Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
PPTV Wealth
•
ติดตาม
9 ม.ค. เวลา 05:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เห็นแย้ง "บ้านเพื่อคนไทย" เอกชนงัด 3 ข้อค้านขอให้รัฐบาลทบทวน
เอกชนเปิดอีกมุม เห็นแย้ง "บ้านเพื่อคนไทย" งัด 3 ข้อค้านขอให้รัฐบาลทบทวน โดยส่งเป็นจดหมายถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
นายโสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอข้อมูลแย้ง “บ้านเพื่อคนไทย” โดยระบุต้องการให้รัฐบาลทบทวนการก่อสร้าง “บ้านเพื่อคนไทย” เนื่องจาก
1. ในปัจจุบันยังมีอุปทานเหลืออยู่มากมายในพื้นที่ๆ จะก่อสร้าง
ตัวอย่างเช่น ในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่บางซื่อ กม.11 มีเนื้อที่กว่า 15 ไร่ อยู่ซอยวิภาวดี 11 ติดถนนกำแพงเพชร ห่างสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ 2.5 กม.
เอกชนมองมุมต่าง บ้านเพื่อคนไทย ควรสนับสนุนภาคเอกชนให้ขายบ้านให้ได้หมดเนื่องจากยังมีเหลืออยู่จำนวนมาก
เซ็นทรัล ลาดพร้าว 500 เมตร MRT พหลโยธิน 500 เมตร เป็นอาคารชุด จำนวน 1,232 ยูนิต มีขนาด 30 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคา 1.76 ล้านบาท ขนาด 40 ตร.ม. ราคา 2.36 ล้านบาท ขนาด 45 ตร.ม. ราคา 2.65 ล้านบาท ขนาด 50 ตร.ม. ราคา 3 ล้านบาท นั้น
ในขณะนี้ยังมีห้องชุดภาคเอกชนที่ขายกันในราคา 1.46 – 3.048 ล้านบาทจำนวนถึง 1,111 หน่วย แสดงว่ารัฐบาลไม่ต้องสร้างใหม่ก็ได้อยู่แล้ว โครงการหลายแห่งอยู่ใกล้เมืองและรถไฟฟ้ามากกว่ากรณีที่ดิน กม.11
รัฐบาลควรสนับสนุนภาคเอกชนให้ขายบ้านให้ได้หมด หรืออาจจะออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ลดภาษี ลดราคาโดยรัฐบาลอุดหนุน ฯลฯ เพื่อช่วยระบายสินค้ามากกว่าจะไปก่อสร้างใหม่ซึ่งเป็นการสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมทางหนึ่ง
นายโสภณ ยังได้นำผลการสำรวจของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย พบว่า เขตในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังมีที่อยู่อาศัยรอขายในมือผู้ประกอบการถึง 234,628 หน่วย ในจำนวนนี้มีราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทต่อหน่วยมากถึง 114,417 หน่วยทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ และห้องชุด
ศูนย์ข้อมูลฯ ยังคาดว่ายังมีห้องชุดมือสองในพื้นที่รอบๆ ก.ม.11 ที่ยังรอขายอีกนับหมื่นหน่วยมากกว่าที่รัฐบาลคิดจะสร้างใหม่ จึงไม่มีความจำเป็นต้องสร้าง “บ้านเพื่อคนไทย”
2. ค่าเช่าที่ดินถูกไปทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเสียหายหรือไม่
นายโสภณ กล่าวว่า จากพื้นที่ที่รัฐบาลมีแผนจะสร้างบ้านเพื่อคนไทย ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่บางซื่อ กม.11 มีเนื้อที่กว่า 15 ไร่ ส่วนพื้นที่เชียงใหม่ เนื้อที่กว่า 7 ไร่ และพื้นที่เชียงราก เนื้อที่กว่า 18 ไร่ ซึ่งทั้ง 3 ทำเล จะเป็นค่าเช่าพื้นที่จากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กว่า 100 ล้านบาท ซึ่งในฐานะผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน คาดว่าเบื้องต้นราคาที่ดินที่ กม.11 น่าจะเป็นเงินตารางวาละ 300,000 บาท ที่เชียงใหม่ ถ้าติดถนนเจริญเมือง ก็ตกตารางวาละ 100,000 บาท เข้าซอยก็คง 60,000 บาท
ในกรณีนี้จึงสมมติขั้นต่ำที่ 60,000 บาท ส่วนที่เชียงรากในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ราคาตลาดตกอยู่ราว 10,000 บาทต่อตารางวา
ดังนั้นที่ดินทั้ง 3 แปลง ถ้าหากขายได้ตามราคาตลาดก็จะเป็นเงิน 1,800 ล้านบาท (กม.11), 168 ล้านบาท (เชียงใหม่) และ 72 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 2,040 ล้านบาท ถ้าให้เช่า 30 ปี ก็ควรเป็นเงินอย่างน้อย 30% หรือ 612 ล้านบาท ยิ่งหากให้เช่าถึง 99 ปี ก็ควรเป็นเงินถึง 1,632 ล้านบาท
การปล่อยเช่าเพียง 100 ล้านบาท ทำให้รัฐโดยเฉพาะการรถไฟแห่งประเทศไทยเสียหายได้ หากเปรียบเทียบกับกรณีเซ็นทรัลลาดพร้าวที่เช่าที่รถไฟ 47 ไร่ แต่เมื่อรวมสิ่งปลูกสร้างอายุเกือบ 50 ปีแล้ว ก็เป็นเงินสูงถึงกว่า 1,387 ล้านบาทเฉพาะในปี 2567
นายโสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
การขายขาดทุนอาจทำให้ประชาชนที่โชคดีจำนวน 1,232 หน่วย จองซื้อได้ ได้รับประโยชน์และสามารถขายต่อได้ในอีก 5 ปีข้างหน้าเหมือนกรณีบ้านเอื้ออาทร แต่สำหรับประชาชนทั้งประเทศ โดยเฉพาะประชาชนผู้มีรายได้น้อย หรือประชาชนกลุ่มเปราะบางทั่วไปกลับไมได้อะไรเลย นี่จึงเป็นการสร้างความไม่เป็นธรรมในหมู่ประชาชน
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
https://www.pptvhd36.com/wealth/trick-trend/240230
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์
https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
Facebook PPTV Wealth :
https://www.facebook.com/PPTVWealth/
YouTube Wealth :
www.youtube.com/@PPTVWealth
เศรษฐกิจไทย
เศรษฐกิจ
บริษัทเอกชน
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย