9 ม.ค. เวลา 07:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

พาณิชย์ เผยปรับค่าจ้างขั้นต่ำกระทบเงินเฟ้อปี 68 ไม่มาก

พาณิชย์ เผยการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำสูงสุดวันละ 400 บาทมีผล 1 ม.ค. 68 มีผลกระทบต่อเงินเฟ้อไทยไม่มาก คาดปีนี้อยู่ในช่วง 0.3-1.3
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผลการวิเคราะห์ “ผลกระทบของการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำต่ออัตราเงินเฟ้อทั่วไป” หลังจากราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 ที่แบ่งเป็น 17 อัตรา เพิ่มในอัตราวันละ 7 - 55 บาท (เฉลี่ยร้อยละ 2.9)
พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผอ.สนค.
โดยมีอัตราสูงสุดคือวันละ 400 บาท และอัตราต่ำสุดคือวันละ 337 บาท พบว่าจะส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อประมาณร้อยละ 0.15 - 0.30 และทำให้อัตราเงินเฟ้อในปี 2568 จะยังอยู่ในช่วงร้อยละ 0.3 - 1.3 (ค่ากลางร้อยละ 0.8) ตามที่ สนค.ได้คาดการณ์เมื่อเดือนธันวาคม 2567
สนค. ได้ดำเนินการวิเคราะห์ผลกระทบโดยใช้ตารางปัจจัยการผลิตและผลผลิตของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และข้อมูลจำนวนผู้ใช้แรงงานที่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งประมวลข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ และกระทรวงแรงงาน รวมทั้งความสอดคล้องกับโครงสร้างของหมวดสินค้าและบริการของดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มสินค้าและบริการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำได้ 6 กลุ่ม ดังนี้
ปรับค่าจ้างขั้นต่ำกระทบต่อเงินเฟ้อปี 68 ไม่มาก
กลุ่มที่ 1 สินค้าและบริการที่มีการกำกับดูแลโดยภาครัฐ คิดเป็นประมาณร้อยละ 22 ของน้ำหนักสินค้าและบริการในตะกร้าเงินเฟ้อ ได้แก่ ค่าน้ำประปา ค่ากระแสไฟฟ้า น้ำมันดีเซล แก๊สโซฮอล์ ค่าการศึกษา ค่าทางด่วน ค่าเดินทางสาธารณะ และค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น
การปรับราคาสินค้าและบริการเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับมาตรการภาครัฐ ดังนั้นการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำครั้งนี้จะไม่ส่งผลให้สินค้าและบริการในหมวดนี้ปรับตัวสูงขึ้น
กลุ่มที่ 2 สินค้าและบริการที่มีการผลิตในระบบอุตสาหกรรม และเป็นสินค้าที่มีการใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสม่ำเสมอ คิดเป็นร้อยละ 25 ของน้ำหนักสินค้าและบริการในตะกร้าเงินเฟ้อ ได้แก่ สินค้าในหมวดเครื่องประกอบอาหาร (น้ำตาล เกลือ น้ำมันพืช) เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (น้ำดื่ม กาแฟ น้ำหวาน) ของใช้ส่วนบุคคล (ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม แปรงสีฟัน กระดาษชำระ) และสินค้าคงทนต่าง ๆ (เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ รถจักรยานยนต์)
กระบวนการผลิตของสินค้าส่วนใหญ่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมมีการใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรในการผลิตเป็นส่วนใหญ่ มีการใช้แรงงานขั้นต่ำน้อย ทำให้อาจจะไม่มีการปรับเพิ่มราคาสินค้าและบริการในกลุ่มนี้ตามการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ
กลุ่มที่ 3 สินค้าที่มีการใช้แรงงานสูงแต่การส่งผ่านราคาสู่ผู้บริโภคไม่มากนัก คิดเป็นประมาณร้อยละ 22 ของน้ำหนักสินค้าและบริการในตะกร้าเงินเฟ้อ ได้แก่ สินค้าในภาคการเกษตร ทั้งผักสด ผลไม้สด พืชไร่ และปศุสัตว์
ภาคการผลิตเหล่านี้มีการใช้แรงงานในสัดส่วนที่สูง แต่ไม่สามารถส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปยังราคาสินค้าได้ เนื่องจากราคาสินค้าถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทาน ดังนั้นการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในครั้งนี้จะไม่ส่งผลให้สินค้าในหมวดนี้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามภาครัฐควรมีนโยบายดูแลภาคการผลิตเหล่านี้ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบให้รายได้สุทธิลดลง
คาดเงินเฟ้อปี 68 อยู่ในช่วง 0.3-1.3
กลุ่มที่ 4 สินค้าและบริการที่มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ คิดเป็นประมาณร้อยละ 16 ของน้ำหนักสินค้าและบริการในตะกร้าเงินเฟ้อ ได้แก่ อาหารสำเร็จรูป (บริโภคในบ้านและบริโภคนอกบ้าน) โดยเฉพาะอาหารจานด่วน อาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง และกับข้าวเป็นถุง
เนื่องจากมีต้นทุนการใช้แรงงานสูง ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กที่รองรับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนได้ต่ำ อย่างไรก็ตามต้นทุนอื่น ๆ ของอาหารสำเร็จรูปในปี 68 มีแนวโน้มลดลง ทั้งราคาผักสดจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในการเพาะปลูกมากขึ้น ไข่ไก่ที่ราคายังมีแนวโน้มลดลง เนื้อสุกรที่มีการปรับราคาสูงขึ้นไม่มาก รวมทั้งเครื่องประกอบอาหารมีแนวโน้มทรงตัว ดังนั้นการปรับเพิ่มขึ้นของค่าจ้างขั้นต่ำจะส่งผลกระทบต่ออาหารสำเร็จรูปในปี 2568 ไม่สูงมากนัก
กลุ่มที่ 5 ค่าเช่าบ้านและที่พักอาศัย คิดเป็นประมาณร้อยละ 14 ของสินค้าและบริการในตะกร้าเงินเฟ้อ
การปรับขึ้นค่าเช่าบ้านและที่พักอาศัยขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านอุปสงค์และอุปทานมากกว่าการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ประกอบกับในปี 2568 ภาคอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มฟื้นตัวต่ำจะเป็นปัจจัยกดดันให้ค่าเช่าบ้านและที่พักอาศัยยังอยู่ในระดับต่ำ หรืออาจไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ
กลุ่มที่ 6 ค่าบริการที่มีการใช้แรงงานมีฝีมือหรือทักษะสูง คิดเป็นประมาณร้อยละ 1 ของน้ำหนักสินค้าและบริการในตะกร้าเงินเฟ้อ ได้แก่ ค่าตัดผม ค่าแรงช่างไฟฟ้า ค่าแรงช่างประปา ค่าแรงช่างก่อสร้าง ค่าบริการล้างแอร์ ค่าดูแลผู้สูงอายุ ค่าคนรับใช้/ คนทำงานบ้าน และค่าจ้างเฝ้าไข้ผู้ป่วย เป็นต้น
ในภาพรวมค่าแรงหรือค่าจ้างในภาคบริการเหล่านี้สูงกว่าค่าจ้างขั้นต่ำอยู่แล้ว ดังนั้น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะส่งผลให้ค่าบริการเหล่านี้ปรับเพิ่มไม่มาก หรืออาจจะไม่มีการปรับขึ้นค่าบริการ
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/monetary/240151
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา