8 ม.ค. เวลา 08:55 • ข่าวรอบโลก
ประเทศไทย

งานเปิดตัวตราสัญลักษณ์ “50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน”

“จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ประโยคนี้ท่านผู้อ่านอาจจะเคยได้ยินคุ้นหูอยู่บ้าง เป็นคำกล่าวที่สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างชาวไทยและชาวจีน ทั้งในระดับประเทศที่มีการแลกเปลี่ยนการเยือนในทุกระดับอย่างสม่ำเสมอและมีความร่วมมือกันในเชิงลึกทุกมิติ ตลอดจนในระดับประชาชน ซึ่งชาวไทยเชื้อสายจีนนับได้ว่าเป็นกลุ่มประชากรหลักกลุ่มหนึ่งของสังคมไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และสิ่งนี้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนถือว่ามีความพิเศษอย่างมากเลยทีเดียว
ปี 2568 เป็นปีที่สำคัญสำหรับทั้งสองประเทศอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ทางกระทรวงการต่างประเทศจึงได้ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ จัดงานเปิดตัวตราสัญลักษณ์ “50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน” ภายใต้คำขวัญ “จีน - ไทยสานใจกัน ร่วมสร้างฝันประชาคม” ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 ณ ศูนย์การค้า ไอคอนสยาม
นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ)
โดยภายในงานมีกิจกรรมมากมายให้ร่วมสนุกและรับชม ทั้งการประดับงานอีเวนต์ด้วยฉากภาพวาดสีน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งเรียงรายให้ผู้เข้าชมได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก โดยเป็นภาพของสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทยที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์พิเศษระหว่างไทยกับจีน เช่น ย่านเยาวราช อาคารล้ง1919 และอุทยานมังกรสวรรค์ จ.สุพรรณบุรี รวมถึงมีตู้สติ๊กเกอร์ที่ใช้ green screen ตัดต่อฉากหลังเป็นสถานที่ต่าง ๆ ที่ได้กล่าวถึงให้ผู้เข้าร่วมชมได้จำลองภาพว่าตัวเองได้ไปอยู่ในสถานที่เหล่านั้นจริงๆ ด้วย
ฉากภาพวาดสีน้ำสำหรับผู้เข้าชมได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก โดยเป็นภาพของอาคารล้ง1919 หนึ่งในสถานที่ที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์พิเศษระหว่างไทยกับจีน (ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ)
สิ่งที่เป็นไฮไลท์ที่สุดในงาน คือประติมากรรมลอยตัวของตราสัญลักษณ์ฉลองวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน เป็นรูปสัตว์มงคลในตำนานของทั้งสองประเทศอย่างพญานาคและมังกรเป็นตัวแทนของไทยและจีน มาขดคล้องกันเป็นเลข 50 ตามปีที่ครบรอบ โดยหันหน้าเข้าหากันและมองไปยังดวงแก้วสีเหลืองทอง ที่เปรียบเสมือนการมุ่งสู่จุดหมายเดียวกันในการสร้างประชาคมนั่นเองค่ะ
ตราสัญลักษณ์ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน (ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ)
ประธานภายในงานครั้งนี้คือ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย
โดยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์กล่าวว่า ปี 2568 นับได้ว่าเป็น “ปีทองแห่งมิตรภาพไทย - จีน” เพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์พิเศษระหว่างทั้งสองประเทศที่ดำเนินมานาน 50 ปี และเป็นโอกาสมองย้อนไปกลับถึงเส้นทางประวัติศาสตร์ที่เราเดินร่วมกันมา เพื่อต่อยอดแนวทางมุ่งสู่อนาคตต่อไป ซึ่งทั้งไทยและจีนมีเป้าหมายเดียวกันคือ การนำมาซึ่งประโยชน์สุขของประชาชนทั้งสองฝ่ายและร่วมสร้างประชาคมที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้นในอนาคตร่วมกัน
โดยในวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ในปี 2568 นี้ ทั้งสองฝ่ายมีการจัดเตรียมกิจกรรมการเฉลิมฉลองมากมาย นับตั้งแต่ปลายปี 2567 จนถึงตลอดทั้งปี 2568 เพื่อสะท้อนถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้ม ความร่วมมือในทุกมิติ ตลอดจนความเข้าใจระหว่างประชาชนที่มีมาอย่างยาวนาน อาทิ การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวที่กรุงเทพฯ ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการเฉลิมฉลองในวาระนี้
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ)
ด้านนายหาน จื้อเฉียง กล่าวว่า ปี 2568 ถือเป็นก้าวสำคัญของประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และเป็นจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ของความสัมพันธ์ โดยงานเปิดตัวสัญลักษณ์ในวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรมการเฉลิมฉลองมากมายที่จะตามมา ซึ่งต่อจากนี้ จีนจะมุ่งสานต่อมิตรภาพที่ยาวนานกับไทยและให้การสนับสนุนไทยในด้านต่างๆ
นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย (ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ)
หลังจากการขึ้นกล่าวของประธานทั้งสองฝ่าย ผู้เข้าร่วมงานยังได้รับชมการแสดงบนเวทีชุด “ตอแบ๋ตั๋วะ” โดยคณะศิลปะนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากประวัติศาสตร์ของคณะงิ้วสตรีในวังหน้าช่วงต้นสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ที่สะท้อนถึงความผูกพันลึกซึ้งยาวนานระหว่างไทยกับจีนได้อย่างลึกซึ้งด้วยค่ะ
การแสดงชุด "ตอแบ๋ตั๋วะ” (ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ)
นอกจากนี้ เพื่อขยายวาระการเฉลิมฉลองไปยังประชาชนทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบอาร์ตทอย กระทรวงการต่างประเทศยังได้ร่วมมือกับบริษัท POP MART เพื่อผลิตอาร์ตทอย Dimoo รุ่นพิเศษ แบบ limited edition สำหรับวาระโอกาสนี้โดยเฉพาะ ในฐานะ “Special Friend of Thailand-China Gloden Jubilee” ที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยอีกด้วย
ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็ได้สนับสนุนการเชิญศิลปินนักแสดงพิเศษ อย่าง นายชานน สันตินธรกุล หรือ นนกุล ที่มีผลงานเป็นที่นิยมทั้งในประเทศไทยและจีน มาเป็นแขกรับเชิญพิเศษภายในงานด้วยเช่นกันค่ะ
โมเดลอาร์ตทอย Dimoo รุ่นพิเศษสำหรับโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ในฐานะ “Special Friend of Thailand-China Golden Jubilee” (ที่มา: เว็บไซต์มติชน)
นายชานน สันตินธรกุล หรือ นนกุล (ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ)
นายชานน สันตินธรกุล หรือ นนกุล และผู้เขียน ภายในงานเปิดตัวตราสัญลักษณ์ “50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน”
งานครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นการฉลองการครบรอบความสัมพันธ์ของไทยและจีน ซึ่งตลอดปี 2568 นี้ จะมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลินกวง กรุงปักกิ่ง มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวที่ท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นเวลา 73 วัน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน
ซึ่งท่านผู้อ่านสามารถรอติดตามกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ ที่จะตามมาอีกมากมายตลอดปี 2568 ได้เลยค่ะ
โฆษณา