มอันดับ
📌 สรุปรายกลุ่มอุตสาหกรรม:
* เทคโนโลยี (-2.4%): แย่สุด นำโดยกลุ่มชิป (-4.3%) Nvidia ร่วงหนัก (-6.2%)
* สินค้าฟุ่มเฟือย (-2.2%): กลุ่มรถยนต์ (-3.9%) Tesla ดิ่ง (-4.1%)
* การสื่อสาร (-1.1%): Meta ร่วง (-2.0%)
* การเงิน (-0.2%): กลุ่มธนาคารสวนกระแส (+0.6%)
* อสังหาริมทรัพย์ (-0.7%):
* สินค้าอุปโภคบริโภค (-0.3%):
* อุตสาหกรรม (-0.1%):
* สาธารณูปโภค (-0.3%):
* วัสดุ (ทรงตัว):
* พลังงาน (+1.1%): ดีสุด
* สุขภาพ (+0.6%):
🔻ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มปรับตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและดอกเบี้ย
👀 สิ่งที่ต้องจับตาต่อ
ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ: ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้
ทิศทางดอกเบี้ยของเฟด: นักลงทุนเริ่มไม่แน่ใจว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเมื่อไหร่
การเมืองสหรัฐฯ: ใกล้การเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใหม่
🎯 สรุป
.
หุ้นร่วง เพราะตัวเลขเศรษฐกิจออกมาแข็งแกร่ง ตลาดเลยกลัวว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยช้าลงไปอีกค่ะ หลายเป็น Good News is Bad News อีกแล้ว แต่สุดท้าย Bottom Line คือ เศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่งอยู่ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจนะคะว่าถ้าสุดท้ายพรุ่งนี้ตื่นมา ตลาดอาจจะกลับมาปิดบวกก็ได้ (เดาล้วนๆ)
สัปดาห์นี้จะผันผวนหน่อย เพราะ จะมีรายงานการประชุมเฟดรออยู่ในคืนวันพุธ และตัวเลขแรงงานสหรัฐฯรอยู่ในวันศุกร์ค่ะ
สัปดาห์หน้าจะเริ่มเข้าสู่ earnings season กันอีกแล้ว ลุ้นกันต่อไปเรื่อยๆ แต่ภาพเศรษฐกิจคือดีค่ะ ถ้าหุ้นร่วงเพราะเศรษฐกิจดี ก็ซื้อได้เหมือนเดิมค่ะ
โฆษณา