Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลงทุนแมน
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
10 ม.ค. เวลา 03:29 • ธุรกิจ
เวียตเจ็ทแอร์ สายการบินที่ใช้เวลาเพียง 14 ปี ในการก้าวขึ้นเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน
ถ้าเราลองดูอันดับมูลค่าบริษัทของสายการบินต่าง ๆ ในอาเซียน เทียบกับจำนวนปีที่ดำเนินการมา จะพบว่า
1. สิงคโปร์แอร์ไลน์ส 483,970 ล้านบาท อายุ 52 ปี
2. เวียดนามแอร์ไลน์ 82,000 ล้านบาท อายุ 30 ปี
3. เวียตเจ็ทแอร์ 74,000 ล้านบาท อายุ 14 ปี
4. แอร์เอเชีย 51,000 ล้านบาท อายุ 29 ปี
5. บางกอกแอร์เวย์ส 47,000 ล้านบาท อายุ 39 ปี
สิ่งที่น่าสนใจคือการเติบโตของ เวียตเจ็ทแอร์ ที่ใช้เวลาเพียง 14 ปี หรือไม่ถึงครึ่งของบริษัทอื่น ๆ แต่สามารถก้าวเป็นยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ของวงการสายการบินในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างรวดเร็ว
แล้วทำไม เวียตเจ็ทแอร์ ถึงเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เวียตเจ็ทแอร์ คือสายการบินราคาประหยัดของเวียดนาม ที่เริ่มต้นทำธุรกิจในปี 2550 และมีการให้บริการเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ครั้งแรกเมื่อปี 2554
โดยถ้าเราดูรายได้ของบริษัท เวียตเจ็ทแอร์
ปี 2558 ทำได้ 27,000 ล้านบาท
ปี 2560 ทำได้ 57,000 ล้านบาท
ปี 2562 ทำได้ 69,000 ล้านบาท
ปี 2564 ทำได้ 17,000 ล้านบาท
ปี 2566 ทำได้ 79,000 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่า รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในแต่ละปี โดยถึงแม้จะสะดุดไปในช่วงที่มีการแพร่ระบาด แต่หลังจากสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ รายได้ของบริษัทก็กลับมา และสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้แล้วในปี 2566
และถ้าดูจากรายได้ในช่วง 12 เดือนล่าสุดก็จะพบว่าอยู่ที่ 96,000 ล้านบาท หรือเกือบแตะระดับแสนล้านบาทแล้ว
รายได้จำนวนมากนี้ก็มาจากการให้บริการเที่ยวบินทั้งหมด 155 เส้นทาง ซึ่งเป็นเส้นทางในประเทศ 43 เส้นทาง และระหว่างประเทศอีก 112 เส้นทาง ครอบคลุมทั้งไทย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และอีกหลายประเทศ
ความสำเร็จของเวียตเจ็ทแอร์ ทำให้คุณ Nguyen Thi Phuong Thao ที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ของบริษัท ในสัดส่วน 8.76% ถูกประเมินว่ามีทรัพย์สินรวมสูงถึง 97,000 ล้านบาท และกลายเป็นมหาเศรษฐีหญิงอันดับ 1 ของเวียดนามอยู่ในตอนนี้
แต่ต้องบอกว่า คุณ Nguyen Thi Phuong Thao ยังมีการลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ นอกจากสายการบินด้วย เช่น ธนาคาร, อสังหาฯ
3
และถ้าถามว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ เวียตเจ็ทแอร์ สามารถเติบโตและยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้ คำตอบก็มีอยู่ 2 อย่างหลัก ๆ ได้แก่
1. กลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จ
ถ้าเราลองวิเคราะห์กลยุทธ์ของเวียตเจ็ทแอร์ จะพบว่าบริษัทได้ใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายในการเอาชนะในตลาดสายการบินนี้ ไม่ว่าจะเป็น
- การเจาะกลุ่มลูกค้าอย่างชัดเจน
โดยเวียตเจ็ทแอร์จะเน้นจับลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีรายได้ปานกลางและรักการเดินทาง ด้วยแนวคิดการให้บริการที่ราคาไม่แพง แต่ยังคงรักษาระดับคุณภาพของการให้บริการ
และเมื่อบริษัทต้องการขายตั๋วในราคาที่ไม่แพง ก็เท่ากับว่าบริษัทจำเป็นต้องกดต้นทุนให้ได้ต่ำที่สุด เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกที่สุดแก่ลูกค้า
โดยสิ่งที่เวียตเจ็ทแอร์เลือกที่จะทำ ก็คือการตัดบริการเสริมที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น บริการความบันเทิงบนเครื่องบิน
ผลลัพธ์ที่ตามมาของการพยายามลดต้นทุน ทำให้ในวันนี้เวียตเจ็ทแอร์ มีต้นทุนที่นั่งต่อหนึ่งกิโลเมตร (CASK) ที่ต่ำเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถตั้งราคาค่าโดยสารที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดได้ และทำให้สามารถแข่งขันกับสายการบินทั้งในประเทศและต่างประเทศได้
- การทำให้จำนวนที่นั่งว่างบนเครื่องเหลือน้อยที่สุด
โดยปกติแล้วในทุกเที่ยวบินมักจะต้องมีที่นั่งว่าง เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่ไม่ต้องการหรือมีผู้โดยสารไม่เพียงพอ
กลยุทธ์ของเวียตเจ็ทแอร์คือ การนำที่นั่งว่างเหล่านี้ มาเสนอขายในราคาถูก ซึ่งทำให้บริษัทสามารถสร้างรายได้เพิ่มได้อย่างเต็มที่
- การสร้างเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม
โดยเวียตเจ็ทแอร์ มีการจำหน่ายตั๋วผ่านทั้งช่องทางตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA), แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชันในมือถือ), โทรศัพท์ และตัวแทนจำหน่ายออฟไลน์ รวมถึงจุดขายเกือบ 40,000 แห่ง ทั้งในประเทศเวียดนาม และต่างประเทศ
ซึ่งเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่หลากหลายนี่เอง ที่ทำให้ลูกค้าทั่วโลกสามารถจองตั๋วและบริการต่าง ๆ ของเวียตเจ็ทแอร์ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว และช่วยให้บริษัทเข้าถึงลูกค้าได้เพิ่มขึ้น
2. การเติบโตของอุตสาหกรรมการบินของเวียดนาม
รู้หรือไม่ว่า เวียดนามคือหนึ่งในประเทศที่มีภาคการบินเติบโตเร็วที่สุดในโลก
โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เวียดนามมีจำนวนผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออกที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น
- การเติบโตของเศรษฐกิจและรายได้ที่เพิ่มขึ้นของคนเวียดนาม ทำให้ความต้องการในการเดินทางระหว่างเมืองเพิ่มมากขึ้น
โดย GDP ของเวียดนามเพิ่มขึ้นเกือบเป็นเท่าตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ปี 2557 มูลค่า 8 ล้านล้านบาท
ปี 2567 มูลค่า 15 ล้านล้านบาท
ในขณะที่ GDP ต่อหัวประชากรของเวียดนาม ก็เพิ่มขึ้นถึง 6.4% ต่อปีโดยเฉลี่ย จนตอนนี้ก็สูงถึง 156,000 บาทแล้ว
- อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว และมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง จากความต้องการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากตลาดในประเทศและต่างประเทศ
โดยถ้าดูตัวเลขนักท่องเที่ยวของเวียดนามจะพบว่า
ปี 2564 มี 0.16 ล้านคน
ปี 2565 มี 3.66 ล้านคน
ปี 2566 มี 12.6 ล้านคน
ปี 2567 มี 17.5 ล้านคน
จะเห็นได้ว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวของเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดหลังการเปิดประเทศ และในปีที่ผ่านมา ก็สามารถกลับไปเท่ากับก่อนระดับเกิดวิกฤติได้แล้ว
- การสนับสนุนจากภาครัฐ ผ่านการออกนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมการบินหลายนโยบาย เช่น การลงทุนขยายและปรับปรุงท่าอากาศยาน
จากทั้งหมดที่กล่าวมา สามารถสรุปสั้น ๆ ได้ว่าความสำเร็จของเวียตเจ็ทแอร์ เป็นผลมาจากการที่บริษัทกำลังเป็นผู้ชนะในตลาดที่กำลังเติบโต
โดยไม่ใช่แค่บริษัทสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้มากขึ้น แต่ตลาดนั้นก็ยังใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อผลจาก 2 สิ่งนี้รวมกัน ก็ได้ทำให้ เวียตเจ็ทแอร์ เติบโตอย่างก้าวกระโดด จนมีมูลค่ามากถึง 74,000 ล้านบาท ซึ่งมากเป็นอันดับ 3 ของอาเซียนได้ ในระยะเวลาเพียงแค่ 14 ปีเท่านั้น..
References
-
https://ir.vietjetair.com/Home/Post/welcome-investor
-
https://tradingeconomics.com/
-
https://www.tradingview.com/
ธุรกิจ
5 บันทึก
42
2
6
5
42
2
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย