9 ม.ค. เวลา 09:35 • ข่าวรอบโลก

เพราะไม่รู้เลยตื่นเต้น ก็แค่นั้นเอง….

เรื่องเครื่องบินลึกลับรูปร่างสุดล้ำของจีนนี่
ดูเหมือน พวกเขายังเล่นไม่เลิก ในการโฆษณาชวนเชื่อ
ใน BD นี่ ผมว่าผมเขียนคนแรก แต่ไม่ได้อวยของจีน
และพูดถึงในลักษณะถึงความเป็นไปได้จริง มากกว่า
ผลคือ มันไม่ได้รับความสนใจมากนัก
แต่ในขณะที่ เรื่องเดียวกันเขียนอีกโทน
ว่าจีนล้ำสหรัฐไปแล้ว กลับได้รับความนิยมอย่างมาก
…ผมคิดว่านี่ค่อนข้างชัดเจนเลย ถึงกลไกการทำงาน
ของข่าวสาร ที่มีผลจากอคติ หรือความไม่รู้…
1
…จนเป็น propaganda ที่ประสบความสำเร็จ….
1
ที่จริงแล้ว กับข่าวเครื่องบินจีนนี่ ผมค่อนข้างเฉยๆ
เอามากๆ และทางต่างประเทศ ในระดับผู้เชี่ยวชาญต่างๆ
ก็ค่อนข้างเฉยๆ ไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนคนทั่วไปนัก
ผมเองก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ที่รู้สึกเฉยๆ
เพราะทราบดีว่า เครื่องบินรูปร่างประหลาดนั้น
มันไม่ใช่เพิ่งมี
1
แต่มีมาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว
ถ้าย้อนเวลากลับไป สักยี่สิบปี เอาจริงๆ
ตัวผมก็ไม่ได้ตื่นเต้นกับรูปร่างหลุดโลก ของ B-2
หรือ F-117 ของสหรัฐมากนักเหมือนกัน
เพราะรู้ว่ามันเคยมีมาก่อน
จะเห็นว่า B-2 ของสหรัฐนั้นเหมือนกับ เจ้า Horten 229
ที่พวกนาซีเคยทดลองมาก สำหรับคนทราบ และชอบติดตาม
ความก้าวหน้าด้านอาวุธ มันแทบจะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นนัก
กับรูปร่าง
…ในกรณี B-2 ความน่าตื่นเต้นจริงๆ คือเมื่อมันเข้าสู่สมรภูมิ
จริง แล้วปฏิบัติการข้ามโลกด้วยระยะไกลมากๆ สูงมากๆ
และตรวจจับไม่ได้เสียมากกว่า…
…ผมจำได้ ว่าตอนนั้นหนังสือเครื่องบินรบในไทย
คือ Tango ยังตั้งคำถามด้วยซ้ำ ว่ารูปร่างแบบนี้จะเวิร์คเหรอ
ไม่ใช่ตื่นเต้นไปกับมันเมื่อเห็น อย่างที่เกิดกับเครื่องบินจีน….
…ทั้งที่ BIAS ของผู้นิยมอาวุธไทยในตอนนั้น คือค่ายตะวันตก
ไม่ใช่จีนและรัสเซีย….
พูดๆง่ายๆ เพราะคนรู้ จะเข้าใจและจะตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ทางเทคนิค ก่อนที่จะสรุปว่านั่นคือความล้ำหน้า ในทันที
ที่เห็นว่ารูปร่างมันล้ำสมัยนั่นเอง…
…propaganda ทำอะไรคนกลุ่มนี้ไม่ได้หรอก ขี้สงสัยมาก….
…โดยเฉพาะอะไรที่มันเป็นวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมน่ะนะ…
Horten ของนาซี เคยถูกสร้างมาหลายลำเหมือนกัน ก็บินทดลองโชว์เหมือนตอนนี้ของจีนนั่นแหละ แต่มันมีข้อจำกัดมากมายในแง่การผลิตเพื่อประจำการ สุดท้ายมันเลยเป็นแค่ของโชว์ ไม่ต่างอะไรกับบรรดา prototype จากทุกชาติในปัจจุบัน
ทุกคน ที่ชอบเรื่องอาวุธและศึกษามาจริงจัง
จะทราบดีครับ ว่าชาติใหญ่ๆ มักมีของที่เป็นต้นแบบ
หรือเครื่อง prototype อยู่ทั้งนั้นแหละ
ถ้าเปรียบกับวงการรถยนต์ มันก็คือ concept car
ที่แต่ละค่าย มันจะออกแบบมาแบบสุดล้ำ
เพื่อโชว์ไอเดีย หรือความก้าวหน้าของบริษัท
แต่ มันไม่ได้บอกว่าสิ่งเหล่านี้คือความล้ำหน้าอย่างแท้จริง
หรือในกรณีอาวุธ สงคราม มันไม่ได้บอกเราถึงดุลอำนาจ
ที่จะเปลี่ยนไปได้ เพียงเพราะการปรากฏตัวของสิ่งเหล่านี้
การอวยกันเวอร์วังอลังการ มันจึงเป็นเพียง propaganda
ไม่ใช่สาระอะไรนัก เมื่อพูดถึงนวัตกรรม
ผมขอเปรียบเทียบง่ายๆ กับรถไฮโดรเจนของโตโยต้านี่แหละ
ใช่ ! มันล้ำ แต่แล้วไงล่ะ มันทำให้โตโยต้า ทำยอดขาย
ชนะ EV ได้ในระยะยาวรึเปล่าล่ะ ?
ครับ อาวุธก็เหมือนกันแหละ แค่เครื่องต้นแบบ
ที่เราไม่รู้ว่าสมบูรณ์ไหม ขึ้นสายพานการผลิตได้
ในระดับที่ประจำการอย่างคุ้มค่าหรือไม่
มันจึงไม่ใช่อะไรที่น่าตื่นเต้นเลย แม้แต่น้อย
2
…แต่ก็นั่นแหละ มันแค่รู้ หรือไม่รู้เท่านั้นเอง…
ของรัสเซียก็เยอะ อย่างอันนี้คือ S-70 ซึ่งมีข่าวมาตั้งแต่ต้นยุค 2000 ก่อนเปิดตัว prototype ปลายปี 2021 จะเห็นได้ชัด ว่าการพยายามตาม B-2 ของสหรัฐนั้น ยังมีช่องว่างมากถึง 20 ปี
ผมสนใจกรณีที่เกิดขึ้นกับข่าวเรื่องนี้มาก
ไม่ใช่สนใจที่ตัวเครื่องบินจีนนะ
แต่สนใจในแง่การตอบสนองต่อข้อมูลของคนมากกว่า
ผมพบว่า มันค่อนข้างมี Bias ที่สูงเอามากๆ
ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากความเกลียดสหรัฐ และชื่นชมจีน
มากกว่าที่จะมองความเป็นไปได้ทางเทคนิค
ที่จริงแล้ว การบอกว่า สิ่งที่เห็นจากจีนนั้น
หมายถึงการแซงหน้าทางเทคโนโลยีของจีนแล้ว
มันเป็นอะไรที่ไม่เมคเซนส์เลยแม้แต่น้อย
ถ้าเราลองย้อนกลับไป ในวันที่กำเนิดเครื่องบินล่องหนลำแรกๆ
คือปลายยุค 60 กับ SR -70 Blakbird ที่มีรูปร่างล้ำสุดๆ จากสหรัฐ ถึง F-117 Nighthawk ในยุค 90
เรื่อยมาจนถึง B-2 ในช่วงต้นยุค 2000
เราจะพบว่า สิ่งที่เราพบบน J-35 หรือ SU-57 นั้น
สหรัฐทำมันได้ตั้งแต่เกือบสามสิบปีก่อน
ก่อนจะพัฒนามาเป็น F-22 reptor ซึ่งก็ออกมานับสิบปีแล้ว
…ออกมา มากมาถึงขั้นประจำการนะครับ ไม่ใช่บินโชว์…
มันน่าขำ ที่การเปรียบเทียบส่วนมากจากค่ายคู่แข่งของสหรัฐ
เวลาออกมาใหม่ๆ จะต้องใช้อาวุธสหรัฐที่ออกมาก่อนหน้านี้
สิบกว่าปีมาเป็นตัวเปรียบเทียบเสมอ
และเป็นการเปรียบเทียบที่ไม่แฟร์นัก คือ เอา prototype
ไปเทียบกับเครื่องประจำการ
ซึ่งบ่อยครั้ง มันก็ไม่ได้ดีกว่าเขา เช่นกรณี J-20
ที่มักถูกเปรียบเทียบกับ F-35 แล้วก็ยังแป๊กอยู่ดี
โดยไม่ต้องพูดถึง F-22 ที่เป็นตัวท็อปของสหรัฐ
จนทางจีนต้องออก J-35 มาเป็นคู่เทียบตัวใหม่
ซึ่งก็ยังไม่ได้ประจำการ และไม่มีใครรู้ถึงคุณสมบัติ
หรือคุณภาพจริงๆ ในสนามรบเลย
( J-35 ของจีน ปัจจุบันยังอยู่ในสถานะ ทดสอบประจำการ
และไม่ใช่ตัวเล่นหลักของจีน เช่นเดียวกับ SU -57 ของรัสเซีย )
แต่ก็นั่นแหละ บ้านเรา และทางจีน ตีข่าวใหญ่โต
ว่าจีนล้ำหน้าสหรัฐไปแล้ว
เทียบกับของที่ออกมาก่อนเป็นสิบปี ถึงดีกว่ามันแปลกเหรอ?
และเชื่อจริงๆเหรอ ว่าสหรัฐมีเทคโนโลยีในระดับเดียวกัน
กับตัวเองเมื่อ 20 ปีก่อน โดยไม่พัฒนาเลย ?
…ผมว่าคิดแบบไหน มันก็ไม่เมคเซนส์หรอกครับ….
ก็โม้กันจนคนจีนเองด่านั่นแหละ เพราะตอนนั้นเอาแต่โปรโมท
ข่าว Air show ในขณะที่มีการก่ออาชญากรรมร้ายแรง
และน้ำท่วมใหญ่ ชาวบ้านเลยรำคาญ ว่าจะโม้ไรนักหนา…
จีนทำได้นี่มันแปลกยังไงล่ะ มันแปลกที่ข่าวเวอร์เกินมากกว่า…
(1)ภาพถ่าย Blackbird SR-70 ในไทย ตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น , (2) F-117 ออกมาตั้งแต่ยุค 90 จนถึงทุกวันนี้ ถ้ามีชาติไหนเปิดเครื่องบินรูปร่างแบบนี้ มันก็ยังดูล้ำอยู่ดีแหละ
สุดท้าย คือถ้าถามว่า เครื่องบินที่เป็นข่าวจากจีน
มันเปลี่ยนดุลอำนาจแล้วหรือไม่
ตอบได้แบบง่ายๆเลย คือยัง และอีกห่างไกลมาก
ต่อให้มีพวกมันประจำการจริงแล้วสัก 100 ลำ ก็แทบไม่มีผล
กับการครองอากาศ หากต้องรบกับสหรัฐ
เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะมีเงื่อนไขด้านจำนวนมาเกี่ยวข้อง
ปัจจุบัน สหรัฐเป็นชาติเดียวในโลก ที่มีเครื่องบินทางการทหารมากกว่า 10,000 ลำ คือราวๆ 14,000 ลำ
เชื่อหรือไม่ ว่าเอาเครื่องบินของรัสเซียกับจีนรวมกัน
ก็ยังได้แค่ครึ่งเดียวของสหรัฐ
ตัวเลขห่างกันระดับนี้ ถ้าประสิทธิภาพมันไม่ใช่ว่าห่างกัน
มากแบบเหนือชั้น มันจะแทบไม่มีประโยชน์เลย
ง่ายๆนะครับ เอา J-35 หรือ SU-57 ก็ได้ หนึ่งลำ
มันไม่มีทางเก็บ F-18 สามลำได้แน่
มันจะต้องประสิทธิภาพห่างกันมาก
แบบเอาเครื่องบินใบพัดไปบู๊กับ F-16 เลยนั่นแหละ
ถึงจะเปลี่ยนดุลอำนาจได้ ถ้าจำนวนห่างกันระดับนี้
แต่เราก็รู้ ว่าความจริงมันไม่ใช่แบบนั้น
ที่สำคัญมาก คือ สหรัฐเป็นชาติที่มีเครื่องบินเก่าสะสมเยอะมาก
ที่ถูกเก็บเป็นอย่างดี และพร้อมถูกขุดมาใช้ โดยเฉพาะ F-16
กับ F-18 นั่นยิ่งทำให้มีเปรียบมาก ในแง่จำนวน ซึ่งยากมาก
ที่ชาติอื่นจะทำได้
ที่เป็นแบบนั้น ก็เพราะเงื่อนไขด้านเวลา สหรัฐนั้นมีเปรียบ
คนอื่นมาก ในแง่ว่ามาก่อน และทำ สะสมมาอย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่ โซเวียตแตก และจีนเพิ่งเกิด มันจึงไม่สามารถตาม
ได้ทัน ในอนาคตอันใกล้
…นี่ยังไม่นับการสนับสนุนที่จำเป็น และฐานทัพต่างๆนะ …
…มันห่างไกลมาก กับคำว่าแสนยานุภาพจีนเหนือสหรัฐ…
1
คู่นี้ ถ้าจะพูดให้ถูกในด้านแสนยานุภาพ
คือจีนมีดีพอจะสู้สหรัฐ ถ้าเล่นกันหน้าบ้าน แบบสมรภูมิไต้หวัน
หรือสหรัฐนั้นไม่มีทางบุกจีนในปัจจุบันได้
…แต่ไม่ได้หมายความว่า ถ้ามีสงครามขนาดใหญ่
ที่ต้องส่งออกกองกำลังไปจุดอื่นของโลกแล้ว จีนจะสู้สหรัฐได้ …
เช่น สมมุติมีสงครามกันตอนนี้ในตะวันออกกลาง
แล้วจีนส่งกองทัพไปช่วยอิหร่าน ในขณะที่สหรัฐช่วยอิสราเอล
จีนจะไม่มีทางต่อกรกับสหรัฐได้เลย เป็นต้น
ผู้เชี่ยวชาญส่วนมาก ประเมินว่าจีนจะพร้อมรบกับสหรัฐ
แบบ 100% ในทุกที่ทุกเวลา ก็อีกเกินยี่สิบปีโน่นแหละ
…และในเงื่อนไขว่า อเมริกาไม่มีอะไรใหม่ๆโผล่มาด้วยนะ…
…มันโคตรยาก และแทบไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลยแหละ
ถ้าจะพูดถึงในแง่ดุลอำนาจ…
แต่ด้วยความไม่รู้ มันเลยดูเทพจริงๆเลย สำหรับกองเชียร์จีน…
แต่เอาจริงๆ ผมว่ามันเจ๋งตรงจีนแซงรัสเซีย
มาไกลมากแล้วต่างหาก…
…มันเป็นการบอกโลก ว่าข้าต่างหาก ที่เป็นเบอร์สองจริงๆ…
…และเป็นคู่ท้าชิง ที่สมน้ำสมเนื้อที่สุด…
โฆษณา