10 ม.ค. เวลา 04:06 • หุ้น & เศรษฐกิจ
efinanceThai

UN คาด เศรษฐกิจโลกปีนี้เติบโตที่ 2.8% เท่าปีก่อน ชี้สหรัฐฯ-จีนมีแนวโน้มชะลอตัวลง

องค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยรายงานการคาดการณ์ล่าสุดว่า การเติบโตของเศรษฐกิจโลก จะยังคงอยู่ที่ระดับ 2.8% ในปี 2025 ไม่เปลี่ยนแปลงจากปี 2024 โดยถูกฉุดรั้งจาก 2 ประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก อย่างสหรัฐฯ และจีน
รายงานสถานการณ์และแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Situation and Prospects – WESP) ระบุว่า “การคาดการณ์การเติบโตในเชิงบวก แต่การเติบโตของสหรัฐฯและจีน จะชะลอตัวลงเล็กน้อย” แต่จะถูกหนุนด้วยการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร รวมถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่บางประเทศ โดยเฉพาะอินเดียและอินโดนีเซีย
รายงาน WESP ระบุว่า “แม้เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่คาดว่า เศรษฐกิจโลกจะเติบโตในอัตราที่ช้ากว่าค่าเฉลี่ยในปี 2010–2019 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 3.2% “การเติบโตที่ชะลอตัวนี้ สะท้อนถึงความท้าทายเชิงโครงสร้างที่ยังมีอยู่ เช่น การลงทุนที่อ่อนแอ การเติบโตที่ชะลอตัวของผลผลิต ระดับหนี้ที่สูง และแรงกดดันด้านประชากร”
ส่วนการเติบโตของสหรัฐฯ คาดว่าจะชะลอตัวลงจากระดับ 2.8% เมื่อปีที่แล้ว สู่ระดับ 1.9% ในปี 2025 เนื่องจากตลาดแรงงานที่อ่อนตัวลงและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง ขณะเดียวกัน รายงานยังระบุว่า การเติบโตของจีน คาดว่าจะอยู่ที่ 4.8% ในปีนี้ และคาดว่าอยู่ที่ 4.9% ในปีที่แล้ว โดยการลงทุนในภาคส่วนสาธารณะและการส่งออกที่แข็งแกร่ง ถูกบดบังจากการเติบโตของการบริโภคที่ชะลอตัวและความอ่อนแอของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดเยื้อ
ด้านเศรษฐกิจยุโรปจะฟื้นตัวในระดับปานกลาง โดยการเติบโตจะเพิ่มขึ้นจากระดับ 0.9% ในปี 2024 เป็น 1.3% ในปี 2025 จากเงินเฟ้อที่ลดลงและตลาดแรงงานที่มีความยืดหยุ่น
ส่วนเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียใต้ยังคงเติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยคาดว่า GDP จะขยายตัวที่ระดับ 5.7% ในปี 2025 และ 6% ในปี 2026 โดยได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของอินเดีย และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภูฏาน เนปาล ปากีสถาน และศรีลังกา โดยตามรายงานระบุว่าอินเดีย ซึ่งเป็นชาติเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้ คาดว่าจะเติบโตที่ระดับ 6.6% ในปี 2025 และ 6.8% ในปี 2026 จากการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ บรรดาธนาคารกลางของชาติสำคัญ มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปี 2025 เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ชะลอตัว โดยคาดว่าเงินเฟ้อทั่วโลกจะลดลงจากระดับ 4% ในปี 2024 เป็น 3.4% ในปี 2025 ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาให้กับภาคครัวเรือนและธุรกิจได้บ้างบางส่วน
ที่มา Reuters
โฆษณา