เมื่อวาน เวลา 03:33 • ความคิดเห็น
เรื่องราวของโลกวิญญาณ ..ในคำว่าจิต ..โอปปาติกะ เร่ร่อนนั่นมีมากมาย ที่เค้าก็อยู่ล้อมรอบตัวเรา แต่ปัญหามันเกิดขึ้น ที่เราสามารถ ไปสัมผัสรับเรื่องราวเหล่านี้ ก็ด้วยกายที่เราอาศัยอยู่ เราใช้กายไปทางเพิ่มพูนสะสมคำว่า กรรมโดยไม่รู้ตัว วิญญาณทั้งหกของเราก็ปกคลุมไปด้วยอารมณ์ต่างๆมากมายก่ายกอง แล้วขันธ์ทั้งห้า วิญญาณหกของเรา ก็ไม่มีเรื่องราวของคำว่า บุญกุศลบารมี มันก็เลยยากที่ที่จะไปสัมผัส เรื่องราวจิตวิญญาณ ที่เร่ร่อนอะไรต่างมากมายก่าย
มีวัดหนึ่ง ในกรุงเทพ เราก็ไปงานคนที่รู้จัก ก็อธิษฐาน บอกกล่าวเจ้าที่ที่วัด พอพระสวดมนต์ เค้าก็มาเป็นเหมือน กำแพงอัดแน่นไปด้วยจิตของผู้ที่มีกรรม หนาแน่นไปหมด เหมือนลูกน้ำที่เค้าอัดแน่นแช่แข็ง บางที่เค้าก็มายืนขอส่วนบุญ ตัวดำๆ ยื่นเข้าแถวเป็นระเบียบ เหมือนกองทหาร
เรื่องที่ว่าจะไปกันอะไรเค้าได้ ..ไปงานหนึ่ง พระท่านสวด ..เค้าก็ยืนเรียงกันเป็นแถวต่อจากพระนั่นแหละ
เรื่องจิตวิญญาณของผู้ที่จากไป เค้าเหลือแต่จิต บางทีตายเพราะกรรมตัดรอน ยังไม่ถึงเวลา บางดวงจิตก็ไม่รู้ตัวว่าตาย ก็เหมือนจิตตกภวังค์ ไปนั่นนี่ ทักทายใคร ก็ไม่มีใครได้ยิน พูดด้วย พอรู้ตัวว่าตาย บางที่ก็เปลี่ยนแปลงรูปไปแล้ว เช่นอุบัติเหตุตาย เค้าก็อยู่ที่เค้าตายนั่นแหละ
เรื่องราวที่ว่า เอาอะไรมากัน เมื่อก่อนเค้าก็เคนเป็นคน ..แต่ตอนนี้ เค้าไม่มีรูปคนรูปมนุษย์ให้อาศัยแล้ว เค้าก็ไปจากคน จะไปกลัวเค้าทำไม .. หากเราสัมผัส รับรู้เรื่องเรา ของการเปลี่ยนแปลงรูปขันธ์ทั่งห้า ที่จิตอาศัย ..รูปเปรตอสุรกาย ..อะไรต่างๆ ..ได้ หากมันเกิดขึ้นกับเราจิตของเรา วันหนึ่งเราต้องจากกาย .เราจะเป็นแบบนั้นมั้ย คนเค้าก็คงกลัว หาอะไรมากัน เมื่อจิตเราเปลี่ยนรูปไป
เรื่องราวทำนองนี้ เมื่อมีกาย ก็มีโอกาสสะสมเสบียงไปกับจิต ..คือ สร้างบุญกุศลบารมี เพราะจิตออกจากกายนั้น เหลือแต่จิต ..ต้องการบุญ ..มันจึงมีเรื่องราว..ที่ว่าจิตไม่มีกาย ร้องโหยหวน ช่วยด้วยๆ ขอบุญฉันบ้าง ..ตัวสูงยาวเป็นต้นตาล ..บางทีก็รับบุญไม่ได้ ..ตัวมันสูงเกินไป
โฆษณา