Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
I see I write
•
ติดตาม
25 ม.ค. เวลา 14:27 • ไลฟ์สไตล์
น้องชงกาแฟคนหนึ่งลาออก บอกถึงอะไรได้บ้าง
🫱ค่อย ๆ จิบกาแฟ และอ่านเรื่องราวที่น้องชงกาแฟคนหนึ่งลาออก แล้วคิดโยงไปถึงเรื่องงานในความหมายของ
การเลี้ยงชีพ การสร้างความสมดุล
ในชีวิต การสร้างแรงบันดาลใจ และสร้างโอกาสพัฒนาฝีมือ
ในขณะที่ การลาออกจากงานกลายเป็นความปกติที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน และโยงใยไปถึงวัย และเจเนอเรชั่น จริง หรือไม่
เริ่มคิดปรุงแต่งไปด้วยกันครับ🤔
🚶หลังพ้นปีใหม่ได้ 5-6 วัน ผมแวะเข้าไปนั่งร้านกาแฟเจ้าประจำ ซึ่งคุ้นเคยกันดีกับน้อง ๆ 3-4 คน ที่ชงกาแฟ
ระหว่างนั่งรอกาแฟอยู่ จู่ ๆ น้องคนหนึ่งก็พูดทักทายขึ้นมาว่า...
"คุณอาคะ น้องตัวเล็กลาออกไปแล้วนะคะ"
1
"อ้าว ออกไปแล้วเหรอ สองสามวัน
ก่อนปีใหม่ ยังเห็นมาทำงานอยู่นะ ไม่เห็นมีวี่แววว่า จะลาออกเลย"
"ลองโทรไปถามให้แน่ชัด อีกทีนะ เผื่อเปลี่ยนใจ" ผมตั้งข้อสงสัย แล้วชวนให้น้อง ๆ ที่เหลือ ช่วยกันทัดทาน ด้วยเห็นว่า หน่วยก้านของน้องมีแววที่จะพัฒนาฝีมือต่อไปได้
"โทร ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่เปลี่ยนใจ เหมือนอยากจะหยุด เที่ยวต่ออีก 2-3 วันในช่วงปีใหม่ แต่เรามีระเบียบกำหนดไว้ ทำแบบนั้นไม่ได้" และ
"จริง ๆ อีก 2 วัน ก็จะถึงวันหยุดรอบสัปดาห์ของน้องอยู่แล้ว" น้องคนเดียวกัน ให้ข้อมูลเพิ่ม และน้องอีกคนพยักหน้าเห็นด้วย
"พรุ่งนี้ ลองโทรไปอีกรอบ นะ อาจจะมีเวลาไตร่ตรอง ใช้เหตุผลมากขึ้น(กว่าใช้ความรู้สึก)"
ผมให้น้อง ๆ ลองกล่อมอีกครั้ง
1
อีกสองวันถัดมา ทราบจากน้องว่า ไม่ได้โทรกลับไป และน้องที่ลาออกก็ไม่ติดต่อกลับมา
1
ในขณะที่ ผู้บริหารร้านในภาพรวมที่ต้องดูแลอีกหลายสาขา ซึ่งมีปัญหาแบบเดียวกัน เตรียมรับเด็กใหม่มาทดแทนแล้ว
เกมส์หนึ่งในชีวิตการทำงานของน้อง
บาเรสต้า สมมุติว่าชื่อ เฟรม ในวัย 19 ปี จึงจบลงที่ร้านกาแฟแห่งนี้ โดยอาจนำประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้ต่อไปในที่อื่น
ในขณะที่เกมส์ธุรกิจ ของร้านต้องเดินหน้าต่อ รอคอยไม่ได้
กาแฟสักถ้วย อาจช่วยการตัดสินใจ
🧗ผมลองหยิบประเด็นเล็ก ๆ แบบนี้ มาพูดคุยในวงเล็ก ๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง โดยอ้อมในฐานะลูกค้า และเพื่อนร่วมอาชีพคล้าย ๆ กัน
ได้รับมุมมองที่น่าสนใจ และได้เรียนรู้ไปด้วยในตัว หลากหลายดีครับ แม้จะเป็นการมองจากข้อมูลที่รับฟังมาด้านเดียว โดยไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการลาออกจากน้องเฟรมก็ตาม
เริ่มจาก...น้อง ๆ ผู้ร่วมงาน ซึ่งล้วนแล้วแต่อยู่ในวัยที่โตกว่าน้องเฟรม มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เสียดายวันเวลาที่น้องอุตส่าห์เรียนรู้มาเกือบ 4-5 เดือน
จากจุดเริ่มต้นที่ไม่คุ้นเคยเรื่องกาแฟเท่าใดนัก จนเกิดความรู้ ความเข้าใจ
มีทักษะ ความชำนาญพอที่จะปล่อยให้แสดงฝีมือชงให้ลูกค้าได้แล้ว
แต่ก็เข้าใจได้ว่า น้องอยู่ในวัยที่ยังอยากจะใช้ชีวิตอิสระ ไม่อยากทำงานประจำที่ค่อนข้างรัดตัว มีเวลาหยุดเพียง 1 วัน ใน 1 สัปดาห์
และในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ลูกค้าค่อนข้างแน่นร้าน อาจจะทำให้เหนื่อยล้ากว่าปกติ รวมทั้ง ตัวน้องเองเคยเปรย ๆ ว่า อยากกลับไปเรียนหนังสือต่อด้วย
พอผมถามน้อง ๆ กลับไปบ้างว่า แล้วเคยคิดที่จะลาออกแบบน้องเฟรมบ้าง หรือไม่ ในบางเวลา ?
🙅 คำตอบที่ได้รับจากทุกคนคล้ายคลึงกันว่า..ไม่มีสิทธิ์ แม้จะแค่คิด เพราะค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รอคอยอยู่แล้วในแต่ละเดือน
ทั้งค่าเช่าที่พัก ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าผ่อนส่งสินค้ารายงวด และส่งเงินให้ทางบ้าน
การลาออก จึงหมายถึง การตกงาน
ซึ่งนำไปสู่การขาดเงินที่ผูกมัดไว้ด้วยค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รอคอยอยู่ 😢
ทุกอาชีพ หาได้มา มีรายจ่ายรออยู่
💃ในจังหวะที่กำลังคุยกับน้อง ๆ อย่างออกรส พี่ลูกค้าขาประจำที่คุ้นเคยกัน เข้ามาในร้านพอดี และทราบเรื่อง น้องเฟรม ลาออก
ก็เลยเล่าสู่กันฟังถึงเรื่องราวที่เพิ่งผ่านการตัดสินใจแก้ไขปัญหาช่วงขึ้นปีใหม่ ในฐานะนายจ้างที่จะให้พนักงานส่วนหนึ่งลาออก
เนื่องจากนำเครื่องจักรมาใช้ทดแทน แต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการปรับวิธีทำงานเป็น 2 กะ ซึ่งพนักงานทุกคนที่อยู่ด้วยกันมานานให้ความร่วมมือด้วยดี
สะท้อนให้เห็นถึงหัวอกของนายจ้างที่ไม่ได้พิจารณาการลดต้นทุนโดยให้พนักงานลาออกอย่างเดียว แต่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตัวพนักงานที่สร้างกิจการมาด้วยกัน
หลังจากพี่เดินออกจากร้านไป โดยทิ้งมุมมองต่างให้ผมได้คิดเทียบเคียงไปชั่วครู่...
น้อง ๆ ในร้านก็กลับมาแซวผมคนป้อนคำถาม (ที่ไม่มีงานทำ) ว่า...🥰
"สนใจมาสมัครทำงานที่ร้านแทนน้องเฟรมไหมคะ"
ผมตอบรับมุขกลับไปว่า...
"ถ้าให้ทำหน้าที่คอยตักน้ำแข็ง ชวนลูกค้าคุย พอจะทำได้ แต่หากให้ทำซับซ้อนกว่านั้น ทั้งรับออเดอร์ คิดสตางค์ แนวดิจิทัล และช่วยชงด้วย
ประเมินจากทักษะเดิมที่มีอยู่ หรือที่จะพัฒนาเพิ่มเติม ดูแล้วไม่น่าจะผ่านทดลองงาน ลาออกตามน้องเฟรมไปอีกคน" (ฮา)
หลังจากคุยกันได้สักพัก น้อง ๆ ดูผ่อนคลายขึ้น แล้วสะท้อนถึงความรู้สึกบางอย่างจากคนชงมาสู่คนดื่มว่า
"พวกหนูอยากมีชีวิตแบบคุณอาบ้างค่ะ ชิว ชิว สบาย ๆ"
ผมก็เลยต้องรีบแจกแจงกลับไปทันทีว่า
"กว่าจะมามีชีวิตอย่างที่น้อง ๆ เห็น ผมก็ต้องประคับประคองชีวิตมาพอสมควร
และต่อสู้มาในแบบที่น้อง ๆ กำลังเผชิญอยู่คล้ายคลึงกัน"
ชีวิตนี้ไม่มีทางลัด...ต้องต่อสู้และก้าวเดินต่อไป🏋️
เหนื่อย ก็หยุดพัก เพื่อก้าวต่อไป
🗣️รุ่งขึ้นอีกวัน ผมมีโอกาสคุยกับคนสูงวัย 2-3 ท่าน ซึ่งเคยมานั่งดื่มกาแฟร้านนี้
ทั้งครั้งคราวและขาประจำ
และพอจะคุ้นหน้าคุ้นตากับน้องเฟรมอยู่บ้าง ให้ข้อคิดเห็นต่อการลาออกที่เกิดขึ้น เป็น 2 แนว แตกต่างกัน
แนวแรกมองว่า น้องอายุยังน้อย ยังมีโอกาสและทางเลือกอื่น ๆ อีกมากมาย เป็นต้นว่า
กลับไปเรียนหนังสือต่อ หรือไปหางานทำที่ตรงกับความชอบ ความถนัดของตนเอง หรือลงตัวกับการใช้ชีวิตประจำวัน💻
ในมุมนี้ การลาออกจึงเป็นจุดเริ่มต้น หรือเป็นทางผ่าน ไม่ใช่จุดสิ้นสุด และเป็นจุดช่วยสร้างสมดุลใหม่ให้กับชีวิต🪂
แนวที่สอง มองว่า เห็นบุคลิกท่าทางบวกกับวัยของน้อง แต่แรกแล้ว คิดอยู่ในใจว่า ไม่น่าจะอยู่ได้นาน
แต่น้องก็ตัดสินใจเร็วไปนิดหนึ่ง น่าจะให้เวลากับตัวเองได้ฝึกปรือ พิสูจน์ฝีมืออีกสักระยะหนึ่ง เพื่อให้ได้รับความรู้ ความเชี่ยวชาญติดตัวไป
เมื่อพิจารณาจากทั้ง 2 แนว ข้างต้นแล้ว
ดูเหมือนว่า...การลาออกจะเป็นทั้งการเปิดโอกาส และปิดโอกาสให้กับตัวเองไปพร้อมกัน..🩵
กาแฟเป็นศิลปะที่ต้องใช้เวลาฝึกฝน
🚴เช้าวันถัดมา ผมแวะไปซื้อของที่
"ร้านสะดวกซื้อ" ขาประจำเช่นกัน หลังจากทักทายพนักงานตามปกติ
ผมลองหยอดคำถามไปเล่น ๆ ว่า
"ปีใหม่แล้ว มีพนักงานหายไปบ้าง หรือไม่ ครับ"
น้องส่งยิ้มกลับมาอย่างอารมณ์ดี พร้อมคำตอบว่า...
"หายไป 1 คน ค่ะ...ช่วงวันหยุดปีใหม่ จะเป็นแบบนี้ เป็นเรื่องปกติค่ะ"
ทำให้ผมเริ่มมองสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องเฟรมที่ร้านกาแฟ อย่างเข้าใจเพิ่มมากขึ้น
พอตกสาย ๆ เวลาใกล้ 11 โมงเช้า ผมไปนั่งที่ร้านกาแฟเจ้าเดิมอีกครั้ง พร้อมกับเล่าเรื่องการลาออกของพนักงานร้านสะดวกซื้อช่วงปีใหม่ ให้น้อง ๆ ทราบ
พอได้รับข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ น้อง ๆ ดูเหมือนว่า จะผ่อนคลายขึ้น และยิ่งผ่อนคลายเพิ่มขึ้น
เมื่อน้องที่แบกน้ำแข็งมาส่งที่ร้านทราบข่าวว่า มีพนักงานลาออกไป 1 คน ให้ข้อมูลเสริมว่า...
"ร้านกาแฟที่ผมไปส่งน้ำแข็ง มีอยู่หลายร้านที่พนักงานลาออกไปในช่วงปีใหม่เหมือนกัน"
"บางร้านออกไปทั้งชุด แต่เป็นเรื่องสมคบกันทุจริต ทำกันเป็นทีม เจ้าของเลยเชิญออกไปทั้งทีม ครับ"
ส่งน้ำแข็ง พร้อมเรื่องราว
ดูเหมือนว่า การลาออกของพนักงานช่วงปีใหม่ เป็นเรื่องปกติที่เข้าใจได้ แต่เรื่องที่ไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องปกติที่รับกันได้ คือ
การร่วมมือกันทุจริตในร้าน แล้วยังกล้าทำงานกันต่อไป (โดยไม่คิดจะลาออก) ทำกันได้อย่างไร..ผมนึกรำพันอยู่ในใจ🧡
🚙หลังจากฟังข้อมูลหลายมุมที่พอจะก่อความคิดเป็นโครงเรื่องได้บ้างแล้ว
อยู่มาวันหนึ่งก่อนวันเด็ก(11 ม.ค.68) ระหว่างที่ขับรถบนท้องถนนและเปิดฟังวิทยุรายการหนึ่งไปด้วยเพลิน ๆ
ผู้ดำเนินรายการได้หยิบยกเรื่องปัญหาการลาออกของพนักงาน เจเนอเรชั่น z ที่เกิดขึ้นในองค์กรต่าง ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มคนอยู่ในวัยเดียวกับน้องเฟรมพอดี
จึงเข้าใจธรรมชาติการทำงานของน้องกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น ที่รักอิสระ คาดหวังการทำงานแบบยืดหยุ่น ไปกันได้กับชีวิตส่วนตัว แต่ก็มีความอดทนต่ำ ใจร้อน ไม่ชอบการรอคอย
สอดคล้องกับข้อมูลจากน้องชงกาแฟอีกร้านหนึ่ง วัย 30 ปีเศษ ที่อยู่ในวงการนี้มานานเกือบ 3 ปี จนเจ้าของร้านไว้วางใจให้บริหาร ดูแลทุกอย่างภายในร้าน เล่าว่า...
คนที่คิดจะทำงานร้านกาแฟ ต้องใจรักจริง ๆ เพราะต้องอยู่ในร้านเกือบทั้งวัน จะออกไปทำธุระชั่วครูชั่วยาม หรือหยุดไปไหนมาไหนสองสามวันค่อนข้างยาก ลูกค้าหายหมด
1
ต้องทำด้วยใจรัก
ในขณะที่พี่ที่รู้จักกัน ซึ่งเคยคิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจนี้เมื่อหลายปีมาแล้ว แต่ล้มเลิกความคิดนี้ไป
ก็มีข้อวิตกคล้ายกันเรื่องการลาออก และการหาคนมาทดแทน หมดเวลาไปกับการแก้ปัญหา คนเข้า คนออก สร้างทีมกันใหม่ วนเวียนไม่รู้จบ
อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลตรงกันข้ามจากน้องที่ทำงานพาร์ทไทม์ในสถานีบริการน้ำมัน ระหว่างพูดคุยกันสั้น ๆ ช่วงเติมน้ำมัน
ทราบว่า น้องอายุเพียง 18 ปี ทำงานเป็นพนักงานเติมน้ำมันไปด้วย เรียนไปด้วย ตั้งแต่เรียน ปวช.ปี 1 เพื่อหาเงินเรียน ไม่มีความคิดที่จะลาออกตอนนี้ เพราะยังเรียนไม่จบ
ผมจึงไม่พลาดที่จะชมเชย และยกย่องในหัวใจนักสู้ของน้อง สวนทางกับสิ่งที่ได้ยินอยู่บ่อยครั้งว่า...
"เด็ก ๆ สมัยนี้ ไม่สู้งาน หนักไม่เอา เบาไม่สู้" 🦾
🧘ทั้งหมดนั้น คือ สิ่งที่ผมมองไกลออกไปจากตัว พอหันกลับมามองสิ่งที่ใกล้ตัวบ้าง...อ้าว..!!
ลูกของผมเอง ในวัย 23 ปี ก็อยู่ในเจเนอเรชั่น z เช่นเดียวกัน
และเพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่สังคมทำงานได้ 3-4 เดือน เมื่อถามไถ่ไปถึงงานที่ทำ ทั้งเนื้องาน คนที่ทำงานด้วยกัน และบรรยากาศการทำงาน ซึ่งเด็กจบใหม่ยังไม่เคยสัมผัสลิ้มรส
คำตอบที่ได้รับ มีทั้งถูกใจ และไม่ถูกใจในงานอย่างที่คิดหวัง นึกฝันไว้ รวมทั้ง ไม่ตรงกับที่เรียนมา ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นโดยทั่วไป
พอถามลึกลงไปถึงขั้นคิดจะลาออก
หรือไม่ ได้คำตอบว่า มีอยู่บ้างในระยะแรก ๆ ที่คอยวิ่งสวนทางกับใจที่อยากเรียนรู้ สร้างความชำนาญในงานที่ทำไปสักระยะหนึ่ง
ซึ่งถึงแม้จะไม่ชอบสักทีเดียว แต่เห็นประโยชน์ที่พอจะเกิดขึ้น
1
ผมโล่งใจไประดับหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ในใจว่า ถ้าถึงจุดหนึ่ง หากใจอยากลาออกแล้ว คงไม่ต่างไปจากน้องเฟรม🧑🤝🧑
เงื่อนไขต่าง ๆ ที่เคยวางไว้เป็นหลักการ จะถูกตัดออกไปอย่างไม่มีเหตุผล และไม่เกี่ยวข้องกับคนวัยไหน เจเนอเรชั่นใดโดยเฉพาะ
เพราะคนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในยุคท้าย ๆ เจเนอเรชั่น เบบี้บูม เช่น ตัวผม เป็นต้น ก็เคยมีอาการเช่นนี้ในช่วงเวลาทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน
อาจจะต่างกันอยู่บ้าง ตรงที่ต้องคิดหน้า คิดหลัง คิดอย่างละเอียด รอบคอบ โดยเฉพาะเรื่องเงินรายได้ที่จะหายไป หากออกจากงาน โดยที่ไม่มีงานใหม่รองรับ
1
มิฉะนั้นแล้วจะกลายเป็นว่า หนีปัญหาหนึ่ง มาเจออีกปัญหาหนึ่งทดแทน
ในขณะที่งานอิสระสำหรับคนชอบเสรี
ยังมีรองรับไม่มากเหมือนเช่นทุกวันนี้
ในส่วนที่จะคิดแบบเชิงเหตุผล อ้างอิง ประกอบการลาออกในท่วงทำนองว่า งานที่ทำไม่ตรงกับเป้าหมายชีวิตที่ตั้งไว้
งานนี้ทำไปแล้ว ไม่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ (Inspiration) หรือสร้างให้เกิดความรู้สึกหลงไหล (Passion) อยากทำตลอดไป ยังไม่มีแนวคิดแบบนี้แพร่หลายมากนักในยุคนั้นเท่ากับยุคนี้ 💑
ถ้างานนั้นถูกใจ ทำเท่าไรก็ไม่เหนื่อย
☕ในจังหวะที่ผมจิบกาแฟไป คิดไปว่า จะจบเรื่องนี้ อย่างไร อยู่ที่ร้านกาแฟอีกร้านหนึ่ง
พลันก็มองไปเห็นพนักงานรุ่นพี่กำลังสอนน้องพนักงานใหม่อยู่พอดี สอบถามภายหลัง ทราบว่า เพิ่งเข้ามาทำงานได้หนึ่งสัปดาห์
ส่วนร้านเจ้าประจำนั้น ได้เด็กใหม่มาแทนน้องเฟรมแล้ว แต่มาวันเดียวหาย
แว้บไป ไม่มาอีกเลย...
หรือว่า...การเข้า ออก ของพนักงานร้านกาแฟ จะเป็นเรื่อง "ปกติ" ที่เรามอง "ผิดปกติ" ไปเอง
้เหมือนกับที่คนไทยจำนวนไม่น้อยเดินเข้า ออก ร้านกาแฟในแต่ละวันเป็นเรื่อง "ปกติ" ไปแล้วเช่นกัน...
ว่าแต่ว่า ผมผิดปกติหรือไม่นะ...
ที่น้องตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งลาออกจากร้านกาแฟ แล้วทำให้ผมคิดปรุงแต่ง เป็นประเด็นย่อย ๆ และประเด็นใหญ่ ๆ ไปไกลหลายร้อยบรรทัด
โดยเกือบลืมคิดไปว่า กาแฟที่รสชาติกลมกล่อมที่สุดถ้วยหนึ่งของผม ก็คือ กาแฟที่ดื่มตอนรุ่งเช้าของวันที่หมดภาระจากงานประจำที่ทำมาหลายสิบปี 🤟
จดจำกาแฟถ้วยนี้ไว้ในความทรงจำ
ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน ลองสร้างแรงบันดาลใจ นึกสนุก และหลงไหล คิดปรุงแต่งไปด้วยกันนะครับ 🥰🥰😍
🙏ขอบคุณผู้ให้ข้อมูลทุกท่าน และผู้อ่านมากครับ
มุมชัย นัยสอิ้ง /25 ม.ค.68
ธุรกิจ
แนวคิด
4 บันทึก
24
16
7
4
24
16
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย