วันนี้ เวลา 01:04
พักกาย พักจิต มาอยู่เงียบๆ
แบ่งปันเวลา นำกายมาอยู่คนเดียว ไม่วุ่นวาย นำกายมาสร้างให้กายสงบ กายมีบุญ แต่งมันก็เป็นเรื่องยาก ของง่ายก็กลายเป็นของยาก ..สละเวลาให้แก่จิตของตัวเองไม่ได้เลย เพราะจะได้มีโอกาส เรียนรู้เรื่องราวของจิตที่อาศัยภายในกายนี้ ..คือ รู้จักจักตัวตนของตนเอง รู้จักนิสัยตัวเอง ..อะไรไม่ดี เราก็ทิ้งมันไป ..
1
การที่อยู่เงียบ ก็เป็นเรื่องราวที่ดี การที่เราปลีกตัว ออกจากสิ่งที่คุ้นเคย กับสถานที่คุ้นเคย คนที่รอบข้างเสียบ้าง ก็ช่วยให้วิญญาณทั้งหก นั่นยุติ ไม่ไปสัมผัส รับรู้เรื่องราวของคนนั้นคนนี้ มาเป็น ..มาสร้างอารมณ์ นึกคิดอะไรต่างๆมากมายก่ายกอง
ครั้งหนึ่ง .เราไปเจอะเจอพระที่ท่านก็ธุดงค์ทุกปี เจอกุฏิของท่าน ภายในห้องที่ท่านจำวัด มีแค่ห้องโล่ง พื้นเป็นเงามัน มันดูสะอาดสะอ้าน ไม่มีอะไรเลย ไม่อะไรวางเลย ท่านพูดน้อย แต่พูดสั้นๆ เช่นว่า คนเราอยู่กับกรรม ก็ไม่รู้จักกรรม อยู่กับอารมณ์ก็ไม่รู้จักอารมณ์ ไม่รู้จักจิตของตัวเองเลย จิตนั้นต้องการคำว่าบุญกุศลบารมี
การที่นำกาย วาจา ใจ ไปอยู่ แบ่งเวลา มาทำกายนิ่ง จิตนิ่ง ..มานั่งสวดมนต์ ปฏิบัติธรรมขึ้นมา ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครเวลานั้น ไม่ได้ไปใช้คำพูด เรื่องราวคนนั้นคนนี้ อารมณ์ความคิดต่างเราก็หยุดชั่วขณะหนึ่ง จิตเราก็ค่อยโผล่ขึ้นมา เพราะกายไม่มีอารมณ์อะไรปรุงแต่ง ตรงนั้น ก็เป็นเวลาที่กายสงบ จิตสงบ ก็ค่อยมองเห็นว่า การประพฤติปฏิบัติธรรมนั้น ช่วยเหลือจิต ให้จิตนั่นมีสติมากขึ้น ค่อยๆมองเห็นเข้าใจ คำว่าอารมณ์มากขึ้น
..อารมณ์ที่คอยรบกวนไม่ให้จิตเป็นสมาธิเป็นอิสระจากอารมณ์ นั่นจึงเป็นเรื่องของจิต ที่ต้องมีความขันติอดทน เมื่อปลีกเวลา มาอยู่เงียบไม่วุ่นวายกับใคร เป็นเวลาของตัวเอง ที่อยู่กับ กาย .ไม่พัวพันกับใคร เราก็เรียนรู้เรื่องราวของอารมณ์ที่ไม่มีตัวตน แต่เราไปยึดให้มีตัวมีตน ยึดเพื่อใช้กายวาจาใจไปสร้างกรรม เราก็ได้โอกาสปลดเปลื้องอารมณ์กรรมนั้นไป เมื่อมาสวดมนต์ ปฏิบัติธรรมขึ้นมา ให้กายสงบจิตสงบ
1
โฆษณา