13 ม.ค. เวลา 06:00 • การตลาด

Emotion Driven Choices : เมื่อผู้บริโภคเลือกแบรนด์จากความรู้สึก

โลกของการตลาดสมัยใหม่ การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เป็นเหตุเป็นผลเพียงอย่างเดียว แต่ยังถูกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์และความรู้สึกอย่างลึกซึ้ง นี่คือแนวคิดที่เรียกว่า Emotion Driven Choices ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ธุรกิจต้องให้ความสนใจ การสร้างอารมณ์ร่วมและคุณค่าที่ตอบสนองต่อความต้องการในใจผู้บริโภคไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มยอดขาย แต่ยังสร้างความภักดีในระยะยาว
Emotion Driven Choices คืออะไร?
Emotion Driven Choices หมายถึงการตัดสินใจของผู้บริโภคที่มีรากฐานมาจากอารมณ์และความรู้สึก แทนที่จะเป็นการตัดสินใจจากข้อมูลเพียงอย่างเดียว ตัวอย่างเช่น ผู้บริโภคอาจเลือกซื้อสินค้าหรือบริการจากแบรนด์ที่พวกเขารู้สึกเชื่อมั่น หรือมีความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่ดีกับแบรนด์นั้น ๆ มากกว่าที่จะเลือกจากราคาเพียงอย่างเดียว
Emotion Driven Choices : บทบาทของอารมณ์ในกระบวนการตัดสินใจ
การสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ (Emotional Connection)
ผู้บริโภคมักเลือกแบรนด์ที่สามารถเชื่อมโยงกับคุณค่าและความเชื่อของพวกเขาได้ เช่น แบรนด์ที่สนับสนุนความยั่งยืนหรือการช่วยเหลือสังคม การแสดงจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องเหล่านี้ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งกับผู้บริโภค
ความทรงจำและประสบการณ์ที่ดี
ความรู้สึกที่ดีที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์ เช่น ความทรงจำที่ดีกับผลิตภัณฑ์หรือการบริการที่ประทับใจ มักส่งผลให้เกิดความภักดีและการบอกต่อในเชิงบวก
อารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์แบรนด์
ภาพลักษณ์แบรนด์ที่สร้างความรู้สึก เช่น ความหรูหรา ความสนุกสนาน หรือความอบอุ่น สามารถส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้า
Emotion Driven Choices : การสร้างอารมณ์ร่วมและคุณค่าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค
1. การเล่าเรื่องที่น่าดึงดูดใจ (Storytelling)
แบรนด์ที่สามารถเล่าเรื่องราวที่น่าประทับใจและเกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้บริโภคมักสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ตัวอย่างเช่น การเล่าเรื่องราวเบื้องหลังของผู้ผลิตสินค้าที่ช่วยสร้างคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์
2. การออกแบบประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
การออกแบบประสบการณ์ที่โดดเด่นในทุกจุดสัมผัส เช่น การบริการลูกค้าที่อบอุ่น การออกแบบร้านค้าที่มีบรรยากาศดี หรือการใช้งานเว็บไซต์ที่สะดวกสบาย ช่วยสร้างความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์
3. การสื่อสารที่มีอารมณ์ร่วม
การใช้ข้อความ ภาพ หรือวิดีโอที่สร้างอารมณ์ร่วม เช่น โฆษณาที่เน้นความอบอุ่นในครอบครัวหรือการสร้างแรงบันดาลใจ สามารถกระตุ้นความรู้สึกของผู้บริโภคและเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อ
4. การสร้างคุณค่าที่สอดคล้องกับความเชื่อของผู้บริโภค
แบรนด์ที่แสดงจุดยืนหรือค่านิยมที่ชัดเจน เช่น การสนับสนุนสิ่งแวดล้อม ความเท่าเทียม หรือการคืนกำไรให้สังคม จะได้รับการสนับสนุนจากผู้บริโภคที่มีค่านิยมเดียวกัน
ตัวอย่างของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จใน Emotion Driven Choices
Apple
Apple สร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับลูกค้าผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่ายแต่หรูหรา และการเล่าเรื่องเกี่ยวกับนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงโลก
Coca-Cola
Coca-Cola ใช้โฆษณาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ความสุข และการเฉลิมฉลองเพื่อสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงกับผู้บริโภค
Patagonia
Patagonia แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการสนับสนุนความยั่งยืนและการรักษาสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องเหล่านี้รู้สึกผูกพันกับแบรนด์
การสร้างอารมณ์ร่วมกับลูกค้าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เช่น HubSpot CRM จะช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย HubSpot ช่วยให้ธุรกิจเก็บข้อมูลสำคัญ เช่น ความสนใจ พฤติกรรม และความต้องการของลูกค้า ทำให้สามารถออกแบบประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ได้ ช่วยให้แบรนด์สามารถส่งข้อความหรือข้อเสนอที่ตรงกับความต้องการและความรู้สึกของลูกค้าได้ในเวลาที่เหมาะสม
โดย HubSpot ช่วยสร้าง Workflow อัตโนมัติ เช่น การส่งข้อความขอบคุณหรือการเสนอโปรโมชั่นพิเศษที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้า นอกจากนี้ ด้วยฟีเจอร์การวิเคราะห์ของ HubSpot ธุรกิจสามารถประเมินความพึงพอใจและปรับปรุงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับลูกค้า
Emotion Driven Choices คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างความแตกต่างในตลาด การสร้างอารมณ์ร่วมและคุณค่าที่ตอบสนองต่อความต้องการในใจผู้บริโภคช่วยเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อและสร้างความภักดีในระยะยาว และเมื่อใช้เครื่องมืออย่าง HubSpot CRM ควบคู่ไปด้วย ธุรกิจจะสามารถจัดการข้อมูลลูกค้าและสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายได้อย่างมืออาชีพ
อ่านบทความเพิ่มเติม :
โฆษณา