Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
efinanceThai - สำนักข่าวหุ้น และการลงทุน
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
10 ม.ค. เวลา 05:28 • หุ้น & เศรษฐกิจ
efinanceThai
ส่องงบ SCC งวด Q4/67 โบรกฯมองขาดทุนลดลง ลุ้นปี 68 ทยอยฟื้นตัว ให้เป้าหมาย 160-210 บาท
ประเมินผลการดำเนินงานไตรมาส 4/67 ของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC โดยส่วนใหญ่มีมุมมองในไตรมาส 4 ขาดทุนลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 1,134 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้
***บล.หยวนต้า มอง Q4/67 กำไรสุทธิพลิกเป็นบวก 91 ลบ.
บล.หยวนต้า ประเมินว่า ในไตรมาส 4/67 SCC จะมีกำไรสุทธิบางๆ ที่ 91 ล้านบาท ลดลง 87% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่พลิกจากขาดทุน 1,100 ล้านบาทในไตรมาส 4/66 ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของธุรกิจหลักทั้ง 3 ยังทำได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 3/67 โดยธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง คาดปัจจัยบวกจากกิจกรรมการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และอานิสงส์งบประมาณก่อสร้างภาครัฐ ถูกชดเชยด้วยผลกระทบจากน้ำท่วม และหนี้ครัวเรือนระดับสูง
ส่วนธุรกิจปิโตรเคมี แม้อัตราใช้กำลังผลิตจากโรงงานในประเทศจะสูงขึ้นเป็น 85% จากการ Optimization การผลิตกับโครงการ LSP อย่างไรก็ตาม ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นถูกชดเชยด้วย PE Spread ที่ลดลง ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์ คาดประคองตัวเพราะการปรับตัวลงของต้นทุนวัตถุดิบถูกชดเชยด้วยอุปสงค์ชะลอตัว
สำหรับแนวโน้มปี 68 มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากผ่านช่วงลงทุนใหญ่มาแล้ว และอยู่ระหว่างปรับลดหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย โดยผู้บริหารให้ข้อมูลว่า CAPEX จะเหลือ 30,000 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสูงขึ้นจากการเร่งเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ Low Carbon Cement ต้นทุนปิโตรเคมีได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันชะลอตัว โครงการเพิ่มประสิทธิภาพของ Fajar และมาตรการควบคุมค่าใช้จ่าย หยุดธุรกิจที่ไม่สร้างกำไร เป็นต้น
ทั้งนี้ คงคำแนะนำ TRADING ไว้ก่อน ประเมินราคาเหมาะสมใหม่ที่ 210 บาทต่อหุ้น เนื่องจากในระยะสั้นหุ้นยังไม่มี Catalyst และมีโอกาสถูก Consensus ปรับประมาณการกำไรลง ประเมินเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังที่ผ่านมาที่ 1 บาทต่อหุ้น
***บล.กรุงศรี คาด Q4/67 ขาดทุนสุทธิ 926 ลบ. มอง Q1/68 พลิกมีกำไร
บล.กรุงศรี มองว่า ในไตรมาส 4/67 จะขาดทุนสุทธิ 926 ล้านบาท โดยขาดทุนน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะไม่มีด้อยค่าธุรกิจซีเมนต์ในเมียร์มาร์มาฉุดเหมือนไตรมาส 4/63 แต่หากพิจารณา Operation จะแย่ลง เพราะฝั่งปิโตรเครมี ถูกกำลังการผลิตใหม่ที่เข้ามามากทำให้เกิด Oversupply ฉุด Product spread และต้องแบกรับต้นทุนคงที่ของโครงการ LSP ที่เริ่ม COD แล้วแต่ต้องหยุดผลิตจากระดับ spread ที่ต่ำกว่า cash cost ด้านธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยังเผชิญการแข่งขันสูงส่งผลให้อัตรากำไรลดลง
อย่างไรก็ตาม คาดว่าไตรมาส 1/68 จะพลิกมีกำไรดีขึ้นทั้งเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการฟื้นตัวของเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า มาจากธุรกิจซีเมนต์ปริมาณขายฟื้นตามโครงการรัฐ และปิโตรเคมี อัตรากำไรฟื้นจาก demand re-stock ของจีน
*** บล.ดีบีเอสฯ มองไตรมาส 1/68 ยังท้าทาย แนะนำถือ ให้เป้าราคา 182 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ประเมินว่า SCC ในไตรมาส 4/67 จะขาดทุนสุทธิที่ 770 ล้านบาท (จากขาดทุนสุทธิใน Q4/66 ที่ 1.13 พันล้านบาท และกำไรสุทธิใน Q3/67 ที่ 721 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจาก
1.ค่าเสื่อมราคาสูงขึ้น 1 พันล้านบาท หลังจากการเริ่มดำเนินโครงการ LSP ในเดือน ต.ค. 2.ไม่มีกำไรพิเศษ ซึ่งใน Q3/67 มีกำไรจากเครื่องมือทางการเงิน 2.1 พันล้านบาท) 3.ความต้องการใช้ซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง (CBM) อ่อนแอลง 4.มาร์จิ้นปิโตรเคมีลดลง และ 5.ผลประกอบการธุรกิจบรรจุภัณฑ์ชะลอตัวลง คาดว่า EBITDA รวมไว้ที่ 6.71 พันล้านบาท
โดยความต้องการปูนซีเมนต์เทาในประเทศช่วง Q4/67 ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสต่อไตรมาส แต่เพิ่มขึ้นราว 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ แม้ว่าความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในกลุ่มครัวเรือนและธุรกิจจะชะลอตัวจากน้ำท่วม แต่ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์โครงการภาครัฐสูงขึ้น ราคาปูนซีเมนต์ในประเทศเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 2,100-2,150 บาทต่อตัน อย่างไรก็ตาม ความต้องการสินค้าก่อสร้างและตกแต่งบ้านยังคงชะลอตัวในไตรมาสนี้
ด้านผลประกอบการ ไตรมาส 1/68 ยังคงท้าทาย อัตรากำไร PE ลดลงสู่ระดับต่ำมากในรอบ 18 ปี แม้ในช่วงฤดูกาลที่ผู้ผลิตต้องสต็อกสินค้าเพื่อเทศกาลตรุษจีน ทั้งนี้ราคา PE ลดลงต่ำกว่า 900 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2019 และอัตรากำไร PE อยู่ต่ำกว่า 300 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2007 เพราะราคาผลิตภัณฑ์ลดลงแต่ต้นทุน Naphtha สูงขึ้น หากไม่มีนโยบายกระตุ้น (โดยเฉพาะจากจีน) ธุรกิจจะซบเซาไปอีกนาน
ทั้งนี้ คงคำแนะนำ "ถือ" ให้ราคาพื้นฐาน 182 บาท (วิธี SOTP) ทั้งนี้เราปรับลดการคาดการณ์กำไรสุทธิปี 68 ลง -23% จาก 15.09 พันล้านบาท เป็น 11.59 พันล้านบาท สะท้อนการปรับลดสมมติฐานอัตรากำไร PE/PP ลง 50 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน จาก 350 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน เป็น 300 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน
***บล.ทิสโก้ คาดขาดทุน 1,100 ล้านบาท พร้อมคงคำแนะนำถือ
บล.ทิสโก้ คาดว่า SCC จะรายงานผลขาดทุน 1.1 พันล้านบาท สำหรับไตรมาส 4/67 คาดว่าผลประกอบการจะได้รับผลกระทบจากการรับรู้ผลขาดทุนเต็มไตรมาสจากคอมเพล็กซ์ปิโตรเคมีลองเซิน (LSP) โดยประมาณการว่าส่วนต่างราคาเคมีภัณฑ์เฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของ SCC จะยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยมีโอกาสเพิ่มปริมาณจากการได้ลูกค้าใหม่ในเวียดนาม SCC ได้จัดสรรปริมาณจาก LSP ในเวียดนามไปยังแคร็กเกอร์เดิมในไทยเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพ
สำหรับ CBM อุปสงค์ปูนซีเมนต์ในประเทศเพิ่มขึ้น 10% YoY ในช่วงต.ค.-พ.ย.67 ขับเคลื่อนโดยการเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายภาครัฐ ตามข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม โมเมนตัมน่าจะชะลอตัวลงในช่วงปลายปีเนื่องจากช่วงวันหยุดยาว ในขณะเดียวกันการดำเนินงานในภูมิภาคควรเห็นการฟื้นตัวบางส่วนโดยเฉพาะในเวียดนาม
ทั้งนี้ คงคำแนะนำ "ถือ" สำหรับ SCC โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 178 .00 บาท ตามวิธี SOTP ซึ่งมีความเสี่ยงด้านลงที่สำคัญ : ส่วนต่างราคาเคมีภัณฑ์ที่แคบลงและการหยุดดำเนินการที่ไม่ได้วางแผน ปัจจัยบวกที่สำคัญ: ส่วนต่างราคาเคมีภัณฑ์ที่กว้างขึ้น
***บล.ยูโอบี ประเมิน ขาดทุนสุทธิ 930 ล้านบาท ชี้กำไรลดลงในทุกกลุ่มธุรกิจ
บล.ยูโอบี คาดว่า SCC จะรายงานขาดทุนสุทธิ 930 ล้านบาท ในไตรมาส 4/67 โดยมีกำไรลดลงในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมีที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการที่ส่วนต่างกำไรของโอลิฟินส์ยังคงอ่อนแอ โดยปรับประมาณการกำไรสุทธิสำหรับปี 67-68 เพื่อลดความสามารถในการทำกำไรในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนซับพลายที่ยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งคาดว่าจะกดดันธุรกิจปิโตรเคมีในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ คงคำแนะนำ “ถือ” ด้วย ราคาเป้าหมายที่ 160.00 บาท
หุ้น
การลงทุน
เศรษฐกิจ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย